About Rice ResearchRice (Oryza sati

About Rice Research
Rice (Oryza sativa) is the most important food grain in Latin America and the Caribbean (LAC), supplying poor consumers in particular with more calories than any other staple crop. In this rapidly urbanizing region, rice’s strong appeal derives from its convenience and many dietary virtues.
Multidisciplinary rice research is helping make the region’s rice sector more eco-efficient i.e., productive and competitive as well as resilient and sustainable so that it is now poised to contribute even more importantly to regional as well as global food security.
Regional Rice Improvement with Potential Global Payoffs
CIAT’s Rice Program has contributed to the development of about 60% of the 400 improved varieties released by countries in LAC so far. The Center’s conventional breeding and recurrent selection have resulted in new generations of improved rice that are well suited to the region’s diverse rice-growing environments and predominant practices, giving high yields while also showing excellent grain quality and resistance to diseases and pests. In recent years, Center breeders have also developed lines of nutritionally enriched rice containing high levels of two key micronutrients iron and zinc.
A major challenge for global rice research is to boost the crop’s yield potential, which has risen slowly in recent years, even as demand for the world’s most important grain has continued to expand. CIAT research contributes to yield improvement in several ways. One centers on the introgression of alleles from wild species related to rice into the cultivated crop, while another involves breeding for a long-panicle rice “ideotype”.
Through the Global Rice Science Partnership (GRiSP), CIAT and other partners have recently embarked on a more concerted effort to raise yield potential through various approaches, including exploitation of heterosis, gene pyramiding, association mapping, and ideotype modeling.
To help protect rice yields, CIAT scientists are developing resistance or tolerance to various biotic and abiotic stresses. For example, through selection in a disease hotspot, researchers have developed several varieties with stable resistant to rice blast, the single most damaging pathogen of the crop. In addition, several screening methodologies have been devised for development of resistance to the virus and vector responsible for Rice Hoja Blanca Virus. Researchers are selecting for other key traits as well, like drought tolerance, in South America’s savannas ecosystem.
Biotechnology Tools
Rice improvement at CIAT makes extensive use of various biotechnology approaches. Center scientists have developed several genomic tools for gene discovery as well as methods of marker-assisted selection (MAS) for resistance to hoja blanca virus, rice blast, and the rice planthopper and tolerance to cold temperatures. In connection with that work, Center researchers employ DNA fingerprinting methods for variety identification as well as for genetic and phenotypic characterization of pathogen populations.
In addition, CIAT employs advanced genotyping and phenotyping techniques to study the transgenesis of rice lines for resistance to hoja blanca virus and sheath blight, drought tolerance, and water- and nutrient-use efficiency. With the use of a transformation platform established for the development of genetically modified rice, several combinations of genes and promoters are being tested in controlled environments and in the field for drought tolerance and nitrogen-use efficiency.
Visionary Collaboration
CIAT’s Rice Program works in partnership with a wide range of national and international organizations, with strong emphasis on capacity strengthening.
Within the LAC region, much of this collaboration centers on the Latin American Fund for Irrigated Rice (FLAR). This is a voluntary consortium of more than 30 public and private sector organizations in 17 countries, dedicated to developing new technology for sustainable rice production. Members shape FLAR’s research agenda and provide funds for the development of technologies that satisfy shared demands.
Since FLAR’s establishment in 1995, it has built up an impressive record of technological achievement, developing more than 40 improved varieties that offer high yields with excellent grain quality and disease resistance. FLAR has also laid the foundations for an agronomic revolution, focused on closing yield gaps to increase average rice yields by as much as 2 tons per hectare.
CGIAR Research Programs
CIAT’s rice research in Latin America and the Caribbean contributes importantly to one of the CGIAR Research Programs, that dealing with rice and known as the:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกี่ยวกับการวิจัยข้าว
ข้าว (Oryza sativa) เป็นอาหารเม็ดที่สำคัญที่สุดในลาตินอเมริกาและแคริบเบียน (ครั่ง), การจัดหาผู้บริโภคที่ไม่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแคลอรี่มากขึ้นกว่าการปลูกพืชหลักอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้อย่างรวดเร็ว urbanizing อุทธรณ์ที่แข็งแกร่งของข้าวมาจากความสะดวกสบายและคุณธรรมอาหารหลาย.
การวิจัยข้าวสหสาขาวิชาชีพจะช่วยให้ภาคข้าวภูมิภาคนิเวศมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นการผลิตและการแข่งขันเช่นเดียวกับที่มีความยืดหยุ่นและยั่งยืนเพื่อให้มีการทรงตัวในขณะนี้มีส่วนร่วมมากยิ่งสำคัญมากขึ้นในภูมิภาคเช่นเดียวกับความมั่นคงด้านอาหารทั่วโลก.
การปรับปรุงข้าวในภูมิภาคด้วย payoffs ที่มีศักยภาพทั่วโลก
โปรแกรม ciat ข้าวที่ไ​​ด้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประมาณ 60% ของสายพันธุ์ที่ดีขึ้น 400 ออกโดยประเทศในครั่งเพื่อให้ห่างไกล การปรับปรุงพันธุ์แบบดั้งเดิมของศูนย์และการเลือกเกิดขึ้นมีผลในรุ่นใหม่ของการปรับปรุงข้าวที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ดีปลูกข้าวที่หลากหลายในภูมิภาคและการปฏิบัติเด่นให้ผลตอบแทนสูงในขณะที่ยังแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเมล็ดข้าวที่ดีเยี่ยมและความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช ในปีที่ผ่านมาศูนย์พ่อพันธุ์แม่พันธุ์ได้พัฒนาสายของข้าวที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการที่มีระดับสูงของทั้งสองแร่ธาตุอาหารที่สำคัญเหล็กและสังกะสี.
ความท้าทายที่สำคัญสำหรับการวิจัยข้าวทั่วโลกที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตพืชซึ่งได้เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆในปีที่ผ่านมาแม้ในขณะที่ความต้องการใช้เมล็ดพืชที่สำคัญที่สุดของโลกได้อย่างต่อเนื่องที่จะขยาย การวิจัย ciat ก่อให้เกิดผลผลิตการปรับปรุงในหลายวิธี หนึ่งศูนย์ที่อินโทรของอัลลีลจากสายพันธุ์ป่าที่เกี่ยวข้องกับข้าวเป็นพืชที่ปลูกในขณะที่อีกคนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเพาะพันธุ์ยาวช่อข้าว "ideotype".
ผ่านความร่วมมือทางด้านวิทยาศาสตร์ข้าวทั่วโลก (grisp)CIAT และคู่ค้าอื่น ๆ ได้ลงมือเมื่อเร็ว ๆ นี้ความพยายามร่วมกันมากขึ้นในการเพิ่มผลผลิตที่มีศักยภาพผ่านวิธีการต่างๆรวมทั้งการแสวงหาผลประโยชน์ของ heterosis ยีน pyramiding การทำแผนที่ความสัมพันธ์และการสร้างแบบจำลอง ideotype.
เพื่อช่วยปกป้องผลผลิตข้าว ciat นักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนาความต้านทานหรือความอดทนที่จะ ความเครียดทางชีววิทยาและ abiotic ต่างๆ ตัวอย่างเช่นผ่านการคัดเลือกในจุดที่มีสัญญาณโรคนักวิจัยได้พัฒนาหลายสายพันธุ์ที่มีความมั่นคงทนต่อการระเบิดข้าวเชื้อโรคที่เป็นอันตรายมากที่สุดคนหนึ่งของพืช นอกจากนี้วิธีการคัดกรองหลายคนได้รับการวางแผนสำหรับการพัฒนาความต้านทานต่อไวรัสและเวกเตอร์ที่รับผิดชอบในการไวรัส Hoja ข้าว blanca นักวิจัยกำลังสำหรับการเลือกลักษณะที่สำคัญอื่น ๆ เช่นกันเช่นทนแล้งในอเมริกาใต้ระบบนิเวศ savannas ปรับปรุงเครื่องมือ.

เทคโนโลยีชีวภาพข้าวที่ ciat ทำให้การใช้งานที่กว้างขวางของวิธีการเทคโนโลยีชีวภาพต่างๆ นักวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์ได้มีการพัฒนาเครื่องมือจีโนมหลายสำหรับการค้นพบยีนที่เป็นวิธีการของการเลือกเครื่องหมายช่วย (คริสต์มาส) สำหรับความต้านทานต่อเชื้อไวรัส blanca Hoja ระเบิดข้าวและเพลี้ยกระโดดข้าวและความอดทนที่มีอุณหภูมิเย็น ในการเชื่อมต่อกับงานที่นักวิจัยศูนย์ใช้วิธีการพิมพ์ลายนิ้วมือดีเอ็นเอเพื่อระบุตัวตนที่หลากหลายเช่นเดียวกับลักษณะทางพันธุกรรมและฟีโนไทป์ของประชากรเชื้อโรค.
นอกจากนี้ciat พนักงาน genotyping phenotyping และเทคนิคขั้นสูงเพื่อการศึกษาของสาย transgenesis ข้าวสำหรับความต้านทานต่อไวรัส Hoja blanca และกาบใบแห้ง, ทนแล้งและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและการใช้สารอาหาร กับการใช้งานของแพลตฟอร์มการเปลี่ยนแปลงที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาข้าวดัดแปลงพันธุกรรมที่หลายชุดของยีนและส่งเสริมกำลังมีการทดสอบในสภาพแวดล้อมที่ควบคุมและในสนามสำหรับทนแล้งและไนโตรเจนการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ.
โปรแกรมข้าวมีวิสัยทัศน์การทำงานร่วมกัน
ciat ที่ทำงานร่วมกับหลากหลายขององค์กรระดับชาติและนานาชาติที่มีความสำคัญอย่างมากกับความจุ เสริมสร้างความเข้มแข็ง.
ในภูมิภาคครั่งที่มากของการทำงานร่วมกันนี้ศูนย์กองทุนละตินอเมริกาข้าวชลประทาน (flar) นี้เป็นความสมัครใจของสมาคมกว่า 30 รัฐและเอกชนองค์กรภาคใน 17 ประเทศทั่วโลกมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน สมาชิกรูปร่างวาระการวิจัย flar และให้เงินทุนสำหรับการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการใช้ร่วมกัน.
นับตั้งแต่ก่อตั้ง flar ในปี 1995 มันได้สร้างขึ้นบันทึกที่น่าประทับใจของความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่พัฒนากว่า 40 พันธุ์ดีที่ให้ผลผลิตสูงมีคุณภาพเมล็ดดีเยี่ยมและความต้านทานโรค flar ยังได้วางรากฐานสำหรับการปฏิวัติทางการเกษตรที่เน้นการปิดช่องว่างผลผลิตที่จะเพิ่มผลผลิตข้าวโดยเฉลี่ยเท่า 2 ตันต่อเฮกตาร์.
โครงการวิจัย CGIAR
วิจัยข้าว ciat ในละตินอเมริกาและแคริบเบียนที่สำคัญก่อให้เป็นหนึ่งในโปรแกรมการวิจัย CGIAR ที่เกี่ยวข้องกับการปลูกข้าวและเป็นที่รู้จักกัน:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกี่ยวกับงานวิจัยข้าว
ข้าว (Oryza ซา) เป็นเมล็ดพืชอาหารสำคัญที่สุดในสหรัฐอเมริกาและคาริบเบียน (LAC) ผู้จัดหาไม่ดีโดยเฉพาะ มีแคลอรี่มากขึ้นกว่าใด ๆ ตั๋วเย็บกระดาษอื่น ๆ ตัด ในภูมิภาคนี้อย่างรวดเร็ว urbanizing อุทธรณ์ของข้าวแข็งแกร่งมาจากความสะดวกสบายและคุณค่าอาหารมากมาย.
ช่วยวิจัย multidisciplinary ข้าวให้มากขึ้นกับสิ่งแวดล้อมประสิทธิภาพภาคข้าวของภูมิภาคเช่น ประสิทธิภาพ และการแข่งขันเช่นที่ยืดหยุ่น และยั่งยืนนั้นว่าขณะนี้มีการเตรียมพร้อมเพื่อนำแม้มากกว่าภูมิภาคสำคัญไปทั่วโลกเป็นเช่นอาหารปลอดภัย.
ภูมิภาคพัฒนาข้าวกับ Payoffs สากลที่มีศักยภาพ
โปรแกรมข้าวของ CIAT มีส่วนในการพัฒนาประมาณ 60% ของสายพันธุ์ปรับปรุง 400 ออก โดยประเทศใน LAC จน ศูนย์เพาะพันธุ์ธรรมดาและตัวเลือกการเกิดซ้ำทำให้รุ่นใหม่ปรับปรุงข้าวที่เหมาะสมกับระบบปลูกข้าวหลากหลายในภูมิภาคนี้และปฏิบัติกัน ให้ผลผลิตสูงในขณะที่ยัง แสดงคุณภาพเมล็ดข้าวดีและต้านทานโรคและศัตรูพืช ในปีที่ผ่านมา บรีดเดอร์สศูนย์พัฒนารายการข้าวอุดมคุณค่าทางโภชนาการที่ประกอบด้วยสององค์ประกอบตามโรคที่สำคัญเหล็กและสังกะสีระดับสูง
ความท้าทายหลักสำหรับงานวิจัยข้าวโลกจะเพิ่มของพืชผลผลิตศักยภาพ ซึ่งได้เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ในปีที่ผ่านมา เป็นความต้องการ สำหรับโลกของสำคัญ เมล็ดข้าวได้อย่างต่อเนื่องเพื่อขยาย CIAT วิจัยสนับสนุนให้ปรับปรุงในหลายวิธี หนึ่งศูนย์ใน introgression ของ alleles จากพันธุ์ป่าที่เกี่ยวข้องกับข้าวเป็นพืชปลูก ในขณะที่อื่นเกี่ยวข้องกับการผสมพันธุ์สำหรับข้าว panicle ยาว "ideotype"
ผ่านที่สากลข้าววิทยาศาสตร์ร่วม (GRiSP), CIAT และคู่ค้าอื่น ๆ ได้ล่าสุดจำนวนบนสนุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มศักยภาพผลผลิต โดยวิธีการต่าง ๆ รวมถึงแสวงหาประโยชน์จาก heterosis ยีน pyramiding การแม็ปความสัมพันธ์ และ ideotype โมเดล.
เพื่อป้องกันข้าวทำให้ CIAT นักวิทยาศาสตร์มีการพัฒนาความต้านทานหรือค่าเผื่อต่าง ๆ biotic และ abiotic เครียด ตัวอย่าง ทางเลือกในโรคฮอตสปอ นักวิจัยได้พัฒนาพันธุ์หลายกับคอกทนต่อการระเบิดข้าว การศึกษาความเสียหายมากที่สุดเดียวเพาะ วิธีการคัดกรองหลายได้ถูกกำหนดสำหรับพัฒนาความต้านทานต่อไวรัสและเวกเตอร์ชอบข้าวเครื่องลับแบลนก้าไวรัส นักวิจัยจะเลือกสำหรับลักษณะสำคัญอื่น ๆ เช่น ต้องทนแล้ง ในอเมริกาใต้ savannas นิเวศ
เครื่องมือเทคโนโลยีชีวภาพ
ใช้วิธีเทคโนโลยีชีวภาพต่าง ๆ ช่วยให้การปรับปรุงข้าวที่ CIAT นักวิทยาศาสตร์ศูนย์ได้พัฒนาเครื่องมือ genomic ต่าง ๆ สำหรับการค้นพบยีนตลอดจนวิธีการเลือกเครื่องช่วย (มาส) สำหรับความต้านทานต่อเครื่องลับไวรัสซาบลังก้า ข้าวระเบิด และเพลี้ยกระโดดข้าวและยอมรับกับอุณหภูมิเย็น กับที่ทำงาน ศูนย์วิจัยใช้วิธีการหลายรหัสเช่นกันสำหรับคุณสมบัติทางพันธุกรรม และไทป์ของประชากรศึกษา. ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ
, CIAT ใช้เทคนิคขั้นสูง genotyping และ phenotyping ศึกษา transgenesis ข้าวบรรทัดสำหรับความต้านทานต่อเครื่องลับโรคไวรัสและ sheath ซาบลังก้า ทนแล้ง และประสิทธิภาพการใช้น้ำ และธาตุอาหารใช้ มีการใช้แพลตฟอร์มการแปลงสำหรับการพัฒนาของข้าวดัดแปลงพันธุกรรม หลายชุดของยีนและก่อกำลังทดสอบ ในสภาพแวดล้อมการควบคุม และฟิลด์สำหรับภัยแล้งการยอมรับและใช้ไนโตรเจนประสิทธิภาพ
วิสัยทัศน์ร่วม
ของ CIAT ข้าวโปรแกรมทำงานร่วมกับชาติ และนานาชาติองค์กร มีเน้นเพิ่มกำลังการผลิต
ภายใน LAC ภูมิภาค ความร่วมมือนี้มากศูนย์ในริกากองทุนสำหรับชลประทานข้าว (FLAR) นี่คือองค์กรที่สมัครใจกว่า 30 สาธารณะและองค์กรเอกชนในประเทศ 17 ทุ่มเทเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน รูปร่างของ FLAR วิจัยวาระ และให้เงินทุนสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการที่ใช้ร่วมกัน
นับตั้งแต่ก่อตั้งของ FLAR 1995 มันได้สร้างเรกคอร์ดน่าประทับใจของความสำเร็จเทคโนโลยี พัฒนากว่า 40 ปรับปรุงพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงต้านทานโรคและคุณภาพเมล็ดดี FLAR ได้วางรากฐานในการปฏิวัติมีลักษณะทางพืชไร่ เน้นปิดช่องว่างผลผลิตเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวเฉลี่ยมากถึง 2 ตันต่อ hectare
โปรแกรมวิจัย CGIAR
วิจัยข้าวของ CIAT ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดารวมสำคัญ CGIAR วิจัยโปรแกรม จัดการที่กับข้าวและเป็นที่รู้จักในการ:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกี่ยวกับข้าวการวิจัย
ข้าว(กระท่อม Sativa Sanur มีระดับสิ้น)เป็นข้าวอาหารสำคัญที่สุดในละตินอเมริกาและแคริบเบียน(จ.ต.)ได้จัดส่ง ผู้บริโภค ผู้น่าสงสารในเฉพาะโดยมากกว่าพืชชนิดอื่นๆสำคัญใดๆ ในพื้นที่อย่างรวดเร็ว urbanizing แห่งนี้ดึงดูดใจของข้าวมาจากความสะดวกสบายของพื้นที่และคุณธรรมประจำใจอาหารจำนวนมาก.
หลากหลายสาขาการวิจัยข้าวทำให้ข้าวของพื้นที่ ภาค เอกชนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า - มี ประสิทธิภาพ เช่น,มี ประสิทธิภาพ และมีความได้เปรียบในการแข่งขันและมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นและยั่งยืนดังนั้นที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้แนวโน้มในการมีส่วนร่วมได้มากยิ่งขึ้นและที่สำคัญคือเพื่อตามแบบพื้นเมืองและอาหารระดับโลกด้านความ ปลอดภัย .
ในระดับ ภูมิภาค ข้าวการปรับปรุงมี ศักยภาพ ระดับโลกต้องการสินบน
ข้าวโครงการของ ciat มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาที่มีประมาณ 60% ของ 400 ความหลากหลายได้รับการปรับปรุงที่ออกมาจากประเทศในจ.ต.อย่างมาก ขยายพันธุ์ทั่วไปของศูนย์กลางและทางเลือกซ้ำมีผลทำให้ในรุ่นใหม่ของข้าวได้ดียิ่งขึ้นว่ามีการจัดให้บริการเป็นอย่างดีเหมาะสำหรับใช้งานใน สภาพแวดล้อม ข้าว - การเติบโตที่หลากหลายของพื้นที่และการปฏิบัติความโดดเด่นช่วยให้อัตราผลตอบแทนสูงในขณะที่ยังมีการแสดงการต่อต้านและ คุณภาพ เมล็ดธัญพืชที่ดีเยี่ยมเพื่อไปยังโรคและศัตรูพืช ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาที่นักปรับปรุงพันธุ์ศูนย์มีการพัฒนาการของข้าวลดน้ำหนักและอาหารเพื่อเพิ่มความมีระดับสูงของทั้งสองธาตุสังกะสีและเตารีดสารอาหารสำคัญยัง.
ความท้าทายที่สำคัญสำหรับการวิจัยข้าวของโลกคือการเพิ่ม ศักยภาพ ให้ผลตอบแทนของพืชซึ่งมีขึ้นอย่างช้าๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแม้จะเป็นความต้องการของโลกที่มากที่สุดจากเมล็ดธัญพืชที่สำคัญมีการขยายตัว การวิจัย ciat ช่วยในการทำให้การปรับปรุงในหลายวิธีด้วยกัน หนึ่งในศูนย์ introgression ของ alleles จากพันธุ์ไม้ป่าที่เกี่ยวข้องกับข้าวในแปลงปลูกพืชที่ปลูกในขณะที่อีกคนหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการผสมพันธุ์นาน - ช่อดอกไม้ข้าว" ideotype "..
ผ่านทาง Global ข้าววิทยาศาสตร์ความเป็นหุ้นส่วนที่( grisp )คู่ค้ารายอื่นและ ciat ได้รับในความพยายามมากขึ้นร่วมกันที่จะเพิ่ม ศักยภาพ ให้ผลตอบแทนผ่านวิธีการหลากหลายรวมถึงการตักตวงประโยชน์ของ heterosis ยีน pyramiding การทำแผนที่การเชื่อมโยงเมื่อไม่นานมานี้และการสร้างแบบจำลอง ideotype .
เพื่อช่วยปกป้องอัตราผลตอบแทน ciat ข้าวนักวิทยาศาสตร์กำลังพัฒนา Fault Tolerance หรือการต่อต้านการบานสะพรั่งและ abiotic เน้น ตัวอย่างเช่นในการเลือกในฮอตสปอตเป็นโรคที่นักวิจัยได้พัฒนาอย่างหลากหลายมากด้วยระเบิดทนกับข้าวที่มี เสถียรภาพ และให้เกิดความเสียหายกับเชื้อตัวเดียวที่มากที่สุดของพืชได้ ในการตรวจคัดกรองแนวหลายแห่งได้รับการคิดค้นเพื่อการพัฒนาในการต่อต้านกับ Initialization Vector แบบและไวรัสที่เป็นผู้รับผิดชอบสำหรับข้าว Tomb ,เมือง Blanca ไวรัส นักวิจัยจะเป็นการเลือกสำหรับคุณสมบัติอื่นๆที่สำคัญเป็นอย่างดีFault Tolerance ไว้ด้วยเช่น ภัย แล้งใน savannas ของอเมริกาใต้เครื่องมือระบบนิเวศ.

ซึ่งจะช่วยพัฒนา เทคโนโลยีชีวภาพ ciat ข้าวที่ทำให้ใช้งานที่หลากหลายของวิธีการ เทคโนโลยีชีวภาพ ต่างๆ นักวิทยาศาสตร์ศูนย์มีการพัฒนาเครื่องมือ genomic หลากหลายสำหรับการค้นพบยีนและวิธีการของการเลือกเครื่องหมาย - ช่วย(สิงคโปร์)เพื่อความทนทานต่อการระเบิดข้าว Tomb ,เมืองไวรัส Blancafault tolerance และ planthopper และข้าวให้มี อุณหภูมิ เย็น. ในการเชื่อมต่อกับงานที่นักวิจัยของศูนย์ใช้วิธีการ fingerprinting ดีเอ็นเอสำหรับการระบุตัวตนความหลากหลายและสำหรับแสดงลักษณะทางพันธุกรรมของประชากรและ phenotypic เชื้อ.
นอกจากนี้มีพนักงานด้านเทคนิค ciat phenotyping และ genotyping ขั้นสูงเพื่อการศึกษา transgenesis ของสายข้าวเพื่อความทนทานต่อ Tomb ไวรัส Blanca และปลอกทำลาย Fault Tolerance จาก ภัย แล้งและน้ำ - ประสิทธิภาพ สารอาหารและใช้ พร้อมด้วยการใช้แพลตฟอร์มการปฏิรูปการจัดตั้งขึ้นเพื่อการพัฒนาข้าวดัดแปลงพันธุกรรมการรวมตัวกันของยีนหลากหลายและส่งเสริมการทำการทดสอบในการควบคุมและ สภาพแวดล้อม ในฟิลด์สำหรับ ภัย แล้ง fault tolerance และไนโตรเจน - ใช้ ประสิทธิภาพ .

ciat มีวิสัยทัศน์การประสานการทำงานร่วมกันของข้าวโปรแกรมทำงานในความเป็นหุ้นส่วนกับที่หลากหลายของประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ,มีการเน้นย้ำถึงความจุการแข็งค่าขึ้น.
ภายใน จ.ต.เขตพื้นที่การประสานการทำงานร่วมกันของศูนย์แห่งนี้ของกองทุนละตินอเมริกาสำหรับที่ราบลุ่มข้าว( flar ) โรงแรมแห่งนี้เป็นการจับมือกันตามความสมัครใจมากกว่า 30 องค์กรของรัฐและ ภาค เอกชนใน 17 ประเทศโดยเฉพาะในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน สมาชิกรูปทรงวาระการวิจัยของ flar และให้เงินทุนสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการใช้งานร่วมกัน.
นับตั้งแต่มีการสถาปนาของ flar ในปี 1995 ได้มีการสร้างขึ้นมาบันทึกความประทับใจที่ความสำเร็จของการพัฒนาเทคโนโลยีมากกว่า 40 ชนิดมากขึ้นซึ่งจัดให้บริการอัตราผลตอบแทนสูงโดยใช้ความต้านทานโรคและ คุณภาพ เมล็ดธัญพืชที่ดีเยี่ยม flar ได้วางรากฐานสำหรับการปฏิวัติด้วยปัญญาซึ่งมองที่ให้ความสำคัญกับการปิดช่องว่างให้ผลตอบแทนในการเพิ่มผลผลิตข้าวโดยเฉลี่ยมากขึ้นเท่าที่จะเป็น 2 ตันต่อเฮกเตอร์.
ยังการวิจัย cgiar โปรแกรม
ciat ของการวิจัยข้าวในละตินอเมริกาและแคริบเบียนที่ช่วยที่สำคัญที่สุดก็คือหนึ่งใน cgiar การวิจัยโปรแกรมที่ต้องเผชิญกับข้าวและรู้จักกันในชื่อที่