ถ้ารัฐบาลดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในลักษณะยืดหยุ่นตามสภาพการณ์ (Discretion) มากเกินไป
ลักษณะของนโยบายประชานิยมของรัฐบาลทักษิณเป็นนโยบายที่มีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นต่อนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากคาดการณ์ได้ยากว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร
ตัวอย่างของdiscretion เช่น โครงการเมกะโปรเจกต์ที่มีการปรับเปลี่ยนหลายครั้ง พรรคไทยรักไทยได้ชูนโยบายหาเสียงจะสร้างรถไฟฟ้า 7 สาย แต่เมื่อได้เป็นรัฐบาลนโยบายนี้กลับมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอดทั้งจำนวนเส้นทางและรูปแบบของไฟฟ้าไม่มีความชัดเจนแต่ประการใด ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุนที่หลงเชื่อได้ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าไปแล้วแต่แรก สุดท้ายกลับไม่รู้ว่าจะได้สร้างรถไฟฟ้าได้จริงหรือไม่
ผลกระทบประการต่อมาคือทำให้ไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รัฐบาลมีแนวโน้มที่จะปรับเปลี่ยนนโยบายตามสภาพการณ์มากกว่าจะยึดถือกฎเกณฑ์ที่ประกาศไว้ ตัวอย่างเช่นนโยบายการแก้ไขหนี้ภาคประชาชนแม้รัฐบาลได้ประกาศว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น แต่พฤติกรรมที่ผ่านมารัฐบาลออกนโยบายปรับโครงสร้างหนี้อย่างต่อเนื่อง
การที่รัฐบาลไม่ดำเนินนโยบายแก้ปัญหาหนี้ตามที่ได้ประกาศอย่างเคร่งครัด ทำให้ประชาชนเกิดพฤติกรรมทางเศรษฐกิจที่เป็นอันตรายต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ คือประชาชนจะไม่กลัวการเป็นหนี้และตั้งใจทำให้เกิดหนี้เสียและเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาลดหนี้ให้อีก สุดท้ายสถาบันการเงินของรัฐต้องรับความเสี่ยงสูงจากการรับลูกหนี้ที่มีพฤติกรรมไม่ดีมาเป็นลูกหนี้ของตน