AbstractBackground: On 23rd May 201

Abstract
Background: On 23rd May 2014, Lamlukka Hospital was notified by the Bureau of Epidemiology (BOE) that a pertussis
patient was hospitalized in a pediatric ward of a tertiary hospital during 4th-15th May 2014. A joint investigation teams
of Pathumthani Provincial Health Office, BOE and Office of Disease Prevention and Control including the tertiary
hospital conducted an investigation to confirm a diagnosis, to describe the magnitude of outbreak by searching for
new cases and asymptomatic infections, and to control the outbreak from 26th May to 6thJune 2014.
Methods: Descriptive epidemiologic study was done by reviews of treatment records, nasopharyngeal swab for
pertussis PCR and environmental survey. A suspected case was defined as a person who developed prolong cough at
least one week in duration and met one of following symptoms 1) severe cough, 2) high pitch inspiratory whooping
cough or 3) vomiting after cough between May 26th and June 6th, 2014. A laboratory-confirmed cased was identified
by nasopharyngeal swab that revealed positive PCR for pertussis. Asymptomatic infection was a person who didn’t
have any respiratory tract symptom and NP swab revealed positive PCR for B. pertussis.
Results: An index case with lab confirmation was Thai boy aged 1 month and 20 days who lived with parents,
grandparents and an aunt in Kukot Subdistrict, Lamlukka District, Pathumthani Province. Since 20th April 2014, the boy
had developed symptoms of paroxysmal cough, vomiting with no fever for 2 weeks. His mother took him to see
doctor at a private clinic and he was diagnosed with common cold. His clinical got worse and was taken to a tertiary
hospital where he had been admitted following a diagnosis of pneumonia during 4th - 15th May 2014. His illness was
recovered and discharged from hospital and was found normal at the follow up visit on 20th May 2014. His lab result
of nasopharyngeal swab was yield positive Bordetella pertussis by PCR on 23rd May 2014. From interview, the mother
had common cold about 1 week prior to the illness onset of the child and her nasopharyngeal swab was also positive
for B. pertussis. The investigation identified 5 people who were asymptomatic infections including 1/10 physicians,
4/24 n urses a nd n one o f c ontacts o f p ositive h ealthcare w orkers. T he p ositive c ases w ere t reated b y oral
Azithromycin antibiotics.
Conclusion: The outbreak investigation determined 2 lab-confirmed cases (a son and mother) of pertussis in a family.
Additionally, 5 symptomatic infections among attending medical staff who might be infected by the boy were
identified. We educated the guardians about the importance of child immunization and transmission prevention as
well as advised them to take the child to hospital for vaccination as scheduled in the expanded program on
immunization. Surveillance for pertussis and nosocomial infection control was strengthened in the hospital.
Keywords: Pertussis, outbreak, nosocomial infection

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อพื้นหลัง: ในวันที่ 23 2014 พฤษภาคม โรงพยาบาลลำลูกกาถูกแจ้งให้ทราบตามสำนักงานของวิทยาการระบาด (ตั๋วแลกเงินได้) ที่เป็น pertussisผู้ป่วยได้พักในผู้ป่วยเด็กของโรงพยาบาลระดับตติยภูมิในระหว่าง 4 15 2014 พฤษภาคม ทีมสอบสวนร่วมสำนัก งานสุขภาพจังหวัดปทุมธานี ตั๋วแลกเงินได้ และสำนักงาน ป้องกันโรค และควบคุมรวมทั้งการตติยโรงพยาบาลดำเนินการสอบสวนเพื่อยืนยันการวินิจฉัยการ เพื่ออธิบายขนาดของการระบาดของโรค โดยการค้นหากรณีและปัญหาใหม่และแสดงอาการติดเชื้อ และควบคุมการระบาดจาก 26 พฤษภาคมเพื่อ 6thJune 2014วิธีการ: ศึกษาอธิบาย epidemiologic ทำตามรีวิวของรักษา nasopharyngeal swab สำหรับpertussis PCR และสำรวจสิ่งแวดล้อม กรณีสงสัยถูกกำหนดเป็นผู้พัฒนาทำไอที่อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ในระยะเวลาและการพบกับหนึ่งต่อไปนี้อาการ 1) รุนแรงไอ 2) สูง(pitch)ยาว inspiratoryไอหรือ 3) อาเจียนหลังจากไอระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคมและ 6 มิถุนายน 2014 เป็นห้องปฏิบัติการยืนยัน cased ระบุโดย nasopharyngeal swab ที่เปิดเผย PCR เป็นบวกสำหรับ pertussis คนไม่ได้แสดงอาการติดเชื้อมีอาการทางเดินหายใจใด ๆ และ NP swab เปิดเผย PCR เป็นบวกสำหรับ pertussis เกิดผลลัพธ์: กรณีดัชนีการแล็บยืนยันมีเด็กไทยอายุ 1 เดือน 20 วันที่อยู่กับพ่อแม่ปู่ย่าตายายและป้าต.ตำบล อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่ 20 2014 เมษายน เด็กมีพัฒนาอาการของ paroxysmal ไอ อาเจียน มีไข้ไม่สัปดาห์ที่ 2 แม่เอาให้เขาดูแพทย์ที่คลินิกส่วนตัว และเขาถูกวินิจฉัยกับหวัด เขาทางคลินิกได้แย่ และถูกนำไปเป็นตติยโรงพยาบาลที่เขามีการยอมรับต่อการวินิจฉัยโรคในระหว่าง 4 15 2014 พฤษภาคม เจ็บป่วยของเขาได้การกู้คืน และออกจากโรงพยาบาล และพบปกติที่ติดตามเข้าเยี่ยมชมใน 20 2014 พฤษภาคม ผลการปฏิบัติของเขาของ nasopharyngeal swab ได้ผลตอบแทนบวก Bordetella pertussis โดย PCR ในวันที่ 23 2014 พฤษภาคม จากการสัมภาษณ์ แม่มีหวัดประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเริ่มมีอาการเจ็บป่วยของเด็ก และยังเป็นของเธอ nasopharyngeal swab บวกสำหรับ pertussis เกิด การสอบสวนระบุ 5 คนที่ติดเชื้อแสดงอาการรวมถึงแพทย์ 1/10ealthcare urses n เป็น nd n o หนึ่ง f c ontacts o f p ositive h 4/24 w orkers T p ositive c ases w คำ t reated b y ปากเขายา Azithromycinสรุป: การสอบสวนการระบาดของโรคขึ้น 2 ห้องปฏิบัติยืนยันกรณี (ลูกชายและแม่) pertussis ในครอบครัวนอกจากนี้ การติดเชื้ออาการที่ 5 ผู้ที่เข้าร่วมบริการทางการแพทย์ที่เด็กอาจติดเชื้อได้ระบุ เราศึกษาเกี่ยวกับความสำคัญของเด็กรับวัคซีนและเกียร์ป้องกันเป็นผู้ปกครองรวมทั้งควรให้เด็กไปโรงพยาบาลฉีดวัคซีนตามกำหนดเวลาในการโปรแกรมบนรับวัคซีน เฝ้าระวังควบคุมการติดเชื้อ nosocomial และ pertussis ลินช์ในโรงพยาบาลคำสำคัญ: Pertussis ระบาด ติดเชื้อ nosocomial

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อพื้นหลัง: เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2014, โรงพยาบาลลำลูกกาได้รับแจ้งจากสำนักระบาดวิทยา (BOE) ที่ไอกรนผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยเด็กของโรงพยาบาลระดับตติยภูมิในช่วง4 วันที่ 15 พฤษภาคม-2014 ทีมสอบสวนร่วมกันของปทุมธานีสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด, BOE และสำนักงานป้องกันและควบคุมโรคในระดับอุดมศึกษารวมทั้งโรงพยาบาลที่ดำเนินการตรวจสอบเพื่อยืนยันการวินิจฉัยที่จะอธิบายถึงความสำคัญของการระบาดของโรคโดยการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่และการติดเชื้อที่ไม่มีอาการและเพื่อควบคุมการระบาดของโรคจาก26 พฤษภาคมที่จะ 6thJune 2014 วิธีการ: การศึกษาทางระบาดวิทยาเชิงพรรณนาทำโดยความคิดเห็นของระเบียนการรักษาไม้กวาดโพรงหลังจมูกสำหรับไอกรนPCR และการสำรวจด้านสิ่งแวดล้อม กรณีที่สงสัยว่าได้รับการกำหนดให้เป็นบุคคลที่ได้รับการพัฒนายืดไอที่อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ในระยะเวลาและได้พบกับหนึ่งในอาการดังต่อไปนี้ 1) อาการไออย่างรุนแรง 2) เสียงสูงหายใจไอกรนไอหรือ3) อาเจียนหลังไอระหว่างเดือนพฤษภาคม 26 และ 6 มิถุนายน 2014 . ห้องปฏิบัติการได้รับการยืนยันใส่ซองถูกระบุโดยเช็ดล้างโพรงหลังจมูกที่เปิดเผยวิธี PCR ในเชิงบวกสำหรับไอกรน การติดเชื้อที่ไม่มีอาการเป็นคนที่ไม่ได้มีอาการระบบทางเดินใดทางเดินหายใจและไม้กวาด NP เปิดเผย PCR ในเชิงบวกสำหรับไอกรนข. ผลการศึกษา: กรณีดัชนีที่มีการยืนยันห้องปฏิบัติการเป็นเด็กไทยอายุ 1 เดือน 20 วันและที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ปู่ย่าตายายและป้าในคูคตอำเภอลำลูกกาจังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่ 20 เมษายน 2014 เด็กมีการพัฒนาอาการของไอparoxysmal อาเจียนมีไข้ไม่มีเวลา 2 สัปดาห์ แม่ของเขาพาเขาไปดูหมอที่คลินิกเอกชนและเขาได้รับการวินิจฉัยโรคไข้หวัด ทางคลินิกของเขาแย่ลงและถูกนำตัวไปที่ระดับตติยภูมิโรงพยาบาลที่เขาได้รับการยอมรับว่าต่อไปนี้การวินิจฉัยของโรคปอดบวมในช่วง 4 - การวันที่ 15 พฤษภาคม 2014 การเจ็บป่วยของเขาได้รับการกู้คืนและออกจากโรงพยาบาลและได้พบปกติในการติดตามการเยี่ยมชมในวันที่20 พฤษภาคม 2014 ผลห้องปฏิบัติการของเขาในการเช็ดล้างโพรงหลังจมูกเป็นผลผลิตไอกรนBordetella บวกโดยวิธี PCR ในเดือนพฤษภาคมปี 2014 วันที่ 23 จากการสัมภาษณ์แม่มีโรคไข้หวัดประมาณ1 สัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มมีอาการเจ็บป่วยของเด็กและเช็ดล้างโพรงหลังจมูกของเธอก็ยังเป็นบวกสำหรับไอกรนบี การสืบสวนระบุ 5 คนที่ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ 1/10 รวมทั้งแพทย์4/24 n urses ครั้งหนึ่ง n Ofc ontacts OFP Ositive ชั่วโมง ealthcare น้ำหนัก orkers T เขาพี Ositive ค ases น้ำหนักก่อนที reated โดยช่องปากยาปฏิชีวนะAzithromycin. สรุป:. การสอบสวนการระบาดกำหนด 2 กรณีที่ห้องปฏิบัติการได้รับการยืนยัน (ลูกชายและแม่) ของโรคไอกรนในครอบครัวนอกจากนี้5 การติดเชื้อที่มีอาการในกลุ่มเข้าร่วมบุคลากรทางการแพทย์ที่อาจจะ การติดเชื้อโดยเด็กที่ถูกระบุ เรามีการศึกษาผู้ปกครองเกี่ยวกับความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันเด็กและการป้องกันการส่งเป็นทั้งการให้คำแนะนำพวกเขาที่จะใช้เด็กไปโรงพยาบาลสำหรับการฉีดวัคซีนตามที่กำหนดในโครงการขยายการสร้างภูมิคุ้มกันโรค สำหรับการเฝ้าระวังโรคไอกรนและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลก็มีมากขึ้นในโรงพยาบาล. คำสำคัญ: ไอกรนระบาดการติดเชื้อในโรงพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลังนามธรรม
: 23 พฤษภาคม 2014 , โรงพยาบาลลำลูกกา ได้รับแจ้งจาก สำนักระบาดวิทยา ( BOE ) ว่าผู้ป่วยโรคไอกรน
เข้าโรงพยาบาลในหอผู้ป่วยเด็กของโรงพยาบาลระดับตติยภูมิใน 4th-15th พฤษภาคม 2014 เป็นทีมสืบสวนร่วมกัน
ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี , BOE และสำนักงาน การป้องกันและควบคุมโรค รวมถึงระดับอุดมศึกษา
โรงพยาบาลดำเนินการตรวจสอบเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรค อธิบายถึงความสำคัญของการระบาด โดยการค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ และเชื้อโรค
และควบคุมโรคระบาด จากวันที่ 26 พฤษภาคม 6thjune 2014
วิธีการ : การศึกษาทางระบาดวิทยาเชิงพรรณนาโดยใช้ความคิดเห็นของระเบียนการรักษาไม้กวาดลําสําหรับ
PCR ไอกรนและสำรวจสิ่งแวดล้อมกรณีสงสัยว่าถูกกำหนดเป็นคนที่พัฒนารักษาอาการไอที่
อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ในช่วงเวลา และได้พบกับหนึ่งในอาการต่อไปนี้ 1 ) อาการไออย่างรุนแรง , 2 ) โทนเสียงสูงเสียง
3 ) การไอหรืออาเจียนหลังไอ ระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน 6 2014 ห้องปฏิบัติการยืนยันไม่ผ่านถูกระบุโดยเก็บตัวอย่างที่พบ
ลํา PCR บวกสำหรับโรคไอกรนการติดเชื้อหรือเป็นคนที่ไม่ได้มีใด ๆและอาการทางเดินหายใจ
NP swab พบ PCR บวกสำหรับบี ไอกรน .
ผลลัพธ์ : กรณีดัชนีราคาแล็บ เป็นหนุ่มไทยอายุ 1 เดือน 20 วัน ที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และป้าใน
คูคต ตำบล อำเภอ ลำลูกกา ปทุมธานี ตั้งแต่ 20 เมษายน 2014 , เด็กผู้ชาย
ได้พัฒนาอาการของคณะวิศวะ อาเจียน ไม่มีไข้ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ แม่ของเขาพาเขาไปดู
หมอที่คลินิกเอกชนและเขาได้รับการวินิจฉัยกับโรคหวัด คลินิกของเขาแย่ลงและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตติยภูมิ
ที่เขาได้รับการยอมรับต่อไปนี้เป็นปอดบวมในช่วง 4 - 15 พฤษภาคม 2014 เขาป่วย
กู้คืนและออกจากโรงพยาบาลแล้ว และก็พบว่าปกติ ที่ติดตามชม ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2014 ของเขา Lab ผล
ลํา swab ให้ผลผลิตบวกครูบรรณารักษ์โดยวิธี PCR ที่ 23 พฤษภาคม 2014 จากการสัมภาษณ์แม่
มีโรคหวัดประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มมีอาการของโรคเด็กและเช็ดหลังโพรงจมูกของเธอก็บวก
สำหรับบี โรคไอกรนการสอบสวนระบุว่า 5 คนที่ถูกเชื้อโรค รวมทั้ง 1 / 10 แพทย์ ,
4 / 24 n 152 ครั้งที่ n หนึ่ง o F C ontacts F o p ositive H ealthcare W orkers . T เขา p ositive C ases W ก่อน T เกี่ยวกับช่องปาก azithromycin ยาปฏิชีวนะ B Y
.
สรุป : ระบาดสอบสวนพิจารณา 2 แล็บยืนยันกรณีลูกชายและแม่ ) ของโรคไอกรนในครอบครัว .
นอกจากนี้5 อาการการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ ที่อาจจะติดเรียน โดยเด็กถูก
ระบุ เราศึกษาผู้ปกครองนักเรียนเกี่ยวกับความสำคัญของภูมิคุ้มกันโรคเด็กและการป้องกันการส่งผ่านเป็น
รวมทั้งแนะนำเขาไปพาลูกไปโรงพยาบาลเพื่อฉีดวัคซีนตามกำหนดการในการขยายโปรแกรม
ภูมิคุ้มกัน .เฝ้าระวังโรคไอกรน และการควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลได้สถาปนาโรงพยาบาล
คำสำคัญ : ไอกรน ระบาด การป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล