History of Medical Tourism - The Po

History of Medical Tourism - The Post-Renaissance Period
Towards the end of the Renaissance period, aristocrats from around Europe continued to swarm to Bath for healing and therapeutic cleansing.
In the 1720s, Bath became the first city in England to receive a covered sewage system and was ahead of London for several years. The city also received technological, financial, and social benefits. Roads were paved, streets had lights, hotels, and restaurants were beautified – all because of Medical Tourism.
The discovery of the New World brought new destinations for European medical travelers. During the 1600s, English and Dutch colonists started building log cabins near mineral springs rich with medicinal properties. During this time, it was noted that the Native Americans in the New World were adept in the healing arts. Knowledge in herbal medicine was exceptional and rivalled those in Europe, Asia or Africa.
During the 18th and 19th century, several Europeans and Americans continued to travel to remote areas with spas and health retreats hoping to cure various ailments like tuberculosis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติความเป็นมาของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ - โพสต์เรเนสซองระยะเวลา
ในช่วงปลายของยุคเรเนสซองขุนนางจากทั่วยุโรปยังคงจับกลุ่มไปอาบน้ำสำหรับการรักษาและการทำความสะอาดการรักษา
ในยุค 1720, อาบน้ำกลายเป็นเมืองแรกในประเทศอังกฤษจะได้รับระบบบำบัดน้ำเสียที่ครอบคลุมและที่อยู่ข้างหน้าของกรุงลอนดอนเป็นเวลาหลายปี เมืองนี้ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านเทคโนโลยีทางการเงินและทางสังคม ถนนปูถนนมีไฟ, โรงแรม, ร้านอาหารและได้รับการเชิดชู - ทั้งหมดเนื่องจากการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์
การค้นพบโลกใหม่นำสถานที่ใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวทางการแพทย์ยุโรป ในช่วงยุค 1600, ภาษาอังกฤษและอาณานิคมดัตช์เริ่มต้นกระท่อมอาคารที่อยู่ใกล้กับน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยสรรพคุณทางยา ในช่วงเวลานี้มันก็สังเกตเห็นว่าชาวอเมริกันพื้นเมืองในโลกใหม่มีความเชี่ยวชาญในศิลปะบำบัด ความรู้เกี่ยวกับยาสมุนไพรเป็นที่โดดเด่นและผลงานผู้ที่อยู่ในยุโรปเอเชียหรือแอฟริกา
ในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 หลายยุโรปและอเมริกันยังคงเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกลกับสปาและสุขภาพถอยหวังที่จะรักษาโรคต่างๆเช่นวัณโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติความเป็นมาของการท่องเที่ยวทางการแพทย์-ยุคหลังเรเนซองส์
ในช่วงปลายของยุคเรอเนซองส์, ขุนนางจากทั่วยุโรปยังคงเป็นฝูงเพื่ออาบน้ำสำหรับการรักษาและการทำความสะอาดรักษา.
ใน 1720s, อ่างอาบน้ำกลายเป็นเมืองแรกในประเทศอังกฤษจะได้รับระบบบำบัดน้ำเสียที่ครอบคลุมและอยู่ข้างหน้าของลอนดอนเป็นเวลาหลายปี. เมืองนี้ยังได้รับเทคโนโลยีการเงินและผลประโยชน์ทางสังคม ถนนมีการปูถนนมีไฟ, โรงแรม, และร้านอาหารที่มีความสวยงาม–ทั้งหมดเนื่องจากการท่องเที่ยวทางการแพทย์.
การค้นพบโลกใหม่นำสถานที่ท่องเที่ยวใหม่สำหรับนักเดินทางทางการแพทย์ชาวยุโรป ในช่วง 1600s, อังกฤษและดัตช์อาณานิคมเริ่มต้นการสร้างห้องกระท่อมใกล้กับน้ำพุแร่ที่อุดมไปด้วยสรรพคุณทางยา. ในช่วงเวลานี้, มันถูกตั้งข้อสังเกตว่าชาวอเมริกันพื้นเมืองในโลกใหม่ถูก adept ในศิลปะการรักษา. ความรู้เกี่ยวกับยาสมุนไพรเป็นพิเศษและ rivalled ผู้ที่อยู่ในยุโรปเอเชียหรือแอฟริกา
ในช่วงศตวรรษที่18และ 19, ชาวยุโรปหลายและชาวอเมริกันยังคงเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกลที่มีสปาและสุขภาพถอยหวังที่จะรักษาโรคต่างๆเช่นวัณโรค.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติทางการแพทย์การท่องเที่ยวหลังยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
ในตอนท้ายของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาชนชั้นสูงทั่วยุโรปยังคง flocking เพื่อรักษาและอาบน้ำบำบัด
อ่างอาบน้ำเป็นเมืองแรกในอังกฤษที่จะได้รับระบบบำบัดน้ำเสียครอบคลุมใน 17-20 และนำลอนดอนเป็นเวลาหลายปี เมืองยังได้รับเทคโนโลยีการเงินและสวัสดิการทางสังคม ถนนที่ถูกปูด้วยไฟถนนโรงแรมและร้านอาหารที่ถูกตกแต่งทั้งหมดเพราะการเดินทางทางการแพทย์
การค้นพบโลกใหม่ได้นำจุดหมายปลายทางใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวทางการแพทย์ในยุโรป ในศตวรรษที่ 17 อังกฤษและดัตช์อาณานิคมเริ่มสร้างกระท่อมใกล้น้ำแร่ที่อุดมไปด้วยยา ในช่วงเวลานี้มีคนสังเกตเห็นว่าชาวอเมริกันพื้นเมืองของทวีปใหม่เก่งในการรักษาศิลปะ ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรเป็นพิเศษและเทียบเท่ากับความรู้ของยุโรปเอเชียหรือแอฟริกา
ในช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19 บางยุโรปและอเมริกันยังคงเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกลเพื่อพักฟื้นจากน้ำพุร้อนและฟื้นฟูสุขภาพในความหวังของการรักษาโรคต่างๆเช่นวัณโรค