Is Chocolate Good for Your Heart?Wh

Is Chocolate Good for Your Heart?
Why a little, in moderation, may be beneficial
Chocolate has gotten a lot of media coverage in recent years because it's believed that it may help protect your cardiovascular system. The reasoning being that the cocoa bean is rich in a class of plant nutrients called flavonoids.

Flavonoids help protect plants from environmental toxins and help repair damage. They can be found in a variety of foods, such as fruits and vegetables. When we eat foods rich in flavonoids, it appears that we also benefit from this "antioxidant" power.

Antioxidants are believed to help the body's cells resist damage caused by free radicals that are formed by normal bodily processes, such as breathing, and from environmental contaminants, like cigarette smoke. If your body does not have enough antioxidants to combat the amount of oxidation that occurs, it can become damaged by free radicals. For example, an increase in oxidation can cause low-density lipoprotein (LDL), also known as "bad" cholesterol, to form plaque on the artery walls.

Flavanols are the main type of flavonoid found in cocoa and chocolate. In addition to having antioxidant qualities, research shows that flavanols have other potential influences on vascular health, such as lowering blood pressure, improving blood flow to the brain and heart, and making blood platelets less sticky and able to clot.

These plant chemicals aren’t only found in chocolate. In fact, a wide variety of foods and beverages are rich in flavonols. These include cranberries, apples, peanuts, onions, tea and red wine.

Are all types of chocolate healthy?
Before you grab a chocolate candy bar or slice of chocolate cake, it’s important to understand that not all forms of chocolate contain high levels of flavanols.

Cocoa naturally has a very strong, pungent taste, which comes from the flavanols. When cocoa is processed into your favorite chocolate products, it goes through several steps to reduce this taste. The more chocolate is processed (through things like fermentation, alkalizing, roasting, etc.), the more flavanols are lost.

Most commercial chocolates are highly processed. Although it was once believed that dark chocolate contained the highest levels flavanols, recent research indicates that, depending on how the dark chocolate was processed, this may not be true. The good news is that most major chocolate manufacturers are looking for ways to keep the flavanols in their processed chocolates. But for now, your best choices are likely dark chocolate over milk chocolate (especially milk chocolate that is loaded with other fats and sugars) and cocoa powder that has not undergone Dutch processing (cocoa that is treated with an alkali to neutralize its natural acidity).

What about all of the fat in chocolate?
You may be surprised to learn that chocolate isn’t as bad for you as once believed.

The fat in chocolate comes from cocoa butter and is made up of equal amounts of oleic acid (a heart-healthy monounsaturated fat also found in olive oil), stearic and palmitic acids. Stearic and palmitic acids are forms of saturated fat. You may know that saturated fats are linked to increases in LDL cholesterol and the risk of heart disease.

But, research shows that stearic acid appears to have a neutral effect on cholesterol, neither raising nor lowering it. Although palmitic acid does affect cholesterol levels, it only makes up one-third of the fat calories in chocolate. Still, this does not mean you can eat all the dark chocolate you’d like.

First, be careful about the type of dark chocolate you choose: chewy caramel-marshmallow-nut-covered dark chocolate is by no means a heart-healthy food option. Watch out for those extra ingredients that can add lots of extra fat and calories. Second, there is currently no established serving size of chocolate to help you reap the cardiovascular benefits it may offer, and more research is needed in this area. However, we do know that you no longer need to feel guilty if you enjoy a small piece of dark chocolate once in a while.

So, for now, enjoy moderate portions of chocolate (e.g., 1 ounce) a few times per week, and don’t forget to eat other flavonoid-rich foods like apples, red wine, tea, onions and cranberries.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นช็อกโกแลตที่ดีสำหรับหัวใจของคุณทำไมน้อย แต่ อาจจะเป็นประโยชน์ช็อคโกแลตได้รับมากของสื่อมวลชนในปีที่ผ่านมาเนื่องจากเชื่อว่า มันอาจช่วยปกป้องระบบหัวใจและหลอดเลือด เหตุผลที่ว่าถั่วโกโก้อุดมไปด้วยชั้นของสารอาหารพืชเรียกว่า flavonoidsFlavonoids ช่วยป้องกันพืชจากสารพิษสิ่งแวดล้อม และช่วยซ่อมแซมความเสียหาย สามารถพบได้ในอาหาร ผักและผลไม้ที่หลากหลาย เมื่อเรากินอาหารที่อุดมไปด้วย flavonoids แสดงว่า เรายังได้รับประโยชน์จากพลังงานนี้ "สารต้านอนุมูลอิสระ"สารต้านอนุมูลอิสระเชื่อว่าจะช่วยให้เซลล์ของร่างกายต่อต้านความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นโดยกระบวนการปกติร่างกาย เช่นการหายใจ และ สารปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม เช่นควันบุหรี่ ถ้าร่างกายมีสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอในการต่อสู้กับจำนวนออกซิเดชันที่เกิดขึ้น มันสามารถกลายเป็นเสียหายจากอนุมูลอิสระ ตัวอย่าง การเพิ่มออกซิเดชันสามารถทำ low-density ไลโพโปรตีน (LDL), ไขมันหรือที่เรียกว่า "ไม่ดี" กับฟอร์มหินปูนในผนังหลอดเลือดFlavanols เป็นชนิดหลักของ flavonoid ที่พบในโกโก้และช็อคโกแลต นอกจากมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ งานวิจัยแสดงว่า flavanols มีอิทธิพลอื่น ๆ อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพของหลอดเลือด ลดความดันโลหิต เพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและหัวใจ และทำให้เกล็ดเลือดเลือด clot ได้ และเหนียวน้อยสารเคมีพืชเหล่านี้ไม่ได้พบเฉพาะในช็อคโกแลต ในความเป็นจริง ความหลากหลายของอาหารและเครื่องดื่มอุดมไปด้วย flavonols เหล่านี้รวมถึง cranberries แอปเปิ้ล ถั่ว หอม ชา และไวน์แดงมีทุกชนิดของช็อคโกแลสุขภาพก่อนที่คุณหยิบขนมช็อคโกแลตหรือชิ้นของเค้กช็อคโกแลต จะต้องเข้าใจว่า ไม่ทุกรูปแบบของช็อกโกแลตประกอบด้วย flavanols ระดับสูงโกโก้มีแรงมาก หอมฉุนรสชาติ ซึ่งมาจาก flavanols ธรรมชาติ เมื่อประมวลผลโกโก้เป็นผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตของโปรด มันไปผ่านขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อลดรสชาตินี้ ช็อคโกแลตมากกว่าการประมวลผล (ผ่านสิ่งต่าง ๆ เช่นหมัก alkalizing, roasting ฯลฯ) flavanols มากกว่าจะหายช็อกโกแลตส่วนใหญ่ประมวลผลสูง แม้เพียงครั้งเดียวถือว่าว่า ช็อกโกแลตสีเข้มอยู่ flavanols ระดับสูง การวิจัยล่าสุดระบุว่า ขึ้นอยู่กับว่าช็อกโกแลตสีเข้มมีการประมวลผล นี้อาจไม่เป็นจริง ข่าวดีคือ ที่สุดสำคัญช็อกโกแลตผลิตกำลังมองหาวิธีให้ flavanols ช็อกโกแลตการประมวลผล แต่สำหรับตอนนี้ ตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณ ช็อกโกแล็ตน่าจะเข้มกว่าช็อกโกแลตนม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งช็อกโกแลตนมที่มีไขมันและน้ำตาลอื่น ๆ) และโกโก้ผงที่ไม่มีเปลี่ยนการประมวลผลภาษาดัตช์ (โกโก้ที่ถือว่า มีอัลคาไลมีธรรมชาติของการ)สิ่งที่เกี่ยวกับไขมันในช็อกโกแลตทั้งหมดคุณอาจจะประหลาดใจที่จะเรียนรู้ว่า ช็อกโกแลตไม่ประทับใจคุณเป็นเมื่อเชื่อไขมันในช็อกโกแลตมาจากเนยโกโก้ และขึ้นเป็นจำนวนเท่าของ oleic กรด (หัวใจสุขภาพ monounsaturated fat พบในน้ำมันมะกอก), กรด palmitic และ stearic กรด palmitic และ Stearic มีรูปแบบของไขมันอิ่มตัว คุณอาจทราบว่า ไขมันอิ่มตัวที่ลิงค์ไปเพิ่ม LDL ไขมันและความเสี่ยงของโรคหัวใจแต่ วิจัยแสดงว่ากรด stearic ปรากฏให้ผลเป็นกลางบนไขมัน ไม่เพิ่ม หรือลดก็ แม้ว่ากรด palmitic มีผลต่อระดับไขมัน มันจะทำให้ค่าหนึ่งในสามของแคลอรี่ไขมันในช็อกโกแลต ยังคง นี้ไม่ได้หมายความ คุณสามารถกินช็อกโกแล็ตเข้มทั้งหมดที่คุณต้องการครั้งแรก ระมัดระวังเกี่ยวกับชนิดของช็อคโกแลตเข้มที่คุณเลือก: เหนียวช็อกโกแล็ตเข้มคาราเมลมาร์ชแมลโลว์อ่อนนุชครอบคลุมเป็นการเลือกอาหารเพื่อสุขภาพหัวใจ ระวังส่วนผสมที่พิเศษที่สามารถเพิ่มเพิ่มไขมันและแคลอรี่ สอง กำลังขนาดไม่ขึ้นเสิร์ฟของช็อกโกแลตจะช่วยให้คุณเก็บเกี่ยวผลประโยชน์หลอดเลือดหัวใจก็อาจมี และวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นในพื้นที่นี้ อย่างไรก็ตาม เรารู้ว่า คุณไม่ต้องรู้สึกผิดถ้าคุณเพลิดเพลินกับชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของช็อกโกแล็ตเข้มนาน ๆดังนั้น ตอนนี้ เพียงปานกลางส่วนของช็อคโกแลต (เช่น 1 ออนซ์) กี่ครั้งต่อสัปดาห์ และอย่าลืมกินอาหารอุดมไปด้วย flavonoid อื่น ๆ เช่นแอปเปิ้ล ไวน์แดง ชา หอม และ cranberries

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ช็อคโกแลตเป็นสิ่งที่ดีสำหรับหัวใจของคุณ?
ทำไมเล็ก ๆ น้อย ๆ
ในการดูแลอาจจะเป็นประโยชน์ช็อคโกแลตมีอากาศจำนวนมากของการรายงานข่าวของสื่อในปีที่ผ่านมาเพราะเชื่อว่ามันอาจช่วยปกป้องระบบหัวใจและหลอดเลือดของคุณ เหตุผลที่ว่าถั่วโกโก้ที่อุดมไปด้วยในชั้นเรียนของธาตุอาหารพืชที่เรียกว่า flavonoids. Flavonoids ช่วยป้องกันพืชจากสารพิษสิ่งแวดล้อมและช่วยซ่อมแซมความเสียหาย พวกเขาสามารถพบได้ในความหลากหลายของอาหารเช่นผักและผลไม้ เมื่อเรากินอาหารที่อุดมด้วย flavonoids ก็ปรากฏว่าเรายังได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ "สารต้านอนุมูลอิสระ" อำนาจ. สารต้านอนุมูลอิสระมีความเชื่อมั่นที่จะช่วยให้เซลล์ของร่างกายต่อต้านความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นโดยกระบวนการทางร่างกายปกติเช่นการหายใจและจากสิ่งแวดล้อม สารปนเปื้อนเช่นควันบุหรี่ หากร่างกายของคุณไม่ได้มีสารต้านอนุมูลอิสระมากพอที่จะต่อสู้กับจำนวนของการเกิดออกซิเดชันที่เกิดขึ้นก็จะกลายเป็นความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ยกตัวอย่างเช่นการเพิ่มขึ้นของการเกิดออกซิเดชันสามารถก่อให้เกิดไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) หรือที่เรียกว่าคอเลสเตอรอล "เลว" ในรูปแบบคราบจุลินทรีย์บนผนังหลอดเลือดแดง. flavanols เป็นประเภทหลักของ flavonoid ที่พบในโกโก้และช็อคโกแล นอกจากจะมีคุณภาพสารต้านอนุมูลอิสระ, การวิจัยแสดงให้เห็นว่า flavanols มีอิทธิพลที่มีศักยภาพอื่น ๆ เกี่ยวกับสุขภาพของหลอดเลือดเช่นลดความดันโลหิต, การปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและหัวใจและทำให้เกล็ดเลือดเหนียวน้อยลงและสามารถที่จะจับตัวเป็นก้อน. สารเคมีที่พืชเหล่านี้ศศภอ ' เสื้อพบเฉพาะในช็อคโกแลต ในความเป็นจริงที่หลากหลายของอาหารและเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วย flavonols เหล่านี้รวมถึงแครนเบอร์รี่แอปเปิ้ล, ถั่วลิสง, หัวหอม, ชาและไวน์แดง. มีทุกประเภทของช็อคโกแลตมีสุขภาพดี? ก่อนที่คุณจะคว้าบาร์ลูกอมช็อคโกแลตหรือชิ้นส่วนของเค้กช็อคโกแลตมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจว่าไม่ทุกรูปแบบของช็อคโกแลตมีระดับสูงของ flavanols . โกโก้ธรรมชาติมีความแข็งแรงมากรสชาติฉุนซึ่งมาจาก flavanols เมื่อโกโก้มีการประมวลผลเป็นผลิตภัณฑ์ช็อคโกแลตที่คุณชื่นชอบก็จะต้องผ่านหลายขั้นตอนเพื่อลดรสชาตินี้ ช็อคโกแลตมากขึ้นมีการประมวลผล (ผ่านสิ่งที่ต้องการหมัก alkalizing อบ ฯลฯ ) ที่ flavanols มากขึ้นจะหายไป. ช็อคโกแลตในเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่จะประมวลผลสูง แม้ว่ามันจะเป็นความเชื่อครั้งว่าช็อคโกแลตที่มีระดับสูงสุด flavanols การวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าขึ้นอยู่กับว่าช็อคโกแลตได้รับการประมวลผลนี้อาจไม่เป็นจริง ข่าวดีก็คือว่าส่วนใหญ่ผู้ผลิตช็อคโกแลตที่สำคัญกำลังมองหาวิธีที่จะทำให้ flavanols ในช็อคโกแลตการประมวลผลของพวกเขา แต่ตอนนี้เลือกที่ดีที่สุดของคุณมีช็อคโกแลตมีแนวโน้มมากกว่าช็อกโกแลตนม (โดยเฉพาะช็อกโกแลตนมที่เต็มไปด้วยไขมันและน้ำตาล) และผงโกโก้ที่ยังไม่ได้รับการประมวลผลดัตช์ (โกโก้ที่รับการรักษาด้วยอัลคาไลน์เพื่อแก้ความเป็นกรดตามธรรมชาติของมัน) . สิ่งที่เกี่ยวกับทั้งหมดของไขมันในช็อคโกแลตหรือไม่คุณอาจจะประหลาดใจที่จะเรียนรู้ช็อคโกแลตที่ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คุณเป็นที่เชื่อกันครั้งเดียว. ไขมันในช็อคโกแลตที่มาจากเนยโกโก้และถูกสร้างขึ้นจากจำนวนเงินที่เท่ากันของกรดโอเลอิก (หัวใจ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว -healthy นอกจากนี้ยังพบในน้ำมันมะกอก), กรดสเตียริกและปาล์มิติ กรดปาล์มิติและสเตียเป็นรูปแบบของไขมันอิ่มตัว คุณอาจจะรู้ว่าไขมันอิ่มตัวจะเชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอลและความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ. แต่การวิจัยแสดงให้เห็นว่ากรดสเตียดูเหมือนจะมีผลที่เป็นกลางเกี่ยวกับคอเลสเตอรอลไม่เพิ่มหรือลดมัน แม้ว่ากรดปาล์มิติจะมีผลต่อระดับคอเลสเตอรอลก็เพียงทำให้หนึ่งในสามของแคลอรี่ไขมันในช็อคโกแลต ยังนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถกินทุกช็อคโกแลตที่คุณต้องการ. ครั้งแรกที่ต้องระวังเกี่ยวกับประเภทของช็อคโกแลตที่คุณเลือก: เคี้ยวขนมหวานคาราเมลถั่วที่ปกคลุมไปด้วยช็อคโกแลตโดยไม่มีหมายถึงอาหารเพื่อสุขภาพหัวใจ ตัวเลือก ระวังส่วนผสมพิเศษที่สามารถเพิ่มจำนวนมากของไขมันและแคลอรี่พิเศษ ประการที่สองมีการจัดตั้งขึ้นในขณะนี้ไม่มีขนาดที่ให้บริการของช็อคโกแลตจะช่วยให้คุณเก็บเกี่ยวผลประโยชน์หัวใจและหลอดเลือดมันอาจจะนำเสนอและการวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นในพื้นที่นี้ อย่างไรก็ตามเรารู้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดถ้าคุณสนุกกับชิ้นเล็ก ๆ ของช็อคโกแลตครั้งในขณะที่. ดังนั้นสำหรับตอนนี้สนุกกับส่วนปานกลางของช็อคโกแลต (เช่น 1 ออนซ์) ไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์และ ไม่ลืมที่จะกินอาหารอื่น ๆ ที่อุดมไปด้วย flavonoid เช่นแอปเปิ้ล, ไวน์แดง, ชา, หัวหอมและแครนเบอร์รี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นช็อคโกแลตที่ดีสำหรับหัวใจของคุณ ?
ทำไมเล็กน้อยพอประมาณ อาจเป็นช็อกโกแลตประโยชน์
มีเรื่องของสื่อมวลชนในปีที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่า มันอาจช่วยปกป้องระบบหัวใจและหลอดเลือดของคุณ เหตุผลที่โกโก้ถั่วอุดมไปด้วยชั้นของธาตุอาหารพืชที่เรียกว่า ฟลาโวนอยด์

ช่วยปกป้องพืชจากสิ่งแวดล้อม สารพิษ และช่วยซ่อมแซมความเสียหายพวกเขาสามารถพบได้ในความหลากหลายของอาหาร เช่น ผัก และผลไม้ เมื่อเรากินอาหารที่อุดมด้วยสารฟลาโวนอยด์ ปรากฏว่า เรายังได้รับประโยชน์จาก " สารต้านอนุมูลอิสระ " พลัง

สารต้านอนุมูลอิสระเชื่อว่าจะช่วยให้เซลล์ของร่างกาย ต้านทานความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากกระบวนการปกติของร่างกาย เช่น การหายใจ และจากการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม เช่น ควันบุหรี่ถ้าร่างกายมีสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอกับปริมาณของออกซิเจนที่เกิดขึ้นมันสามารถกลายเป็นความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ตัวอย่างเช่นการเพิ่มออกซิเดชันไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ ( LDL ) สาเหตุที่เรียกว่าคอเลสเตอรอลที่ " เลวร้าย " ในรูปแบบแผ่นคราบจุลินทรีย์บนผนังหลอดเลือดแดง

flavanols เป็นหลักประเภทฟลาโวนอยด์ที่พบในโกโก้ และช็อกโกแลต นอกจากมีคุณภาพ สารต้านอนุมูลอิสระการวิจัยแสดงให้เห็นว่า flavanols มีอิทธิพลที่มีศักยภาพอื่น ๆต่อสุขภาพหลอดเลือด เช่น ลดความดันโลหิต เพิ่มการไหลของเลือดไปยังสมองและหัวใจ ทำให้เลือดและเกล็ดเลือดน้อยกว่าเหนียวและสามารถอุดตัน

สารเคมีที่พืชเหล่านี้ไม่พบในช็อกโกแลต ในความเป็นจริง , ความหลากหลายของอาหารและเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยฟลาโวนอล . เหล่านี้รวมถึงแครนเบอร์รี่ , แอปเปิ้ล , ถั่วลิสง หัวหอมชาและไวน์แดง

มีทุกประเภทของช็อกโกแลตเพื่อสุขภาพ ?
ก่อนจะคว้าขนมช็อกโกแลตหรือชิ้นของเค้กช็อคโกแลต มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจว่าไม่ทุกรูปแบบของช็อกโกแลตประกอบด้วย flavanols .

โกโก้ธรรมชาติมีความแข็งแรงมาก ฉุน รส ซึ่งมาจาก flavanols . เมื่อโกโก้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตที่ชื่นชอบของคุณมันต้องผ่านหลายขั้นตอนเพื่อลดรสนี้ ช็อกโกแลตมากกว่าการประมวลผล ( ผ่านสิ่งต่างๆ เช่น การหมัก , alkalizing ปิ้ง ฯลฯ ) , flavanols มากขึ้นจะหายไป

ส่วนใหญ่โฆษณาช็อคโกแลตมีการประมวลผลสูง . แม้ว่าจะเคยเชื่อว่า ช็อกโกแลตเข้มที่มีอยู่สูงสุดระดับ flavanols การวิจัยล่าสุดบ่งชี้ว่าขึ้นอยู่กับว่าช็อกโกแลตสีเข้มการประมวลผล นี้อาจไม่เป็นจริง ข่าวดีก็คือผู้ผลิตช็อกโกแลตรายใหญ่ที่สุด กำลังมองหาวิธีที่จะรักษา flavanols ในการประมวลผลทั้งสิ้น แต่ตอนนี้ตัวเลือกที่ดีที่สุดของคุณมักจะช็อคโกแลตมากกว่า ( โดยเฉพาะช็อกโกแลตนมช็อกโกแลตนมที่เต็มไปด้วยไขมันและน้ำตาล ) และผงโกโก้ ที่ยังไม่ได้รับการประมวลผลภาษาดัตช์ ( โกโก้ที่ถูกปฏิบัติด้วยด่างเพื่อแก้ความเป็นกรดของธรรมชาติ )

แล้วทั้งหมดของไขมันในช็อกโกแลต
คุณอาจจะประหลาดใจที่จะเรียนรู้ว่า ช็อกโกแลต ไม่ได้แย่อย่างที่เคยเชื่อ

ไขมันในช็อกโกแลตมาจากเนยโกโก้และถูกสร้างขึ้นของปริมาณที่เท่ากันของกรดโอเลอิก ( สุขภาพหัวใจไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่พบในน้ำมันมะกอก , stearic acid ) และกรด และกรดปาล์มิติคเป็นรูปแบบของปริมาณไขมันอิ่มตัว คุณอาจไม่รู้ว่าไขมันอิ่มตัวมีการเชื่อมโยงการเพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอลและความเสี่ยงของโรคหัวใจ .

แต่การวิจัยพบว่า กรดสเตียริก ดูเหมือน จะ ได้ เป็นกลางต่อคอเลสเตอรอลไม่เพิ่มหรือลดมัน แม้ว่ากรดปาล์มิติคไม่มีผลต่อระดับคอเลสเตอรอล มันทำให้ขึ้นหนึ่งในสามของแคลอรี่ไขมันในช็อกโกแลต แต่นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณสามารถกินทั้งหมดที่คุณต้องการที่มืดช็อคโกแลต

แรกต้องระวังเกี่ยวกับชนิดของช็อคโกแลตเข้มที่คุณเลือก :คาราเมล มาร์ชเมลโล่เหนียวนัทปกคลุมช็อคโกแลตคือโดยไม่มีหมายถึงหัวใจอาหารเพื่อสุขภาพทางเลือก ระวังพวกส่วนผสมพิเศษที่สามารถเพิ่มมากมายพิเศษไขมันและแคลอรี ประการที่สอง ปัจจุบันยังไม่มีขึ้นให้ขนาดของช็อคโกแลตเพื่อช่วยให้คุณเก็บเกี่ยวผลประโยชน์หัวใจและหลอดเลือด อาจเสนอ และการวิจัยมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นในพื้นที่นี้ อย่างไรก็ตามเรารู้ว่าคุณไม่ต้องรู้สึกผิดถ้าคุณเพลิดเพลินกับชิ้นเล็ก ๆของช็อคโกแลตบ้าง

แล้วตอนนี้ เพลิดเพลินกับส่วนรวมของช็อกโกแลต เช่น ( 1 ออนซ์ ) ไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์ และอย่าลืมกินอื่น ๆอาหารที่อุดมด้วยฟลาโวนอยด์ เช่น แอปเปิ้ล องุ่น ชาหอมและแครนเบอร์รี่ .