During World War II, he remained in

During World War II, he remained in Brussels, even with the German Occupation there. Breton was furious, and severed ties with him. From 1943-1944, his art work changed, and showed influence from Auguste Renoir, an impressionist painter. To survive though, he forged copies of Picasso’s, Braque’s, and Chirico’s to sell to the Germans, which got him through the war. He regretted this later, but he did what he needed to survive at the time. He also made counterfeit banknotes to use.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เขาอยู่ในบรัสเซลส์ แม้จะมีการยึดครองเยอรมันมี โกรธ เบรตันมาก และตัดขาดความสัมพันธ์กับเขา จากปี 1943-1944 งานศิลปะของเขาเปลี่ยนแปลง และแสดงให้เห็นอิทธิพลจากโอกุสต์เรอนัวร์ เป็นจิตรกรอิมเพรส เอาตัวรอดแม้ว่า เขาปลอมสำเนาของปิกัสโซ ของ Braque และของ Chirico ขายให้เยอรมัน ที่มีเขาผ่านสงคราม เขาเสียใจอย่างนี้ในภายหลัง แต่เขาทำสิ่งที่เขาต้องการจะอยู่รอดในเวลา นอกจากนี้เขายังทำธนบัตรปลอมเพื่อใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเขายังคงอยู่ในกรุงบรัสเซลส์แม้จะมีอาชีพมีเยอรมัน เบรอตงโกรธและความสัมพันธ์กับเขาตัดขาด จาก 1943-1944, งานศิลปะของเขาเปลี่ยนไปและแสดงให้เห็นอิทธิพลจาก Auguste Renoir, จิตรกรอิมเพรส เพื่อความอยู่รอด แต่เขาปลอมแปลงสำเนาของปิกัสโซ, Braque และ Chirico ที่จะขายให้กับชาวเยอรมันซึ่งเขาได้ผ่านสงคราม เขาเสียใจในภายหลังนี้ แต่เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการที่จะอยู่รอดในช่วงเวลานั้น นอกจากนี้เขายังทำธนบัตรปลอมที่จะใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเขายังคงอยู่ในบรัสเซลส์ แม้แต่กับเยอรมันยึดครองนั้น เบรตันโกรธ และยุติความสัมพันธ์กับเขา จาก 1943-1944 ศิลปะงานของเขาเปลี่ยนไป และพบว่าอิทธิพลจากออกุสต์ เรอนัวร์ เป็นจิตรกร Impressionist . เพื่อความอยู่รอด เขาปลอมแปลงสำเนาของ Picasso , บราค และ ชิริโคก็ขายไปเยอรมัน ซึ่งทำให้เขาผ่านสงคราม เขาเสียใจทีหลัง แต่เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการที่จะอยู่รอดในเวลาที่ เขายังทำธนบัตรปลอมไปใช้