Violent scenes outside stadiums can

Violent scenes outside stadiums can only torpedo the popularity and success of the Thai game

When "teams lose but fans don't" - a euphemism for sporting violence - the real loser is everybody. Hooliganism has cast a dark spell on Thai football in recent years and it reared its ugly head again over the weekend when rival fans clashed outside the SCG Stadium in Bangkok. The fighting left four people injured and took hours to quell. It also left the reputation of Thailand's top football league scarred. Pressure is now mounting for efforts to prevent a recurrence.

The "beautiful game" turned ugly on Saturday when visiting Singhtarua fans sought vengeance after Muangthong United rallied to secure a 3-1 victory over their team. Bottles were thrown and gunfire heard in an incident that police are still investigating.

The effect of such incidents is damaging to the game in general, discouraging parents with children from attending matches and raising the spectre of stadiums filled with thugs and troublemakers. Without supporters from across the whole social spectrum, it is difficult to see how Thai football can increase in popularity.

Demands for action first fell on the Football Association, but, with only two rounds of matches left before the season ends, it deferred a decision. And indeed, the timing of the disciplinary panel's verdict might not matter much when what is really needed from the FA is long-term measures to prevent hooliganism taking root in the country's favourite sport.

It will be an arduous task and there are no quick fixes. Two months ago FA president Worrawi Makudi came up with a bizarre rule that a match can be abandoned if anyone shouts "kee kong" ("cheat") - or the similar-sounding "kee mong" ("what time is it?"). Ridiculous as it might seem, the authorities believe such phrases are a major factor in instigating the violence.

Seeking solutions without addressing the root causes will not bring an end to violence at matches. The FA's ban on shouting provocative words hasn't worked - it was more like applying a sticking plaster to a gaping wound, judging by recent incidents.

First things first: the refereeing must be fair. Take away the controversial decisions and fans will be less likely to riot due to a sense of injustice. Separate seating areas and exits for home and away fans are also important. And, at the final whistle, fans must be guided to the proper exits to avoid clashes.

Another weapon in the authorities' armoury is strict and systematic penalties for clubs and fans over hooliganism. The FA could draw on standards applied in many other countries, where teams whose fans engage in mass brawls are fined and ordered to play matches behind closed doors, while the roughnecks are often banned for life from the stadium.

Such measures would pressure every Thai football club to ensure its fans behave. Yet applying them would also require a level of effort and financial resources out of reach of the smaller clubs that can't afford armies of security staff and banks of short-circuit cameras. These are the matters that the governing body must discuss in a push for blanket safety standards.

The battle against hooliganism needs input from all parties, with clubs, players and supporters all taking a share of the responsibility. Former Sweden international Henrik Larsson delivered a warning recently after a fan from his hometown was killed during a clash between rival supporters in March: "Whose responsibility is it? Is it the clubs'? Is it the supporters'? Or should society take it? It's time for someone to start waking up, because I don't want it in Swedish football or in any football."

Now it's Thailand's turn to ask the same questions. Unless we all take responsibility, violence in Thai football will be here to stay.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฉากรุนแรงนอกลักษณะน่าตื่นเต้นเท่าสามารถ torpedo ความนิยมและความสำเร็จของเกมไทยเมื่อ "ทีมแพ้ แต่แฟนไม่" - ลีลาที่หย่อนความรุนแรง - ใครจริงคือทุกคน ฮูลิแกนได้สะกดมืดในฟุตบอลไทยในปีที่ผ่านมา และก็ผลิตภัณฑ์ของเกลียดอีกช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กระทบเมื่อแฟนคู่แข่งนอกสนาม SCG ในกรุงเทพ คนซ้ายสี่ต่อสู้บาดเจ็บ และเอาชั่วโมงที่ quell ก็ยังทิ้งชื่อเสียงของประเทศไทยด้านฟุตบอลลีแผลเป็น ขณะนี้มีการติดตั้งความดันสำหรับความพยายามที่จะป้องกันการเกิดซ้ำ"เกมสวยงาม" เปิดน่าเกลียดวันเสาร์พัก Singhtarua แฟน ๆ ขอล้างแค้นหลังจากเมืองทองยูไนเต็ดเพื่อความปลอดภัย 3-1 ชัยชนะเหนือทีมของพวกเขา ขวดกระเด็น และทหารใหม่ได้ยินปัญหาที่ตำรวจจะตรวจสอบยัง ผลกระทบของเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความเสียหายเกมทั่วไป discouraging ผู้ปกครองกับเด็กจากการเข้าร่วมการแข่งขัน และเพิ่มเงาร้ายแห่งลักษณะน่าตื่นเต้นเต็มไป ด้วยนักเลงและผู้ ไม่ มีหัวใจจากข้ามสเปกตรัมทั้งสังคม จึงยากที่จะเห็นฟุตบอลไทยว่าสามารถเพิ่มความนิยมความต้องการสำหรับการดำเนินการลดลงครั้งแรกในสมาคมฟุตบอล ได้ ด้วยซ้ายตรงก่อนจบฤดูกาลเพียงสองรอบ จะเลื่อนเวลาออกไปตัดสิน และแน่นอน ช่วงเวลาของการพิพากษาของแผงวินัยอาจไม่เรื่องมากเมื่อสิ่งจริง ๆ ที่จำเป็นจาก FA เป็นมาตรการระยะยาวเพื่อป้องกันไม่ให้มีรากในประเทศชื่นชอบกีฬาฮูลิแกน มันจะเป็นงานที่ยากลำบาก และมีการแก้ไขอย่างรวดเร็วไม่ สองเดือนที่ผ่านมาประธาน FA Worrawi Makudi มากับกฎแปลกประหลาดที่ตรงสามารถละทิ้งถ้าใคร shouts "กีอินเตอร์เนชั่นแนล" ("โกง") - คล้ายออกเสียง "กีโมง" หรือ ("เวลาคือมัน) ไร้สาระเพราะอาจดู เจ้าหน้าที่เชื่อว่า วลีดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญในการ instigating ความรุนแรง หาวิธีแก้ไขปัญหาโดยไม่แก้ปัญหาสาเหตุรากจะไม่นำมาวางให้ความรุนแรงที่ตรงกัน ห้าม ตะโกนคำยุแหย่ของ FA ไม่ทำงาน - ก็เหมือนใช้พลาสเตอร์แผล gaping ตัดสิน โดยเหตุการณ์ล่าสุด สิ่งแรกแรก: refereeing จะต้องเป็นธรรม ชักตัดสินใจแย้ง และแฟน ๆ จะโน้มจลาจลเนื่องจากรู้สึกถึงความอยุติธรรม พื้นที่นั่งเล่นแยกต่างหาก และออกจากสำหรับแฟน ๆ บ้าน และเก็บเป็นสำคัญ ก ที่นกหวีดสุดท้าย พัดลมต้องสามารถแนะนำให้ออกจากที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกันอาวุธอื่นในรูแคบเจ้าหน้าที่เป็นบทลงโทษที่เข้มงวด และระบบสำหรับสโมสรและแฟน ๆ ผ่านฮูลิแกน FA สามารถวาดบนมาตรฐานที่ใช้ในประเทศอื่น ๆ ทีมแฟน ๆ ซึ่งต่อสู้ใน brawls โดยรวมที่ปรับ และสั่งเล่นตรงหลังปิดประตู ขณะ roughnecks มักจะห้ามสำหรับชีวิตจากสนามแห่งนี้ มาตรการดังกล่าวจะกดดันทุกสโมสรฟุตบอลไทยเพื่อให้การทำงานของพัดลม ยังนำไปใช้จะต้องใช้ระดับของความพยายาม และทรัพยากรทางการเงินจากเข้าชมรมขนาดเล็กที่ไม่สามารถกองทัพของพนักงานรักษาความปลอดภัยและของ กล้องที่ลัดวงจร เหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องอธิบายตัวควบคุมในการผลักดันสำหรับครอบคลุมมาตรฐานความปลอดภัยการต่อสู้กับฮูลิแกนต้องป้อนข้อมูลจากทุกฝ่าย สโมสร ผู้เล่น และผู้สนับสนุนทั้งหมดที่ใช้ร่วมกันของความรับผิดชอบ อดีตสวีเดนอินเตอร์เนชั่นแนลเฮนริก Larsson ส่งคำเตือนล่าสุดหลังจากแฟนจากบ้านของเขาถูกฆ่าในระหว่างการปะทะระหว่างผู้สนับสนุนคู่แข่งในเดือนมีนาคม: "ความรับผิดชอบที่เป็น มันเป็นของสโมสร เป็นผู้สนับสนุน หรือสังคมควรใช้มันหรือไม่ ได้เวลาคนเริ่มตื่น เนื่องจากไม่ต้องการ ในสวีเดนฟุตบอล หรือฟุตบอลใดๆ"ตอนนี้ก็เป็นของประเทศไทย เปิดให้ถามคำถามเดียวกัน เว้นแต่ว่าเรารับผิดชอบ ความรุนแรงในฟุตบอลไทยจะได้ที่นี่การ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฉากความรุนแรงนอกสนามสามารถตอร์ปิโดความนิยมและประสบความสำเร็จของเกมไทยเมื่อ "ทีมสูญเสีย แต่แฟน ๆ ไม่ได้" - ถ้อยคำรุนแรงกีฬา - ผู้แพ้ที่แท้จริงคือการที่ทุกคน หัวไม้ได้โยนสะกดมืดเกี่ยวกับฟุตบอลไทยในปีที่ผ่านมาและก็เลี้ยงหัวน่าเกลียดของมันอีกครั้งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เมื่อแฟนคู่แข่งปะทะกันนอกเอสซีจีสเตเดียมในกรุงเทพฯ การต่อสู้ที่เหลือสี่คนได้รับบาดเจ็บและใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อระงับ มันยังเหลือชื่อเสียงของฟุตบอลลีกสูงสุดของไทยมีรอยแผลเป็น ความดันอยู่ในขณะนี้การติดตั้งสำหรับความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก"เกมที่สวยงาม" หันน่าเกลียดในวันเสาร์ที่เมื่อเข้าสู่แฟนสิงห์ท่าเรือพยายามแก้แค้นหลังจากเมืองทองยูไนเต็ดทำใจเพื่อรักษาความปลอดภัยชัยชนะ 3-1 ทีมของพวกเขา ขวดถูกโยนปืนและได้ยินในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าตำรวจยังคงตรวจสอบผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอันตรายต่อเกมโดยทั่วไปท้อใจพ่อแม่กับเด็กที่มาจากการเข้าร่วมการแข่งขันและการสร้างความน่ากลัวของสนามที่เต็มไปด้วยพวกอันธพาลและก่อกวน โดยไม่ต้องมีผู้สนับสนุนจากทั่วสเปกตรัมทางสังคมทั้งหมดมันเป็นเรื่องยากที่จะเห็นว่าฟุตบอลไทยจะสามารถเพิ่มความนิยมในความต้องการสำหรับการดำเนินการครั้งแรกลดลงในสมาคมฟุตบอล แต่มีเพียงสองรอบของการแข่งขันที่เหลือก่อนที่จะสิ้นสุดฤดูกาลจะเลื่อนการตัดสินใจ . และแน่นอนระยะเวลาของการตัดสินแผงวินัยที่อาจจะไม่เรื่องมากเมื่อสิ่งที่จำเป็นจริงๆจากเอฟเอเป็นมาตรการระยะยาวเพื่อป้องกันการทำลายของรากในกีฬาที่ชื่นชอบของประเทศมันจะเป็นงานที่ยากลำบากและไม่มีการแก้ไขอย่างรวดเร็ว . สองเดือนที่ผ่านมาเอฟเอคัประธาน Worrawi Makudi ขึ้นมาด้วยความแปลกประหลาดที่กฎการแข่งขันสามารถทิ้งถ้าใครตะโกน "คี kong" ("โกง") - หรือคล้ายเสียง "คี Mong" ("สิ่งที่เวลามันคืออะไร?") . ไร้สาระมันอาจดูเหมือนเจ้าหน้าที่เชื่อว่าวลีดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญในการยั่วยุความรุนแรงที่กำลังมองหาการแก้ปัญหาโดยไม่ต้องที่อยู่สาเหตุรากจะไม่นำปลายไปสู่ความรุนแรงในการแข่งขัน ห้ามเอฟเอเมื่อวันที่ตะโกนคำพูดยั่วยุไม่ได้ทำงาน - มันเป็นเหมือนการใช้พลาสเตอร์ติดแผลเหวอะตัดสินโดยเหตุการณ์ล่าสุดสิ่งแรกแรก: ตัดสินจะต้องมีความเป็นธรรม นำมาใช้ในการตัดสินใจที่ขัดแย้งและแฟน ๆ จะมีโอกาสน้อยที่จะก่อความวุ่นวายอันเนื่องมาจากความรู้สึกของความอยุติธรรม พื้นที่นั่งเล่นแยกต่างหากและออกสำหรับบ้านและออกไปแฟน ๆ ยังมีความสำคัญ และที่มีการเป่านกหวีดแฟน ๆ จะต้องนำไปออกที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะอาวุธในคลังแสงเจ้าหน้าที่ 'ก็คือการลงโทษที่เข้มงวดและเป็นระบบให้กับสโมสรและแฟน ๆ กว่าหัวไม้ เอฟเอสามารถวาดบนมาตรฐานนำมาใช้ในประเทศอื่น ๆ อีกมากมายที่ทีมที่มีแฟน ๆ มีส่วนร่วมในการวิวาทมวลจะถูกปรับและได้รับคำสั่งให้เล่นแมตช์ปิดประตูตามหลังในขณะที่ Roughnecks มักจะเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับชีวิตจากสนามมาตรการดังกล่าวจะกดดันทุกวงการฟุตบอลไทย สโมสรเพื่อให้แน่ใจว่าแฟน ๆ ประพฤติ แต่นำมาใช้นอกจากนี้ยังจะต้องมีระดับของความพยายามและทรัพยากรทางการเงินให้พ้นจากสโมสรขนาดเล็กที่ไม่สามารถที่กองทัพของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและธนาคารของกล้องลัดวงจร เหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้ปกครองจะต้องหารือในการผลักดันสำหรับมาตรฐานความปลอดภัยผ้าห่มต่อสู้กับหัวไม้ต้องป้อนข้อมูลจากทุกฝ่ายกับสโมสรผู้เล่นและผู้สนับสนุนทั้งหมดมีส่วนแบ่งของความรับผิดชอบ อดีตสวีเดนเฮนริกลาร์สสันต่างประเทศส่งคำเตือนเมื่อเร็ว ๆ นี้หลังจากที่แฟนคลับจากบ้านเกิดของเขาถูกฆ่าตายในระหว่างการปะทะกันระหว่างผู้สนับสนุนคู่แข่งมีนาคม: "ใครรับผิดชอบก็คือมันเป็นสโมสรหรือสังคมควรจะเอามัน 'มันคือการสนับสนุน??? ก็ถึงเวลาสำหรับคนที่จะเริ่มต้นการตื่นขึ้นมาเพราะผมไม่อยากให้มันในฟุตบอลสวีเดนหรือในฟุตบอลใด ๆ . " ตอนนี้ก็เปิดที่จะถามคำถามเดียวกันในประเทศไทย ถ้าเราทุกคนจะมีความรับผิดชอบ, ความรุนแรงในวงการฟุตบอลไทยจะอยู่ที่นี่จะอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฉากรุนแรงนอกสนามกีฬาสามารถตอร์ปิโด ความนิยมและความสำเร็จของเกมไทย

เมื่อ " ทีมแพ้แต่แฟนไม่ " - เป็นคำสุภาพกีฬาความรุนแรงจริงแพ้ ทุกคน ฮูลิแกนได้เสกเข้มแข้งไทยในปีที่ผ่านมา และเลี้ยงหัวน่าเกลียดของมันอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ เมื่อแฟนบอลทีมคู่แข่งปะทะนอกเอสซีจี สเตเดียม ในเขตกรุงเทพมหานครการต่อสู้เหลือ 4 คนได้รับบาดเจ็บและใช้เวลาชั่วโมงเพื่อระงับ . มันยังเหลือ ชื่อเสียงของฟุตบอลลีกสูงสุดของไทย แผล ความดันคือตอนนี้ติดตั้งสำหรับความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

" เกมสวยงาม " เปิดน่าเกลียดในวันเสาร์ที่เมื่อเข้าสู่ singhtarua แฟนขอแก้แค้นหลังจากที่เมืองทอง ยูไนเต็ด rallied เพื่อรักษาความปลอดภัย 3-1 ชัยชนะเหนือทีมของพวกเขาขวดที่ถูกและยิงปืนได้ยินในเหตุการณ์ที่ตำรวจกำลังตรวจสอบอยู่

ผลของเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับเกมทั่วไป ท้อใจผู้ปกครองกับเด็กจากการเข้าร่วมการแข่งขันและการสางของสนามกีฬาที่เต็มไปด้วยอันธพาล และชอบสร้างปัญหา โดยผู้สนับสนุนจากสเปกตรัมของสังคมทั้งหมดมันเป็นเรื่องยากที่จะเห็นว่าบอลไทยสามารถเพิ่มความนิยม ความต้องการสำหรับการกระทำครั้งแรก

อยู่ในสมาคมฟุตบอล แต่ มีเพียงสองรอบของการแข่งขันออกไปก่อนจบฤดูกาล มันเลื่อนการตัดสินใจ และแน่นอนเวลาตัดสินแผงวินัยอาจไม่สำคัญมากนัก เมื่อสิ่งที่มันต้องการจาก เอฟเอ เป็นมาตรการระยะยาวเพื่อป้องกันฮูลิแกนรากการในกีฬาที่ชื่นชอบของประเทศ

มันจะเป็นงานที่ยากลำบาก และไม่มีการแก้ไขอย่างรวดเร็วสองเดือนที่ผ่านมา เอฟเอ ประธาน worrawi makudi มาด้วยกฎที่แปลกประหลาดที่ตรงกันสามารถทิ้งถ้าใครตะโกน " Kee Kong " ( " โกง " ) - หรือพ้องเสียง " คีมง " ( " กี่โมง ? " ) . มันอาจจะดูไร้สาระ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าวลีดังกล่าวเป็นปัจจัยสําคัญในการยุยงให้ใช้ความรุนแรง

ที่กำลังมองหาโซลูชั่นโดยไม่ต้องจัดการกับสาเหตุหลักจะไม่ยุติความรุนแรงที่ตรงกับ ของฟ้า ห้ามตะโกนเร้าใจคำ ไม่ได้ทำงาน - มันเหมือนกับการยื่นพลาสเตอร์ให้แผลเหวอะ ดูจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา

ก่อนอื่น : ผู้ตัดสินจะต้องยุติธรรมไปการตัดสินใจแย้งและแฟนๆ จะมีโอกาสน้อยที่จะจลาจลเนื่องจากความรู้สึกของความอยุติธรรม พื้นที่นั่งเล่นแยกต่างหากและทางออกสำหรับบ้าน และ แฟนๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ และที่เสียงนกหวีดสุดท้าย แฟนๆต้องแนวทางหาทางออกที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ .

อาวุธในคลังอาวุธอีกเจ้าหน้าที่จะเข้มงวดและบทลงโทษสำหรับสโมสรและแฟนบอลฮูลิแกนอย่างเป็นระบบมากกว่า .