The Harrod-Domar growth model stres

The Harrod-Domar growth model stresses the importance of savings and investment as key determinants of growth

The Harrod Domar Growth model is a growth model and not a growth strategy! A model helps to explain how growth has occurred and how it may occur again in the future. Growth strategies are the things a government might introduce to replicate the outcome suggested by the model.

Basically, the model suggests that the economy's rate of growth depends on:

The level of national saving (S)
The productivity of capital investment (this is known as the capital-output ratio)
The Capital-Output Ratio (COR)

For example, if £100 worth of capital equipment produces each £10 of annual output, a capital-output ratio of 10 to 1 exists. A 3 to 1 capital-output ratio indicates that only £30 of capital is required to produce each £10 of output annually.
If the capital-output ratio is low, an economy can produce a lot of output from a little capital. If the capital-output ratio is high then it needs a lot of capital for production, and it will not get as much value of output for the same amount of capital.
Key point: When the quality capital resources is high, then the capital output ratio will be lower

Basic Harrod-Domar model says:

Rate of growth of GDP = Savings ratio / capital output ratio

Numerical examples:

If the savings rate is 10% and the capital output ratio is 2, then a country would grow at 5% per year.
If the savings rate is 20% and the capital output ratio is 1.5, then a country would grow at 13.3% per year.
If the savings rate is 8% and the capital output ratio is 4, then the country would grow at 2% per year.
Based on the model therefore the rate of growth in an economy can be increased in one of two ways:

Increased level of savings in the economy (i.e. gross national savings as a % of GDP)
Reducing the capital output ratio (i.e. increasing the quality / productivity of capital inputs)
LDCs often have an abundant supply of labour it is a lack of physical capital that holds back economic growth and development. Boosting investment generates economic growth which leads to a higher level of national income. Higher incomes allow more people to save.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบเจริญเติบโตของ Harrod Domar ความเครียดความสำคัญของการออมและการลงทุนเป็นดีเทอร์มิแนนต์ที่สำคัญของการเติบโตแบบ Harrod Domar เติบโตเป็นแบบจำลองการเจริญเติบโตและไม่มีกลยุทธ์การเติบโต แบบจำลองช่วยในการอธิบายการเกิดเติบโตและวิธีอาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต กลยุทธ์การเจริญเติบโตเป็นสิ่งที่รัฐบาลอาจแนะนำในการจำลองผล โดยรุ่นที่แนะนำโดยทั่วไป รูปแบบแนะนำว่า อัตราเจริญเติบโตของเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับ:ระดับชาติประหยัด (S)ประสิทธิภาพของการลงทุน (นี้เรียกว่าอัตราส่วนเงินทุนผลผลิต)การทุนอัตราส่วนผลผลิต (ประกอบ)เช่น ถ้า £100 มูลค่าทุนอุปกรณ์ผลิตละ £10 ของผลผลิตประจำปี อัตราส่วนทุนออกเป็น 10 ต่อ 1 มี อัตราส่วน 3 ต่อ 1 ทุนผลลัพธ์บ่งชี้ว่า เพียง £30 ทุนจำเป็นในการผลิตแต่ละ £10 ผลปีนี้ถ้าอัตราส่วนเงินทุนผลผลิตต่ำ เศรษฐกิจสามารถผลิตจำนวนมากจากทุนน้อย ถ้าอัตราส่วนเงินทุนผลผลิตสูง นั้น ต้องมีทุนสำหรับการผลิต และมันจะไม่ได้รับค่ามากของทุนจำนวนเดียวกันที่สำคัญจุด: เมื่อทรัพยากรทุนคุณภาพสูง แล้วอัตราส่วนส่งออกทุนจะต่ำลงรูป Harrod Domar พูดว่า:อัตราการเจริญเติบโตของ GDP อัตราการประหยัดค่าใช้จ่าย / ทุนขาออกอัตราตัวเลขตัวอย่าง:ถ้าอัตราการออม 10% และอัตราส่วนเงินทุนออกเป็น 2 แล้วประเทศจะเจริญเติบโตที่ 5% ต่อปีถ้าอัตราการออมเป็น 20% และอัตราส่วนเงินทุนออกเป็น 1.5 แล้วประเทศจะเจริญเติบโตที่ 13.3% ต่อปีถ้าราคาประหยัด 8% และอัตราส่วนเงินทุนออกเป็น 4 แล้วประเทศจะเจริญเติบโต 2% ต่อปีตามรูปแบบดังนั้น สามารถเพิ่มอัตราการเติบโตเศรษฐกิจในสองวิธี:ระดับที่เพิ่มขึ้นของการออมในระบบเศรษฐกิจ (เช่นมวลรวมแห่งชาติประหยัดเป็น%ของ GDP)ลดอัตราการออกทุน (เช่นเพิ่มคุณภาพ / ประสิทธิภาพของปัจจัยการผลิตทุน)หลวม ๆ มักจะมีปริมาณมากแรงงาน เป็นการขาดทุนทางกายภาพที่ฉุดเศรษฐกิจและการพัฒนา ส่งเสริมการลงทุนสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งนำไปสู่ระดับสูงขึ้นของรายได้แห่งชาติ รายได้สูงทำให้ผู้คนมาบันทึก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปแบบการเจริญเติบโต Harrod-Domar เน้นความสำคัญของการออมและการลงทุนเป็นปัจจัยหลักของการเจริญเติบโตรูปแบบ Harrod Domar การเจริญเติบโตเป็นรูปแบบการเจริญเติบโตและไม่ได้กลยุทธ์การเจริญเติบโต! รูปแบบที่จะช่วยให้การอธิบายวิธีการเจริญเติบโตที่เกิดขึ้นและวิธีการที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต . กลยุทธ์การเติบโตเป็นสิ่งที่รัฐบาลอาจจะแนะนำให้ทำซ้ำผลที่แนะนำโดยรูปแบบโดยทั่วไปรูปแบบที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเศรษฐกิจของการเจริญเติบโตขึ้นอยู่กับ: ระดับการประหยัดแห่งชาติ (S) ผลผลิตของการลงทุน (ซึ่งเป็นที่รู้จักกัน อัตราส่วนเงินทุนขาออก) อัตราส่วนทุนขาออก (COR) ตัวอย่างเช่นถ้า£ 100 มูลค่าของอุปกรณ์ทุนผลิตแต่ละ£ 10 ของการส่งออกประจำปีอัตราส่วนทุนการส่งออกของ 10-1 อยู่ อัตราส่วน 3 ต่อ 1 ทุนการส่งออกบ่งชี้ว่าเพียง£ 30 ของเงินทุนที่จำเป็นในการผลิตแต่ละ£ 10 ของการส่งออกเป็นประจำทุกปี. ถ้าอัตราส่วนเงินกองทุนส่งออกอยู่ในระดับต่ำเศรษฐกิจสามารถผลิตจำนวนมากของการส่งออกจากทุนน้อย ถ้าอัตราส่วนเงินกองทุนส่งออกที่สูงแล้วมันต้องการมากของเงินทุนสำหรับการผลิตและมันจะไม่ได้รับความคุ้มค่ามากที่สุดเท่าของการส่งออกจำนวนเดียวกันของเงินทุน. จุดสำคัญ: เมื่อแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพสูงแล้วการส่งออกของเงินทุน อัตราส่วนจะลดลงโมเดลพื้นฐาน Harrod-Domar กล่าวว่าอัตราการเติบโตของจีดีพี = เงินฝากออมทรัพย์ / อัตราส่วนเงินทุนอัตราการส่งออกตัวอย่างตัวเลข: ถ้าอัตราเงินฝากออมทรัพย์เป็น 10% และอัตราการส่งออกทุนเป็น 2 แล้วประเทศจะเติบโตที่ 5% ต่อ ปี. หากอัตราเงินฝากออมทรัพย์เป็น 20% และอัตราการส่งออกทุนเป็น 1.5 แล้วประเทศจะเติบโตที่ 13.3% ต่อปี. ถ้าอัตราการออมคือ 8% และอัตราการส่งออกของเงินทุนคือ 4 แล้วประเทศจะเติบโตที่ 2 % ต่อปี. ขึ้นอยู่กับรูปแบบดังนั้นอัตราการเจริญเติบโตในระบบเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นในหนึ่งในสองวิธี: ระดับที่เพิ่มขึ้นของเงินฝากออมทรัพย์ในทางเศรษฐกิจ (เช่นเงินฝากออมทรัพย์มวลรวมประชาชาติ% ของจีดีพี) ลดสัดส่วนการส่งออกของเงินทุน (เช่น เพิ่มคุณภาพ / ผลผลิตของปัจจัยการผลิต Capital) ประเทศพัฒนาน้อยที่สุดมักจะมีอุปทานที่อุดมสมบูรณ์ของการใช้แรงงานก็คือการขาดของทุนทางกายภาพที่ถือกลับเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนา การลงทุนการส่งเสริมการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจซึ่งนำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นของรายได้ประชาชาติ รายได้สูงขึ้นช่วยให้ผู้คนมากขึ้นในการบันทึก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่แฮร์รอดส์เดอมาร์รูปแบบการเจริญเติบโตความสำคัญของการออมและการลงทุนเป็นปัจจัยสําคัญของการเจริญเติบโตที่แฮร์รอดส์เดอมาร์ 2 รูปแบบเป็นรูปแบบการเจริญเติบโตและการเจริญเติบโตกลยุทธ์ ! แบบจำลองช่วยอธิบายวิธีการเกิดขึ้นและว่ามันอาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต กลยุทธ์การเติบโตเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะแนะนำให้ทำซ้ำผลที่แนะนำโดยแบบจำลองโดยทั่วไปรูปแบบแสดงให้เห็นว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับ :ระดับของการออมแห่งชาติ ( s )ผลิตภาพของทุน ( ซึ่งเรียกว่าอัตราส่วนทุนออก )ทุนผลผลิตอัตราส่วน ( สี )ตัวอย่างเช่น ถ้าได้รับ 100 มูลค่าของทุนอุปกรณ์ผลิตแต่ละแห่ง 10 ของผลผลิตประจำปี , ทุนผลผลิตอัตราส่วน 1 ถึง 10 อยู่ 3 ต่อ 1 ทุนต่อผลผลิตพบว่าเพียงง 30 ของเงินทุนจะต้องผลิตแต่ละแห่ง 10 ของผลผลิตต่อปีถ้าอัตราส่วนทุนผลผลิตต่ำ เศรษฐกิจสามารถผลิตล็อตของผลผลิตจากทุนน้อย ถ้าอัตราส่วนทุนผลผลิตสูงแล้วมันต้องการมากของเงินทุนเพื่อการผลิต และจะไม่รับค่ามากของผลผลิตสำหรับจำนวนเดียวกันของทุนสำคัญ : เมื่อคุณภาพทุนทรัพยากรสูง แล้วอัตราส่วนทุนผลผลิตจะต่ำกว่ารูปแบบพื้นฐานแฮร์รอดส์เดอมาร์ กล่าวว่า :อัตราการเติบโตของ GDP = สัดส่วนการออม / ทุนอัตราส่วนผลผลิตตัวอย่างการคำนวณ :ถ้าอัตราเงินออม 10 % และอัตราส่วนทุนออกเป็น 2 แล้วประเทศจะเติบโตที่ 5% ต่อปีถ้าอัตราการออมเป็น 20 % และอัตราส่วนทุนผลผลิตเป็น 1.5 แล้วประเทศจะเติบโตอยู่ที่ 13.3 % ต่อปีถ้าอัตราการออม 8 % และอัตราส่วนทุนออกเป็น 4 แล้วประเทศจะเติบโตที่ร้อยละ 2 ต่อปีตามรูปแบบและอัตราการเจริญเติบโตในเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นในหนึ่งในสองวิธี :เพิ่มระดับการออมในระบบเศรษฐกิจ ( เช่นชาติรวมเงินฝากออมทรัพย์เป็น 35% ของ GDP )ลดทุนค่า ( เช่น การเพิ่มคุณภาพผลผลิต / ผลิตภาพของปัจจัยทุน )ldcs มักมีชุกชุม อุปทานของแรงงานเป็นขาดทุนทางกายภาพที่ฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ส่งเสริมการลงทุนสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งนำไปสู่ระดับที่สูงขึ้นของรายได้ประชาชาติ รายได้สูงกว่าที่ช่วยให้ผู้คนมากขึ้นที่จะบันทึก