Hazard Vulnerability AnalysisJCAHO

Hazard Vulnerability Analysis
JCAHO requires accredited health care facilities to assess proactively their vulnerabilities in order to improve disaster readiness.
The analysis should be performed annually or amended if there are significant changes that could affect the analysis.
The facility should be using the information gathered from the Hazard Vulnerability Analysis to refine its emergency preparedness plan, based upon logistics specific to the organization.
A full vulnerability analysis requires the skills and knowledge of many different professionals. The clinical engineer can contribute to the assessment in collaboration with, among others, structural engineers, radiation specialists, plumbers,
and electricians.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิเคราะห์ช่องโหว่อันตรายJCAHO ต้องได้รับการรับรองแพทย์เพื่อประเมินจุดอ่อนของพวกเขาในเชิงรุกเพื่อปรับปรุงพร้อมสำหรับภัยพิบัติการวิเคราะห์ควรดำเนินการเป็นประจำทุกปี หรือถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่มีผลต่อการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงสถานที่ควรจะใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากการวิเคราะห์ช่องโหว่อันตรายเพื่อปรับแผนภัยพิบัติ ขึ้นอยู่กับโลจิสติกส์ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับองค์กรการวิเคราะห์ช่องโหว่เต็มต้องใช้ทักษะและความรู้ของผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ มากมาย วิศวกรของทางคลินิกสามารถนำไปสู่การประเมินร่วมกับ อื่น ๆ วิศวกร ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสี ช่าง ประปาและช่างไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อันตรายจากช่องโหว่การวิเคราะห์
JCAHO ต้องใช้สิ่งอำนวยความสะดวกในการดูแลสุขภาพได้รับการรับรองในการประเมินเชิงรุกช่องโหว่ของพวกเขาเพื่อที่จะปรับปรุงความพร้อมภัยพิบัติ.
การวิเคราะห์ควรจะดำเนินการเป็นประจำทุกปีหรือแก้ไขเพิ่มเติมหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการวิเคราะห์.
สถานที่ควรจะใช้ข้อมูลที่รวบรวมจาก การวิเคราะห์อันตรายช่องโหว่ในการปรับแต่งแผนเตรียมความพร้อมฉุกเฉินของมันขึ้นอยู่กับโลจิสติกที่เฉพาะเจาะจงให้กับองค์กร.
การวิเคราะห์ช่องโหว่เต็มต้องใช้ทักษะและความรู้ของผู้เชี่ยวชาญด้านที่แตกต่างกัน วิศวกรทางคลินิกสามารถนำไปสู่การประเมินผลในความร่วมมือกับหมู่คนวิศวกรโครงสร้าง, ผู้เชี่ยวชาญรังสีช่างประปา
และช่างไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิเคราะห์ความเสี่ยงภัยjcaho ต้องได้รับการรับรองเครื่องการดูแลสุขภาพเชิงรุกของพวกเขาเพื่อประเมินจุดอ่อนเพื่อปรับปรุงความพร้อมภัยพิบัติการวิเคราะห์ควรจะดำเนินการเป็นรายปี หรือแก้ไข หากมีการเปลี่ยนแปลงจะมีผลต่อการวิเคราะห์สถานที่ควรใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากภัยความเสี่ยงการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงแผนเตรียมความพร้อมฉุกเฉินตามโลจิสติกส์เฉพาะองค์กรการวิเคราะห์ช่องโหว่เต็มต้องใช้ทักษะและความรู้ของผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ มากมาย วิศวกรคลินิกสามารถมีส่วนร่วมในการประเมินในความร่วมมือกับหมู่คนอื่น ๆ , วิศวกรด้านโครงสร้าง ผู้เชี่ยวชาญรังสี , ช่างประปาและไฟฟ้า .