SIGNIFICANCE OF this STU DYAlthough

S
IGNIFICANCE OF this STU DY
Although it has been established that the use of HPDs can protect workers from NIHL, studies in developed countries such as the United States determined that noise-exposed workers used HPDs only 14% to 49% of the time when required (Hong, 2005; Lusk, Kerr, & Kauffman, 1998; Seixas, Ren, Neitzel, Camp, & Yost, 2001). Similarly, in Thailand, the literature revealed that only 29% to 41% of noise-exposed workers in a wide range of industries, including marble factories, the pressing machine industry, a food canning factory, and lumber mills, use HPDs continuously when exposed to hazardous noise (Chaloemvipaht, 1998; Khrimak, 1997; Tantranont, 2004; Tonchumporn, 2007). Furthermore, 24% to 56% of workers in these settings had never used HPDs (Chaloemvipaht, 1998; Khrimak, 1997; Tantranont, 2004). Reported studies stress the necessity of promoting the use of hearing protection among these vulnerable workers. To develop an effective intervention to encourage HPD use, it is necessary to understand the factors that influence this specific health behavior.
According to available literature, information on factors influencing the use of HPDs among Thai workers is limited. Only three studies addressing this important issue have been reported (Chaloemvipaht, 1998; Prechaworawet, 1992; Tonchumporn, 2007). Chaloemvipaht found that perceived susceptibility to NIHL, perceived

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

SIGNIFICANCE ของ DY นี้เทพีแม้ว่าจะมีการสร้างการใช้ HPDs สามารถป้องกันคนงานจาก NIHL ศึกษาในประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นสหรัฐระบุว่า คนงานที่สัมผัสเสียงใช้ HPDs เพียง 14% ถึง 49% ของเวลาเมื่อจำเป็น (ฮ่องกง 2005 Lusk เคอร์ Kauffman, 1998; & Seixas, Ren, Neitzel ค่าย และ Yost, 2001) ในทำนองเดียวกัน ในประเทศไทย วรรณกรรมเปิดเผยว่า เพียง 29% ไป 41% ของคนงานที่สัมผัสเสียงในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมทั้งโรงงานหินอ่อน การกดเครื่องจักรอุตสาหกรรม อาหารกระป๋อง โรงงาน และโรงงานไม้ ใช้ HPDs อย่างต่อเนื่องเมื่อสัมผัสกับเสียงรบกวนที่เป็นอันตราย (Chaloemvipaht, 1998 Khrimak, 1997 Tantranont, 2004 Tonchumporn, 2007) นอกจากนี้ 24-56% ของแรงงานในการตั้งค่าเหล่านี้ใช้ไม่ HPDs (Chaloemvipaht, 1998 Khrimak, 1997 Tantranont, 2004) รายงานการศึกษาความเครียดความจำเป็นของการส่งเสริมการใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงในหมู่แรงงานเหล่านี้มีความเสี่ยง การพัฒนาการแทรกแซงที่มีประสิทธิภาพเพื่อส่งเสริมการใช้ HPD จึงจำเป็นต้องเข้าใจปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพเฉพาะนี้ตามวรรณกรรมที่มีอยู่ ข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้ HPDs ในหมู่แรงงานไทยคือจำกัด ศึกษาเพียงสามกำหนดสำคัญนี้มีการรายงานปัญหา (Chaloemvipaht, 1998 Prechaworawet, 1992 Tonchumporn, 2007) Chaloemvipaht พบว่า รับรู้รับรู้ความไวต่อการ NIHL

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

S
IGNIFICANCE ของ DY STU นี้
แม้ว่าจะได้รับการจัดตั้งขึ้นว่าการใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงสามารถปกป้องคนงานจากกลุ่มหูเสื่อมการศึกษาในประเทศที่พัฒนาแล้วเช่นสหรัฐอเมริการะบุว่าคนงานเสียงสัมผัสใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงเพียง 14% ถึง 49% ของเวลาเมื่อจำเป็น (ฮ่องกง 2005 Lusk, เคอร์แอนด์คอฟฟ์แมน 1998; Seixas, เรเน Neitzel ค่าย & สต์, 2001) ในทำนองเดียวกันในประเทศไทยวรรณกรรมพบว่ามีเพียง 29% ถึง 41% ของแรงงานเสียงสัมผัสในหลากหลายอุตสาหกรรมรวมถึงโรงงานหินอ่อน, อุตสาหกรรมเครื่องกดโรงงานอาหารกระป๋องและไม้เลื่อยใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงอย่างต่อเนื่องเมื่อสัมผัส เสียงที่เป็นอันตราย (Chaloemvipaht 1998; Khrimak, 1997; Tantranont 2004; Tonchumporn 2007) นอกจากนี้ 24% ถึง 56% ของแรงงานในการตั้งค่าเหล่านี้ไม่เคยใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียง (Chaloemvipaht 1998; Khrimak, 1997; Tantranont, 2004) รายงานการศึกษาเน้นความจำเป็นของการส่งเสริมการใช้ป้องกันการได้ยินในหมู่คนงานที่มีช่องโหว่เหล่านี้ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการแทรกแซงเพื่อส่งเสริมการใช้ HPD มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเข้าใจปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงนี้.
ตามที่เอกสารอ้างอิงที่มีข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลการใช้อุปกรณ์ป้องกันเสียงในหมู่คนงานไทยที่มี จำกัด เพียงสามการศึกษาการแก้ไขปัญหาที่สำคัญนี้ได้รับการรายงาน (Chaloemvipaht 1998; Prechaworawet 1992; Tonchumporn 2007) Chaloemvipaht พบว่าการรับรู้ไวต่อกลุ่มหูเสื่อม, การรับรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

significance นี้สตูดี้แม้ว่าจะได้รับการจัดตั้งขึ้นที่ใช้ hpds สามารถปกป้องคนงานจากเหตุ การศึกษาในประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ระบุว่า คนงานที่สัมผัสเสียงที่ใช้ hpds เพียง 14% เป็น 49 % ของเวลาเมื่อต้องการ ( Hong , 2005 ; Lusk เคอร์คอฟฟ์แมน , & , 1998 ; บัตร เรน neitzel แคมป์ และ โยส , 2001 ) เหมือนกับ , ในไทย , วรรณกรรมพบว่า เพียง 29 % ถึงร้อยละ 41 ของคนงานที่สัมผัสเสียงในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงโรงงานหินอ่อน , กดเครื่องจักรอุตสาหกรรม , โรงงานผลิตอาหารกระป๋อง และไม้แปรรูป มิล ใช้ hpds อย่างต่อเนื่องเมื่อสัมผัสกับเสียงอันตราย ( chaloemvipaht , 1998 ; khrimak , 1997 ; tantranont 2004 ; tonchumporn , 2007 ) นอกจากนี้ , 24 % 56 % ของแรงงานในการตั้งค่าเหล่านี้ไม่เคยใช้ hpds ( chaloemvipaht , 1998 ; khrimak , 1997 ; tantranont , 2004 ) รายงานการศึกษาความเครียดของความจำเป็นในการส่งเสริมการใช้อุปกรณ์ป้องกันการได้ยินของคนงานมีความเสี่ยงเหล่านี้ พัฒนาโดยมีประสิทธิภาพเพื่อกระตุ้นให้ตำรวจใช้ มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเข้าใจปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงนี้ .ตามวรรณคดีของข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้ hpds ในหมู่แรงงานไทย จำกัด เพียงสามการศึกษาการแก้ไขปัญหาที่สำคัญนี้มีการรายงาน ( chaloemvipaht , 1998 ; prechaworawet , 1992 ; tonchumporn , 2007 ) chaloemvipaht พบว่า การรับรู้โอกาสเสี่ยงที่จะส่งการรับรู้