The typical magnitude of diaphragm

The typical magnitude of diaphragm displacement is 0.1 mm, which is well suited
to a strain-gauge type of displacement-measuring transducer, although other forms of
displacement measurement are also used in some kinds of diaphragm-based sensors. If
the displacement is measured with strain gauges, it is normal to use four strain gauges
arranged in a bridge circuit configuration. The output voltage from the bridge is a
function of the resistance change due to the strain in the diaphragm. This arrangement
automatically provides compensation for environmental temperature changes. Older
pressure transducers of this type used metallic strain gauges bonded to a diaphragm
typically made of stainless steel. However, apart from manufacturing difficulties arising
from the problem of bonding the gauges, metallic strain gauges have a low gauge factor,
which means that the low output from the strain gauge bridge has to be amplified by
an expensive d.c. amplifier. The development of semiconductor (piezoresistive) strain
gauges provided a solution to the low-output problem, as they have gauge factors up

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขนาดปกติของกะบังลมแทนคือ 0.1 มม. ที่เหมาะสมชนิดต้องใช้เครื่องวัดพิกัดวัดปริมาณกระบอกสูบ แม้ว่าในรูปแบบอื่น ๆยังใช้แทนวัดในบางชนิดของเซนเซอร์โดยใช้กะบังลม ถ้าแทนที่จะวัดต้องใช้เกจ จึงเป็นปกติที่ใช้ต้องใช้มาตรวัดที่สี่จัดทีวงจรบริดจ์ อัตราแรงดันออกจากสะพานเป็นการฟังก์ชันการเปลี่ยนแปลงความต้านทานเนื่องจากสายพันธุ์ในกะบังลม การจัดเรียงนี้โดยอัตโนมัติโดยให้ค่าตอบแทนสำหรับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสิ่งแวดล้อม รุ่นเก่าหัววัดความดันชนิดนี้ใช้มาตรวัดต้องใช้โลหะพันธะกับกะบังลมเป็นโดยทั่วไปทำจากสแตนเลส อย่างไรก็ตาม จากปัญหาการผลิตที่เกิดขึ้นจากปัญหาของการยึดติดมาตรวัด มาตรวัดต้องใช้โลหะมีสัดส่วนต่ำสุดที่วัดซึ่งหมายความ ว่า มีผลผลิตต่ำจากสะพานต้องใช้เกจขยายโดยความทนทานดีซีมีราคาแพง การพัฒนาต้องใช้สารกึ่งตัวนำ (piezoresistive)มาตรวัดให้การแก้ไขปัญหาผลผลิตต่ำ ขณะที่พวกเขามีตัววัดค่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขนาดโดยทั่วไปของการเคลื่อนที่ไดอะแฟรมเป็น 0.1 มิลลิเมตรซึ่งเหมาะอย่างยิ่ง
ที่จะเป็นชนิดที่วัดความเครียดของตัวแปลงสัญญาณรางวัดแม้ว่ารูปแบบอื่น ๆ ของ
การวัดการเคลื่อนที่นอกจากนี้ยังใช้ในบางชนิดของเซ็นเซอร์ไดอะแฟรมที่ใช้ หาก
การเคลื่อนที่เป็นวัดที่มีมาตรวัดความเครียดมันเป็นเรื่องปกติที่จะใช้สี่เตรนเกจ
จัดในการกำหนดค่าวงจรสะพาน แรงดันขาออกจากสะพานเป็น
ฟังก์ชั่นของการเปลี่ยนแปลงความต้านทานเนื่องจากความเครียดในไดอะแฟรม ข้อตกลงนี้
โดยอัตโนมัติให้ค่าตอบแทนสำหรับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม เก่ากว่า
ก้อนดันประเภทนี้ใช้มาตรวัดความเครียดโลหะผูกมัดกับไดอะแฟรม
มักทำจากสแตนเลส แต่นอกเหนือจากความยากลำบากในการผลิตที่เกิดขึ้น
จากปัญหาของพันธะเกจวัดความเครียดโลหะมีปัจจัยวัดต่ำ
ซึ่งหมายความว่าการส่งออกในระดับต่ำจากสะพานวัดความเครียดจะต้องมีการขยายโดย
เครื่องขยายเสียง dc ราคาแพง การพัฒนาของเซมิคอนดักเตอร์ (piezoresistive) สายพันธุ์
เกจให้วิธีการแก้ปัญหาที่ต่ำเอาท์พุทที่พวกเขามีปัจจัยวัดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขนาดปกติของการกระจัดไดอะแฟรมเป็น 0.1 มิลลิเมตร ซึ่งเหมาะดี
มีความเครียดมาตรวัดชนิดของตัวแปลงสัญญาณการวัดการกระจัด แม้ว่ารูปแบบอื่น ๆของ
การวัดการเคลื่อนที่จะใช้ในบางชนิดของไดอะแฟรมที่ใช้เซ็นเซอร์ ถ้า
การกระจัดเป็นวัดกับเครื่องวัดความเครียด มันเป็นเรื่องปกติที่จะใช้สี่สายพันธุ์มาตรวัด
จัดเป็นวงจรบริดจ์ การตั้งค่าแรงดันจากสะพานเป็น
ฟังก์ชันของความต้านทานเปลี่ยนจากเมื่อยในไดอะแฟรม การจัดนี้
โดยอัตโนมัติให้ชดเชยอุณหภูมิสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลง เก่า
transducers ความดันชนิดนี้ใช้โลหะความเครียดมาตรวัดผูกมัดกับไดอะแฟรม
ที่ทำมาจากเหล็กสแตนเลส อย่างไรก็ตาม นอกจากปัญหาที่เกิดขึ้น
ผลิตจากปัญหาของระบบการเชื่อม โลหะ วัดมีปัจจัยมาตรวัดความเครียดต่ำ
ซึ่งหมายความว่าวัดความเครียดผลผลิตต่ำจากสะพานต้องขยาย
เครื่องขยายเสียง DC ราคาแพง การพัฒนาสารกึ่งตัวนำ ( Piezoresistive ) เมื่อย
เกจให้แก้ไขปัญหาผลผลิตต่ำ เป็นปัจจัยวัดขึ้น