that were chosen. The mean area of

that were chosen. The mean area of the sample is 17,875m2 with
a standard deviation of 14,113m2. The minimum is 1748m2 and
maximum 63,585m2. Since the logarithm of area was also found
to be significant indicating that scale differences affect energy efficiency,
this variable was also included to normalise EPI. Regression
coefficients were obtained for each of these three standardised variables
with EPI as the dependent variable. An adjusted R-squared of
0.59 was obtained for these three variables and all three variables
are significant at the 0.01 level. Residuals were tested for normality
and both Kolmogorov–Smirnov and Shapiro–Wilk tests were significant
(p > 0.15). A bootstrapping technique was used to arrive
at the final parameter estimates since the sample size is small.
The bootstrapped parameter estimates were then used in Eq. (1)
to determine normalised EPI for each facility. Three normalised
benchmark ranges were determined using the lower third, middle
third and top third groups from the sample to represent low, moderate
and high energy efficiency ranges. The benchmark percentiles
were also estimated using bootstrapping.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่ถูกเลือก พื้นที่เฉลี่ยของตัวอย่างคือ 17,875m 2 ด้วยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของ 14, 113 ม. 2 ต่ำสุดคือ ม. 1748 และสูงสุด 63, 585 ม. 2 เนื่องจากยังพบลอการิทึมของพื้นที่จะสำคัญบ่งชี้ว่า ระดับความแตกต่างมีผลต่อประสิทธิภาพการใช้พลังงานตัวแปรนี้ยังรวมอยู่กับ normalise EPI ถดถอยสัมประสิทธิ์ที่ได้รับสำหรับแต่ละตัวแปรแบบนี้สามกับ EPI เป็นตัวแปรที่ขึ้นอยู่กับ การปรับปรุงลอการิทึมของกล่าวคือ 0.59 สำหรับตัวแปรที่สามเหล่านี้และตัวแปรที่สามทั้งหมดได้อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.01 ทดสอบค่าคงเหลือสำหรับ normalityและน่าเป็น – Smirnov และ Shapiro – Wilk ทดสอบอย่างมีนัยสำคัญ(p > 0.15) ใช้เทคนิค bootstrapping ถึงที่ประเมินพารามิเตอร์สุดท้ายตั้งแต่ตัวอย่างมีขนาดเล็กแล้วใช้การประเมิน bootstrapped พารามิเตอร์ใน Eq. (1)การกำหนด normalised EPI สำหรับแต่ละสิ่งอำนวยความสะดวก สาม normalisedช่วงเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดใช้ที่สามต่ำ กลางสามชั้นสามกลุ่ม และจากตัวอย่างถึงต่ำ บรรเทาและช่วงประสิทธิภาพพลังงานสูง Percentiles เกณฑ์มาตรฐานถูกประเมินโดยใช้ bootstrapping ด้วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ได้รับการแต่งตั้ง พื้นที่เฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างเป็น 17,875m2
มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของการ14,113m2 ขั้นต่ำคือ 1748m2
และสูงสุด63,585m2 ตั้งแต่ลอการิทึมของพื้นที่นอกจากนี้ยังพบมีความสำคัญที่ระบุว่าส่งผลกระทบต่อความแตกต่างของระดับประสิทธิภาพการใช้พลังงานตัวแปรนี้ก็รวมจะปรับEPI การถดถอยค่าสัมประสิทธิ์ที่ได้รับสำหรับแต่ละเหล่านี้สามตัวแปรมาตรฐานกับEPI เป็นตัวแปรตาม ปรับ R-squared ของ0.59 ได้รับทั้งสามตัวแปรและตัวแปรทั้งสามมีความสำคัญที่ระดับ0.01 ที่เหลือได้รับการตรวจปกติและทั้งสอง Kolmogorov-Smirnov และการทดสอบ Shapiro-Wilk อย่างมีนัยสำคัญ (p> 0.15) เทคนิคที่ใช้ความร่วมมือที่จะมาถึงที่ประมาณการพารามิเตอร์สุดท้ายตั้งแต่ขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดเล็ก. ประมาณการพารามิเตอร์ bootstrapped แล้วถูกนำมาใช้ในสมการ (1) เพื่อตรวจสอบปกติ EPI สำหรับแต่ละสถานที่ สามปกติช่วงมาตรฐานได้รับการพิจารณาโดยใช้ต่ำกว่าสามกลางกลุ่มที่สามที่สามและชั้นนำจากกลุ่มตัวอย่างที่จะเป็นตัวแทนในระดับต่ำปานกลางและช่วงประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูง เปอร์เซนต์มาตรฐานยังอยู่ที่ประมาณโดยใช้ความร่วมมือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่ถูกเลือก ค่าเฉลี่ยของพื้นที่ตัวอย่าง 17875m2 กับ
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของ 14113m2 . เป็น 1748m2
63585m2 ต่ำสุดและสูงสุด เนื่องจากค่าลอการิทึมของพื้นที่พบ
เป็นสำคัญระบุว่า ความแตกต่างขนาดมีผลต่อประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ,
ตัวแปรนี้ก็รวมอยู่ในปกติ Epi . สัมประสิทธิ์การถดถอย
ได้รับสำหรับแต่ละเหล่านี้สามมาตรฐานตัวแปร
กับ EPI เป็นตัวแปรตาม การปรับ r-squared ของ
0.59 ได้รับเหล่านี้สามตัวแปรและตัวแปร 3
เป็น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ค่าทดสอบปกติ
และทั้งสองเปลี่ยนแปลง–และการทดสอบเพื่อ Shapiro –ตัวแทนนิสิต
( p = 0.15 ) เป็น Bootstrapping ใช้เทคนิคที่จะมาถึง
ท้ายพารามิเตอร์ประมาณการเนื่องจากขนาดตัวอย่างขนาดเล็ก .
พารามิเตอร์ที่ bootstrapped ประมาณการแล้วใช้ในอีคิว ( 1 )
หา Epi สำหรับแต่ละกลุ่ม ) 3 / 54
มาตรฐานช่วงตัดสินใจโดยใช้ราคากลาง 3 ,
3 และด้านบนที่สามจากกลุ่มตัวอย่างเพื่อแสดงประสิทธิภาพการใช้พลังงานต่ำ ปานกลางและสูง
ช่วง มาตรฐานและประเมินโดยใช้เปอร์เซ็นไทล์

bootstrapping .