5.4.2 Individual FactorsGender was

5.4.2 Individual Factors
Gender was found to be associated with WMSDs in upper back area (p= 0.021). From table 4.5, men showed higher percentage of WMSDs in upper back area than women. Although this result was not consistent with many other studies that found musculoskeletal disorders were more common in women (28, 31, 32). However, work tasks which resulted in high frequency of upper back disorder in para-rubber planters were honing the knife and tapping the para-rubber trees. These two tasks were usually performed by men than women.

In this study, BMI was found to be associated with WMSDs in knee area (p= 0.035). This was evidenced by the higher percentages of WMSDs in knee area when the body mass index was increased. It may be because knee is weight bearing joint. Thus work load on these joints will be increased by the body weight, especially, when tissue and muscle around this joint were fatigue. Furthermore, increasing in BMI was considered to be one of the risk factors for knee osteoarthritis (42).

From the results of this study, physical activities especially sport or exercise, child care and elder care were not associated with WMSDs (Table 4.6). Only doing housework was found to be associated with WMSDs in elbow area (p=0.041). Those planters who reported “doing house work ≥ 1 time per week” showed high percentage of WMSDs in elbow area than “doing house work

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

5.4.2 แต่ละปัจจัยเพศพบกับ WMSDs ในบริเวณด้านหลัง (p = 0.021) จากตารางที่ 4.5 ผู้ชายพบเปอร์เซ็นต์สูงของ WMSDs ในบริเวณด้านหลังที่มากกว่าผู้หญิง แม้ว่าผลนี้ไม่สอดคล้องกับการศึกษาอื่น ๆ มากมายที่พบ musculoskeletal โรคได้ทั่วไปในผู้หญิง (28, 31, 32) อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติงานซึ่งส่งผลให้ความถี่สูงของโรคบนหลังที่แพลนเตอร์ยาง ถูกมีดเครื่องมืออุปกรณ์ และแตะต้นพารายาง งานเหล่านี้ได้มักจะทำ โดยผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ในการศึกษานี้ BMI พบกับ WMSDs บริเวณเข่า (p = 0.035) นี้ได้เป็นหลักฐาน ด้วยเปอร์เซ็นต์สูงของ WMSDs บริเวณเข่าเมื่อดัชนีมวลกายเพิ่มขึ้น อาจเนื่องจากเข่า แบกน้ำหนักร่วมด้วย จึง โหลดงานบนรอยต่อเหล่านี้จะมีเพิ่มตามน้ำหนักร่างกาย โดยเฉพาะ เมื่อเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อต่อนี้ก็ล้า นอกจากนี้ เพิ่มใน BMI ได้ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคข้อเข่าเสื่อมเข่า (42)จากผลการศึกษา กิจกรรมทางกายภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬา หรือออกกำลังกาย ดูแลเด็ก และดูแลคนไม่เกี่ยวข้องกับ WMSDs (ตารางที่ 4.6) ทำการบ้านเท่านั้น พบกับ WMSDs บริเวณข้อศอก (p = 0.041) แพลนเตอร์ผู้ที่รายงาน "ทำบ้านทำงาน≥ 1 ครั้งต่อสัปดาห์" พบของ WMSDs ใน ข้อศอกตั้งกว่า "ทำงานบ้าน < 1 ครั้งต่อสัปดาห์" นี้อาจเป็น เพราะมีแพลนเตอร์ยางในการศึกษานี้ส่วนใหญ่ทำงานบ้าน ด้วยตัวเอง หลายของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง ได้ทำการบ้าน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังจากเสร็จสิ้นแตะยางต้นไม้ในตอนเช้า และใช้จ่ายไม่กี่เพิ่มเติมชั่วโมงสำหรับงานบ้านทั่วไปยางแผ่น ในช่วงบ่าย และ ในตอนท้ายของวันทำการ 5.4.3 psychosocial ปัจจัยผลของการทดสอบ chi-square พบว่า สนับสนุนครอบครัวยากจนเกี่ยวข้องกับ WMSDs ในบริเวณด้านหลัง (p = 0.005) พบปัจจัยอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กับข้อมือ/มือตั้ง (p =มาก 0.0001) และบริเวณด้านหลัง (p = 0.007) ถูกรับรู้แสงดีในทำงาน (ตารางที่ 4.7) จากการสัมภาษณ์กับกระถางต้นไม้หญิงหนึ่ง มันถูกตั้งข้อสังเกตว่า ความคิดที่ขัดแย้งกันระหว่างสามีและภรรยาทำเธอปรึกษาสามี ดังนั้น สนับสนุนครอบครัวยากจนอาจนำไปสู่ WMSDs (58, 59, 81, 88) ในภาคใต้ยางแพลนเตอร์ ตาม Karasek และ Theorell ละติจูดต่ำตัดสินใจและความต้องการงานทางจิตใจสูงอาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางจิตใจสูงซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ความตึงเครียดนี้อาจพัฒนาในกรณีที่สนับสนุนทางสังคมต่ำ (60)นอกจากนี้ แพลนเตอร์ยางต้องทำงานให้ในเวลากลางคืนจนถึงเช้าเพื่อพวกเขาจะรัดตาของพวกเขาทำงานในแสง นี้อาจมีผลกระทบทางอ้อม WMSDs โดยปรับเปลี่ยนสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยง biomechanical (58) ดังนั้น แพลนเตอร์ที่รายงานข้อมือ/มือและปวดหลังส่วนบนมียังแนวโน้มที่จะรายงาน เป็นค่าลบรับรู้แสงดีในที่ทำงาน5.5 ลักษณะอาการของ WMSDs พบ WMSDs สูงสุดในการศึกษามีความผิดปกติของกล้ามเนื้อซึ่งมีวินิจฉัยส่วนใหญ่ปัญหาเหล่านี้เป็น อาการกระตุกของกล้ามเนื้อได้ ปัญหากล้ามเนื้อนี้ corresponded กับอื่น ๆ เกี่ยวกับยางแพลนเตอร์ (4, 11) ค้นพบจำนวนของแพลนเตอร์ที่มีความถี่ของอาการ WMSD "ทุกวัน" และ "ระหว่างทำงาน" ระหว่างวัน 7 ที่ผ่านมา ได้สูงที่ 50.3 สา%และ 47% ตามลำดับ (ตารางที่ 4.17, 4.14 ตาราง) ดังนั้น มันสามารถตีความว่า แพลนเตอร์ยางเหล่านี้เป็นจำนวนมากประสบจาก WMSDs เป็นผลลัพธ์ของการทำยางพาราการดำเนินงาน อาการเหล่านี้อาจมีอิทธิพลต่องานผลงานของแพลนเตอร์เป็นส่วนใหญ่อาการมักเกิดขึ้นในระหว่างชั่วโมงการทำงานเช่นอาการปวด อาการปวดลึก ชู และถูกความเจ็บปวด (ตารางที่ 4.13) แม้ว่าผลลัพธ์เกี่ยวกับความรุนแรงของอาการในวันที่แพลนเตอร์ได้สัมภาษณ์ และตรวจร่างกายได้รับส่วนใหญ่ได้คะแนนเป็น "บรรเทา" ผลลัพธ์เหล่านี้ควรจะตีความ ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากมีระยะพักนานในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคมจากการศึกษานี้ ซึ่งปรากฏว่า WMSDs ได้ไม่มีผลต่อมากในเวลาทำงานเท่าที่เห็นจากหมายเลขขนาดเล็กของแพลนเตอร์ที่มีการลาป่วย (ตารางที่ 4.18) นี้อาจเป็น เพราะความแตกต่างในการรับรู้ความเจ็บปวดระหว่างแต่ละคนและเหล่านี้แพลนเตอร์สามารถเลือกที่จะลดจำนวนชั่วโมงการทำงานแทนการลาป่วยได้ ดังนั้น กายที่ใช้ในการศึกษาปัจจุบันนี้เขาก็จะ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการวิเคราะห์กว่าสถิติการลาป่วย พบว่า ทำงานเป็นสาเหตุสำคัญของ WMSDs เมื่อเปรียบเทียบกับงานย่อยหรือกิจกรรมกีฬาตั้งแต่ 79.5% ของแพลนเตอร์รายงานว่า WMSDs ได้เป็นผลมาจากการดำเนินงานยาง อาจเป็นได้ว่า แพลนเตอร์เหล่านี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ของเวลาทำงานหาเงินให้ครอบครัว นอกจากนี้ ส่วนใหญ่สาเหตุของอาการที่พบเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการแตะ (51%) และตามเก็บรวบรวมยาง (43.7%) นี้อาจจะเนื่องจากเกือบทุกแพลนเตอร์ (179 จาก 198) ได้ทำงานแตะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานยาง นอกจากนี้ เคาะกระบวนถูกถือเป็นกระบวนการที่ใช้เวลามากขึ้นกว่ากระบวนการอื่น ๆ (ตารางที่ 4.19 ตาราง 4.20) ผู้ตอบส่วนใหญ่ก็ยังมีอาการในขั้นของ "โรคเรื้อรัง musculoskeletal" (คำสั่ง) (ร้อยละ 87.7) ด้วยหมายเลขสูงสุดอยู่ในขั้นตอนที่ 1 (54.5%) ของ cmd หมายความ ว่า ตรวจพบความเจ็บปวดในระหว่างการทำงาน (ตารางที่ 4.14) และไม่ลดประสิทธิภาพการทำงาน5.6 คำแนะนำผลการศึกษาปัจจุบันนี้พบโรค musculoskeletal ระหว่างแพลนเตอร์ยางส่วนสูง นอกจากนี้ ความผิดปกติเหล่านี้พบจะเกี่ยวข้องกับบุคคล งานในหน้าที่ และปัจจัย psychosocial ผลการวิจัยเหล่านี้มีความสำคัญพวกเขาสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับค้นหาโซลูชันเพื่อป้องกัน WMSDs ในแพลนเตอร์ยาง สำหรับตัวอย่าง WMSDs ในข้อมือ/มือ ไม่ออกกำลังกายดำเนินการ แต่ยัง ให้บริการอุปกรณ์เพื่อป้องกัน หรือลดการบาดเจ็บของโครงสร้างเหล่านั้นเช่นยางอุปกรณ์มีดแตะ (86) ลดความเครียดความอ่อนเพลียและการทำงานในระหว่างทำงานถูกจัดการ โดยการให้หยุดพักผ่อนกับกิจกรรมสำหรับการพักผ่อน แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับงานที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บกับแพลนเตอร์อื่น ๆ สามารถช่วยลดปัญหาสุขภาพของยาง tappers (89) ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานสุขภาพเป็น ergonomists ต้องทราบ WMSDs ที่พบแพลนเตอร์และปัจจัยใดมีอิทธิพลต่อพวกเขาซึ่งเป็นขั้นตอนแรกก่อนที่จะแทรกแซงให้มีอะไรกัน นอกจากนี้ ความชุกของ WMSDs ข้อมูลมีความสำคัญเท่าที่สามารถจะทำหน้าที่ตามงานวัดและประเมินผลเมื่อมีการแทรกแซง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

5.4.2
ปัจจัยส่วนบุคคลเพศพบว่าจะเกี่ยวข้องกับWMSDs ในพื้นที่หลังส่วนบน (p = 0.021) จากตาราง 4.5 แสดงให้เห็นว่าผู้ชายร้อยละที่สูงขึ้นของ WMSDs ในพื้นที่หลังส่วนบนมากกว่าผู้หญิง แม้ว่าผลนี้ไม่สอดคล้องกับการศึกษาอื่น ๆ ที่พบความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกถูกพบมากในผู้หญิง (28, 31, 32) แต่งานที่ทำงานซึ่งมีผลในความถี่สูงของความผิดปกติหลังส่วนบนในพาราชาวสวนยางได้รับการสร้างเสริมมีดและแตะต้นยางพารา ทั้งสองงานที่มักจะได้รับการดำเนินการโดยผู้ชายมากกว่าผู้หญิง. ในการศึกษานี้ค่าดัชนีมวลกายพบว่าจะเกี่ยวข้องกับ WMSDs ในพื้นที่หัวเข่า (p = 0.035) นี้เป็นหลักฐานโดยร้อยละที่สูงขึ้นของ WMSDs ในพื้นที่หัวเข่าเมื่อดัชนีมวลกายเพิ่มขึ้น มันอาจจะเป็นเพราะหัวเข่าเป็นน้ำหนักร่วม ดังนั้นภาระงานในข้อต่อเหล่านี้จะได้รับการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อรอบร่วมกันครั้งนี้มีความเมื่อยล้า นอกจากนี้เพิ่มขึ้นในค่าดัชนีมวลกายได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคข้อเข่าเสื่อม (42). จากผลการศึกษาครั้งนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมการออกกำลังกายการเล่นกีฬาหรือการออกกำลังกาย, การดูแลเด็กและการดูแลผู้สูงอายุไม่ได้มีความสัมพันธ์กับ WMSDs (ตารางที่ 4.6) เพียงทำงานบ้านก็พบว่าจะเกี่ยวข้องกับ WMSDs ในพื้นที่ข้อศอก (p = 0.041) ชาวสวนผู้ที่รายงานว่า "ทำงานบ้าน≥ 1 ครั้งต่อสัปดาห์" แสดงให้เห็นว่าเปอร์เซ็นต์สูงของ WMSDs ในพื้นที่กว่าข้อศอก "ทำงานบ้าน <1 ครั้งต่อสัปดาห์" ซึ่งอาจเป็นเพราะส่วนใหญ่ของชาวสวนยางพาราในการศึกษาครั้งนี้มีการทำบ้านด้วยตัวเอง หลายคนโดยเฉพาะผู้หญิงต้องทำบ้านเป็นเวลา 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังจากจบการเคาะต้นไม้พารายางในตอนเช้าและใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงมากขึ้นสำหรับบ้านทั่วไปหลังจากการแผ่นยางพาราในช่วงบ่ายและในตอนท้ายของ วัน. 5.4.3 ปัจจัยทางจิตสังคมผลของการทดสอบไคสแควร์แสดงให้เห็นว่าการสนับสนุนจากครอบครัวที่ยากจนมีความสัมพันธ์กับWMSDs ในพื้นที่หลังส่วนบน (p = 0.005) ปัจจัยอื่น ๆ ที่พบจะเกี่ยวข้องกับข้อมือ / พื้นที่มือ (p = 0.0001) และพื้นที่หลังส่วนบน (p = 0.007) การรับรู้ของแสงที่ไม่ดีในที่ทำงาน (ตารางที่ 4.7). จากการให้สัมภาษณ์กับชาวไร่หญิงหนึ่งมันก็สังเกตเห็น ที่ความคิดที่ขัดแย้งกันระหว่างสามีและภรรยาทำให้เธอจากการให้คำปรึกษากับสามีของเธอ ดังนั้นการสนับสนุนจากครอบครัวที่ยากจนอาจนำไปสู่ ​​WMSDs (58, 59, 81, 88) ในภาคใต้ของชาวสวนยางพารา ตามที่ Karasek Theorell และการรวมกันของละติจูดการตัดสินใจในระดับต่ำและความต้องการการทำงานทางด้านจิตใจสูงอาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางด้านจิตใจสูงซึ่งมีผลต่อสุขอนามัยของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ความตึงเครียดนี้อาจได้รับการพัฒนาในกรณีที่มีการสนับสนุนทางสังคมต่ำ (60). นอกจากนี้เกษตรกรชาวสวนยางพาราจะต้องทำงานในเวลากลางคืนจนถึงเช้าดังนั้นพวกเขาจะรัดตาของพวกเขาทำงานในแสงสลัว ซึ่งอาจมีผลกระทบทางอ้อมต่อ WMSDs โดยการปรับเปลี่ยนการสัมผัสกับปัจจัยเสี่ยงทางชีวกลศาสตร์ (58) ดังนั้นชาวสวนที่รายงานข้อมือ / มือและอาการปวดหลังส่วนบนก็ยังมีแนวโน้มที่จะรายงานการรับรู้เชิงลบของแสงที่ไม่ดีในที่ทำงาน. 5.5 ลักษณะอาการของ WMSDs ผลการวิจัย WMSDs ที่สูงที่สุดในการศึกษาครั้งนี้เป็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อซึ่งในที่สุดปัญหาเหล่านี้ได้รับการวินิจฉัย เป็นกระตุกของกล้ามเนื้อเป็น ปัญหานี้กล้ามเนื้อตรงกับผลการวิจัยอื่น ๆ ในชาวสวนยางพารา (4, 11). ผลการวิจัยของจำนวนของชาวสวนที่มีความถี่ของอาการ WMSD สำหรับ "ทุกวัน" และ "ในระหว่างการทำงาน" ในช่วงที่ผ่านมา 7 วันที่อยู่ในระดับสูงเป็น เป็น 50.3% และ 47% ตามลำดับ (ตารางที่ 4.17 ตารางที่ 4.14) ดังนั้นมันจึงอาจตีความได้ว่าเป็นจำนวนมากของชาวสวนยางพาราเหล่านี้ได้รับความเดือดร้อนจาก WMSDs เป็นผลที่ได้จากการทำงานการดำเนินงานพิทักษ์ยางของพวกเขา อาการเหล่านี้อาจมีผลต่อการทำงานของงานผลของการปลูกต้นไม้เป็นอาการส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาทำงานเช่นปวดปวดลึกความหนาแน่นและความเจ็บปวดอ้าง (ตารางที่ 4.13) แม้ว่าผลการเกี่ยวกับความรุนแรงของอาการในวันที่ชาวสวนถูกสัมภาษณ์และได้รับการตรวจร่างกายได้รับการจัดอันดับส่วนใหญ่เป็น "ปานกลาง" ผลลัพธ์เหล่านี้ควรจะตีความด้วยความระมัดระวังเนื่องจากพวกเขามีช่วงเวลาพักผ่อนยาวในช่วงฤดูฝนจากตุลาคม-ธันวาคม. จาก การศึกษาครั้งนี้ปรากฏว่า WMSDs ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเวลามากในการทำงานเท่าที่เห็นจากจำนวนเล็ก ๆ ของชาวสวนที่มีการลาป่วย (ตารางที่ 4.18) ซึ่งอาจจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ของความเจ็บปวดระหว่างกันของแต่ละบุคคลและปลูกต้นไม้เหล่านี้สามารถเลือกที่จะลดจำนวนชั่วโมงการทำงานแทนการลาป่วย ดังนั้นการตรวจร่างกายใช้ในการศึกษาในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการวิเคราะห์กว่าสถิติการลาป่วย. นอกจากนี้ยังพบว่าการทำงานเป็นสาเหตุหลักของการ WMSDs เมื่อเทียบกับงานเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือกิจกรรมการเล่นกีฬาตั้งแต่ 79.5% ของชาวสวนรายงาน WMSDs ที่เป็นผลมาจากการดำเนินงานพิทักษ์ยาง มันอาจจะเป็นที่ปลูกต้นไม้เหล่านี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ของพวกเขาทำผลงานของพวกเขาที่จะได้รับเงินสำหรับครอบครัวของพวกเขา นอกจากนี้ส่วนใหญ่ในสาเหตุของอาการที่พบจะเกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการแตะที่ (51%) และตามมาโดยการเก็บรวบรวมน้ำยาง (43.7%) นี้อาจจะเป็นเพราะการปลูกต้นไม้เกือบทั้งหมด (179 จาก 198) มีการดำเนินงานที่แตะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานที่พารายาง นอกจากนี้กระบวนการแตะถือว่าเป็นกระบวนการที่บริโภคเวลามากขึ้นกว่ากระบวนการอื่น ๆ (ตารางที่ 4.19 ตารางที่ 4.20). ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ก็ยังคงมีอาการอยู่ในขั้นตอนของ "ความผิดปกติของกล้ามเนื้อเรื้อรัง" (ที่ CMD) (87.7%) สูงสุด จำนวนที่อยู่ในขั้นตอนที่ 1 (54.5%) ของ CMD ซึ่งหมายความว่าอาการปวดได้พบในระหว่างการทำงาน (ตารางที่ 4.14) และผลการดำเนินงานที่ไม่ได้ลดลง. 5.6 ข้อเสนอแนะผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันความชุกสูงผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกของหมู่ชาวสวนยางพารา นอกจากนี้ยังมีความผิดปกติเหล่านี้ถูกพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับบุคคลงานการทำงานและปัจจัยทางจิตสังคม การค้นพบนี้มีความสำคัญที่พวกเขาสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการแก้ปัญหาเพื่อป้องกันไม่ให้ WMSDs ในชาวสวนยางพารา สำหรับ WMSDs เช่นในข้อมือ / มือไม่เพียง แต่ควรออกกำลังกายโปรแกรมจะดำเนินการ แต่ยังให้อุปกรณ์ในการป้องกันหรือลดการบาดเจ็บของโครงสร้างเหล่านั้นเช่นยางที่เหมาะกับมีดแตะ (86) การลดความเมื่อยล้าและการทำงานความเครียดในระหว่างการทำงานได้รับการจัดการโดยการให้แบ่งส่วนที่เหลือไปด้วยกิจกรรมสำหรับการพักผ่อน แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับงานหรือการบาดเจ็บที่มีการปลูกต้นไม้อื่น ๆ สามารถช่วยลดปัญหาสุขภาพของกรีดยาง (89) ดังนั้นคนดูแลสุขภาพเช่นเดียวกับ ergonomists จะต้องรู้ว่าสิ่งที่เป็น WMSDs ที่พบในชาวสวนและสิ่งที่ปัจจัยมีอิทธิพลต่อพวกเขามันเป็นขั้นตอนแรกก่อนที่จะให้การแทรกแซง นอกจากนี้ความชุกของข้อมูล WMSDs เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะสามารถจะสามารถที่จะทำหน้าที่เป็นตัวชี้วัดติดตามและการประเมินผลเมื่อการแทรกแซงที่มีให้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

-
5.4.2 ปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า มีความสัมพันธ์กับ wmsds ในบริเวณหลังส่วนบน ( P = 0.021 ) จากตารางที่ 4.5 , ผู้ชายมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้นของ wmsds ในบริเวณหลังส่วนบนมากกว่าเพศหญิง แม้ว่าผลที่ได้นี้ไม่สอดคล้องกับการศึกษาอื่น ๆ อีกมากมายที่พบ musculoskeletal disorders ) พบมากในผู้หญิง ( 28 , 31 , 32 ) อย่างไรก็ตามงานที่ทำให้ความถี่สูงของโรคบนหลัง ยางพารา ชาวสวนได้ขัดมีดและกรีดยางพารา ต้นไม้ ทั้งสองด้านมักจะแสดงโดยผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

ในการศึกษานี้พบว่ามีความสัมพันธ์กับดัชนีมวลกาย wmsds บริเวณหัวเข่า ( p = 0.035 ) นี่คือหลักฐานโดยสูงกว่าเปอร์เซ็นต์ของ wmsds บริเวณหัวเข่าเมื่อดัชนีมวลของร่างกายเพิ่มขึ้นอาจเป็นเพราะ เข่าจะรับน้ำหนักร่วม ดังนั้น ภาระงานในข้อต่อเหล่านี้จะเพิ่มน้ำหนักตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อรอบ ๆข้อต่อนี้มีความเหนื่อยล้า นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของค่าดัชนีมวลกายเป็นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำหรับข้อเข่าเสื่อม ( 42 ) .

จากผลการศึกษานี้ กิจกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาหรือออกกำลังกายการดูแลเด็กเล็กและการดูแลผู้สูงอายุ ไม่มีความสัมพันธ์กับ wmsds ( ตาราง 4.6 ) แค่ทำงานบ้าน พบว่าเกี่ยวข้องกับ wmsds ในบริเวณข้อศอก ( P = 0.041 ) พวกชาวสวนที่รายงาน " ทำบ้านทำงาน≥ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ " แสดงเปอร์เซ็นต์สูงของ wmsds ในบริเวณข้อศอกมากกว่า " ทำบ้านเวลา < 1 งานต่อสัปดาห์ "ซึ่งอาจเป็นเพราะส่วนใหญ่ของชาวสวนยาง ในการศึกษานี้ ต้องทำงานบ้านเอง หลายของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงต้องทำงานบ้านเป็นเวลา 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง หลังจากจบ กรีดยางพารา ต้นไม้ในตอนเช้าและการใช้จ่ายไม่กี่ชั่วโมงสำหรับงานบ้านทั่วไป หลังจากการทำแผ่นยางพาราในช่วงบ่าย และในตอนท้ายของวัน


5.4.3 ปัจจัยทางจิตสังคมผลของไคสแควร์ พบว่า ครอบครัวยากจน สนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับ wmsds ในบริเวณหลังส่วนบน ( p = 0.005 ) ปัจจัยอื่น ๆ พบว่ามีการเกี่ยวข้องกับข้อมือ / มือ พื้นที่ ( P = 0.0001 ) และบริเวณหลังส่วนบน ( p = 0.007 ) คือการรับรู้แสงที่ไม่ดีในที่ทำงาน ( ตารางที่ 1 )
จากการสัมภาษณ์กับกระถางต้นไม้ หญิงหนึ่งมันเป็นข้อสังเกตว่า ความคิดที่ขัดแย้งกัน ระหว่าง สามี ภรรยา กันไม่ให้เธอปรึกษาสามี ดังนั้น แรงสนับสนุนของครอบครัว จนอาจนำไปสู่ wmsds ( 58 , 59 , 81 , 88 ) ในภาคใต้ของชาวสวนยาง . ตามส่ง theorell และ ,การรวมกันของละติจูดต่ำและความต้องการการตัดสินใจการทำงานทางจิตสูง อาจนำไปสู่ความตึงเครียดสูงจิตซึ่งมีผลต่ออนามัยของบุคคล นอกจากนี้ แรงนี้จะพัฒนาไปในเหตุการณ์ของการสนับสนุนทางสังคมต่ำ ( 60 ) .

นอกจากนี้ ชาวสวนยางต้องทำงานตอนกลางคืนจนถึงเช้า ดังนั้นพวกเขาจะต้องยกศรีษะ ดวงตาของพวกเขาทำงานในแสงสลัวนี้อาจจะมีผลทางอ้อมในการ wmsds โดยการปรับเปลี่ยนความเสี่ยงจากปัจจัยความเสี่ยงทางชีวกลศาสตร์ ( 58 ) ดังนั้น ผู้ที่รายงานข้อมือ / มือ และอาการปวดหลังส่วนบนก็มีแนวโน้มที่จะรายงานการรับรู้เชิงลบของแสงที่ไม่ดีในที่ทำงาน



wmsds 5.5 ลักษณะของอาการwmsds สูงสุดพบในการศึกษาความผิดปกติของกล้ามเนื้อได้ ซึ่งส่วนใหญ่ปัญหาเหล่านี้ได้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นกล้ามเนื้อกระตุก . ปัญหากล้ามเนื้อนี้สอดคล้องกับผลการวิจัยอื่น ชาวสวนยาง ( 4 , 11 )

ผลของจำนวนเกษตรกรที่มีความถี่ของอาการ wmsd " ทุกวัน " และ " ในงาน " ในช่วงที่ผ่านมา 7 วันสูงถึง 503 % และ 47% ตามลำดับ ( ตารางที่ 4.17 โต๊ะ 4.14 ) ดังนั้นมันอาจจะตีความว่าเป็นจำนวนมากของเหล่านี้ชาวสวนยางเดือดร้อนจาก wmsds ผลการดําเนินงานยางพารา . อาการเหล่านี้อาจมีอิทธิพลต่องานงานผลของชาวสวนเป็นส่วนใหญ่อาการมักจะเกิดขึ้นในระหว่างชั่วโมงทำงาน เช่น อาการปวด ลึกๆ ความเจ็บปวดและความเจ็บปวด tightness ชี้แจง ( ตาราง 4.13 )แม้ว่าผลลัพธ์ที่เกี่ยวกับความรุนแรงของอาการในวันที่ชาวสวนได้สัมภาษณ์และได้รับการตรวจร่างกาย ส่วนมากในระดับ " ปานกลาง " ผลลัพธ์เหล่านี้ควรจะตีความด้วยความระมัดระวังเนื่องจากมีระยะเวลาพักยาวในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือน ตุลาคม ถึง ธันวาคม .

จากการศึกษานี้ปรากฎว่า wmsds ไม่มีผลต่อเวลาการทำงานมากของพวกเขาที่เห็นจากจำนวนเล็ก ๆของชาวสวนที่ลาป่วย ( ตาราง 4.18 ) นี้อาจจะเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ของแต่ละบุคคลและความเจ็บปวดระหว่างชาวสวนเหล่านี้อาจเลือกที่จะลดจำนวนชั่วโมงการทำงาน แทนการลาป่วย . ดังนั้นการสอบทางกายภาพที่ใช้ในงานวิจัยนี้ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการวิเคราะห์มากกว่าสถิติการลาป่วยครับ

มันก็พบว่า การทำงานคือสาเหตุหลักของ wmsds เมื่อเทียบกับรองงานหรือกิจกรรมกีฬาตั้งแต่ 79.5 % ของเกษตรกร รายงานว่า มีการ wmsds สาเหตุจากสวนยางพาราอาจเป็นเพราะเกษตรกรเหล่านี้ใช้เวลาส่วนใหญ่ของพวกเขาทำงานของพวกเขาจะได้รับเงินสำหรับครอบครัวของพวกเขา นอกจากนี้ ส่วนใหญ่สาเหตุของอาการที่พบจะเกิดขึ้นในระหว่างการกระบวนการ ( 51% ) และตามด้วยการรวบรวมน้ำยาง ( ร้อยละ 43.7 ) นี้อาจจะเนื่องจากเกษตรกรเกือบทั้งหมด ( จาก 198 ) ต้องทำการแตะงานเป็นส่วนหนึ่งของยางพารา การดำเนินงาน นอกจากนี้แตะกระบวนการถือว่ากระบวนการที่กินเวลากว่ากระบวนการอื่น ๆ ( ตารางที่ 4.19 , โต๊ะ 4.20 )

ส่วนใหญ่ยังคงมีอาการในขั้นเรื้อรัง " เฟลิซิตี ฮัฟฟ์แมน " ( CMD ) ( ร้อยละ 87.7 และ ) มีจำนวนสูงสุดในขั้นที่ 1 ( 54.5 % ) ของ cmd นี่หมายความว่า ความเจ็บปวดถูกพบในระหว่างการทำงาน ( ตารางที่ 4.14 ) และการปฏิบัติงานไม่ลด


56 แนะนำ
ผลการศึกษาในปัจจุบันนี้ พบความชุกของความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและกระดูกสูงในหมู่ชาวสวนยาง . นอกจากนี้ ความผิดปกติเหล่านี้ พบว่ามีความสัมพันธ์กับบุคคล งานงาน และปัจจัยทางจิตสังคม . ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญที่พวกเขาสามารถใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการค้นหาโซลูชันเพื่อป้องกัน wmsds ในชาวสวนยาง .