The impacts of globalization have p

The impacts of globalization have pressured SMEs to greater demands. Particularly in the manufacturing sector SMEs are facing a pressure to increase R&D, innovation and quality. Innovation relies on bringing together different types of research and utilizing this knowledge to design new products, thus, innovation increasingly depends on links between scientific research and industrial R&D and without an R&D focus, companies risk falling behind competitors in innovative new products. The overall spending on R&D in Thailand is still low at 0.26% of total expenses. Thus, there is a need to increase government subsidies in terms of R&D support in order to gain competitive advantage over foreign competitors . Furthermore, there are many SMEs managers in Thailand that lack in education, knowledge and capability to drive advanced development in terms of innovation which consequently lead to technological weakness in Thai companies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลกระทบของโลกาภิวัตน์ได้กดดัน SMEs เพื่อตอบสนองความต้องการที่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิตของ SMEs กำลังเผชิญความกดดันที่จะเพิ่ม r & d นวัตกรรมและคุณภาพ นวัตกรรมอาศัยร่วมกันนำชนิดที่แตกต่างกันของการวิจัยและการใช้ความรู้นี้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ดังนั้นนวัตกรรมมากขึ้นขึ้นอยู่กับการเชื่อมโยงระหว่างการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม r & d และไม่มี r & d บริษัท ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงต่อการล้มหลังคู่แข่งในผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ การใช้จ่ายโดยรวมใน r &งในประเทศไทยยังคงเป็นระดับต่ำที่ 0.26% ของค่าใช้จ่ายรวม ดังนั้นมีความจำเป็นต้องเพิ่มเงินอุดหนุนจากรัฐในแง่ของการสนับสนุน& r d เพื่อที่จะได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคู่แข่งของต่างประเทศคือ นอกจากนี้ยังมีผู้จัดการ SMEs จำนวนมากในประเทศไทยที่ขาดในการศึกษาความรู้และความสามารถในการผลักดันการพัฒนาขั้นสูงในแง่ของนวัตกรรมที่จึงนำไปสู่​​ความอ่อนแอทางเทคโนโลยีใน บริษัท ไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลกระทบของโลกาภิวัตน์ได้กดดัน SMEs เพื่อความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิต SMEs กำลังเผชิญกับแรงกดดันเพิ่ม R&D นวัตกรรม และคุณภาพ นวัตกรรมอาศัยนำวิจัยชนิดต่าง ๆ และใช้ความรู้นี้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ ดังนั้น นวัตกรรมมากขึ้นขึ้นอยู่กับการเชื่อมโยง ระหว่างการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม R&D และไม่ มี ความเป็น R&D บริษัทความเสี่ยงตกอยู่ข้างหลังคู่แข่งในสินค้านวัตกรรมใหม่ ค่าใช้จ่ายใน R&D ในประเทศไทยโดยรวมจะยังคงต่ำสุดที่ 0.26% ของค่าใช้จ่ายรวม ดังนั้น จำเป็นต้องเพิ่มรัฐบาลสนับสนุนเงินอุดหนุนในรูปแบบของ R&D เพื่อให้ได้เปรียบเหนือคู่แข่งต่างประเทศได้ นอกจากนี้ มีผู้จัดการ SMEs หลายประเทศที่ขาดการศึกษา ความรู้ และความสามารถในการขับรถขั้นสูงการพัฒนาในด้านนวัตกรรมที่จึง ทำให้อ่อนแอเทคโนโลยีในบริษัทไทย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากกระแสโลกา ภิวัตน์ ได้กดดันธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs ความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะใน ภาค การผลิตที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs หันหน้าเข้าหาความดันที่จะเพิ่ม r&d คุณภาพ และนวัตกรรม นวัตกรรมขึ้นอยู่กับ ประเภท ที่แตกต่างกันไปซึ่งการวิจัยและการใช้ความรู้นี้ในการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ ใหม่ดังนั้นนวัตกรรมใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆขึ้นอยู่กับ L ระหว่าง r&d อุตสาหกรรมและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และไม่มีความสำคัญ r&d ที่บริษัทความเสี่ยงลดลงหลังคู่แข่งใน ผลิตภัณฑ์ ใหม่นวัตกรรมใหม่ การใช้จ่ายโดยรวมที่ r&d ในประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำยังอยู่ที่เท่ากับ 0.26 เท่าของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ดังนั้นมีความจำเป็นที่จะเพิ่มเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอยู่ในเงื่อนไขของการสนับสนุน r&d ในการสั่งซื้อจะได้รับประโยชน์จากความสามารถในการแข่งขันได้มากกว่าคู่แข่งจากต่างประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นมีผู้จัดการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจำนวนมากในประเทศไทยที่ไม่มีความรู้ในด้านการศึกษาและความสามารถในการขับรถการพัฒนาขั้นสูงในด้านของนวัตกรรมซึ่งนำไปสู่ความอ่อนแอทางด้านเทคโนโลยีในบริษัทของไทย