The latest trick to fighting obesit

The latest trick to fighting obesity isn’t a focus on eating less fat or sugar (although that would probably help): It’s eating more fiber. And not just any kind of fiber. It should be the fermentable type. Microbes in the gut chow down on this type of fiber. As they break it down, they release a chemical that moves to the brain. There it curbs appetite.

Researchers at Imperial College London, in England, say their study is the first to link eating fiber to the brain hormones that help you feel full. They published their findings April 29 in Nature Communications.

Scientists have known that obese people tend to eat foods low in dietary fiber. At some level, that made sense. Fermentable fiber — fiber that is broken down by gut microbes — makes people feel full after eating somewhat less. Such fiber is found in fruits, vegetables, oats and barley.

Hundreds of thousands of years ago, our paleolithic ancestors ate nearly 100 grams of fermentable fiber each day, says Gary Frost. He’s a dietician who led the new study. Today, people’s diets are very different. We eat only 10 to 20 grams of all types of fiber each day. Most comes from whole-grain wheat and bran. Those types do not break down in the gut, Frost notes. Modern diets also are full of convenience foods, such as snacks and frozen dinners. These tend to be high in fat and sugar. Add in our couch-potato lifestyle and it’s a recipe for obesity.

Eating more fermentable fiber reduces the risk of becoming overweight or obese. But until the new study, exactly how the fiber did that was unclear.

In the new study, researchers fed one group of mice a high-fat diet. It also was high in fermentable fiber. Another group received a high-fat diet with non-fermentable fiber. After eight weeks, the first group weighed less. Those mice also had eaten less food than the second group.

Next, the scientists looked at the effect of one particular chemical: acetate. Also known as acetic acid, it is a common by-product of the breakdown of sugars and starches by gut microbes.

To learn how the chemical affects weight, the scientists injected the mice with acetate. But first they labeled the acetate with carbon-11. This radioactive isotope of carbon has only five neutrons, rather than the usual six. The radiation it gave off allowed researchers to track its location. To do that, they put each mouse in a PET-scanner. This device creates a three-dimensional image showing the location of the radioactive “label” on each acetate molecule.

The acetate traveled through the blood and into the mice’s brains. There it collected in a region known as the hypothalamus, which controls appetite. By releasing hormones, that brain region can shut off hunger and promote satiety — a feeling of fullness. As a sign that’s indeed happened, mice injected with acetate ate less food than untreated mice.

Researchers then labeled fermentable fiber with carbon-13. This non-radioactive form of carbon contains an extra neutron. That bonus neutron causes the nucleus of this atom to spin. And that spin allowed investigators to track its movement through the body.

After feeding mice the labeled food, the researchers examined the rodents’ brains. Microbes in the gut had broken the fiber down into acetate. Again, the labeled acetate traveled to the hypothalamus. There it accumulated. This was clear evidence that chemicals released during fiber fermentation — or breakdown — act on the brain to control appetite, says Frost.

It’s a good study showing the benefits of fiber intake, says Satya Kalra. A neuroscientist at the University of Florida in Gainesville, he was not involved in the new study.

Should people start eating pure acetate to reduce food consumption? Absolutely not, says Frost. The best way to control weight is by eating food from natural sources. That means eating more foods with fermentable fiber. “The bugs in the gut will change the fiber into acetate in a way the body has always done,” he says.

So be sure to load up on those fruits and veggies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคนิคล่าสุดเพื่อต่อสู้กับโรคอ้วนไม่เน้นกินไขมันหรือน้ำตาลน้อย (แม้ว่าการที่จะคงช่วย): มันกินไฟเบอร์มากกว่า และไม่ก็ชนิดของเส้นใย มันควรเป็นชนิด fermentable จุลินทรีย์ในครัวไส้ลงบนไฟเบอร์ชนิดนี้ ขณะที่พวกเขาทำลายมันลง พวกเขาปล่อยสารเคมีที่ไปสมอง มีมันบ่ออาหาร

นักวิจัยที่อิมพีเรียลลอนดอนวิทยาลัย ในอังกฤษ กล่าวว่า การศึกษาเป็นครั้งแรกเพื่อเชื่อมโยงใยที่รับประทานฮอร์โมนในสมองที่ช่วยให้คุณรู้สึกเต็ม พวกเขาประกาศค้นพบ 29 เมษายนในลักษณะสื่อสาร

นักวิทยาศาสตร์ได้ทราบว่า คนอ้วนมักกินอาหารต่ำในใยอาหาร ในบางระดับ ที่ทำความรู้สึก ไฟเบอร์ fermentable — ไฟเบอร์ที่ถูกแบ่ง โดยจุลินทรีย์ในลำไส้ซึ่งทำให้คนที่อิ่มแล้วหลังจากรับประทานอาหารค่อนข้างน้อย เส้นใยดังกล่าวจะพบในผลไม้ ผัก ข้าวโอ๊ต และข้าวบาร์เลย์

นับหมื่นปี บรรพบุรุษของเรา paleolithic กินไฟเบอร์ fermentable เกือบ 100 กรัมแต่ละวัน ว่า Gary น้ำแข็ง เขาเป็น dietician ผู้นำการศึกษาใหม่ วันนี้ หาได้แตกต่างกันมาก เรากินไฟเบอร์ทุกชนิดเพียง 10-20 กรัมวันละ ส่วนใหญ่มาจากข้าวสาลีทั้งเมล็ดและรำ ชนิดที่ไม่ทำลายลงในไส้ หมายเหตุน้ำแข็ง อาหารสมัยใหม่ยังได้เต็มผ่อนอาหาร อาหารว่างและอาหารเย็นแช่แข็ง เหล่านี้มักจะมีไขมันและน้ำตาลสูง ในชีวิตของเรานอนมันฝรั่ง และเป็นสูตรสำหรับโรคอ้วน

กินไฟเบอร์มากกว่า fermentable ลดความเสี่ยงของภาวะ หรืออ้วน แต่จนกระทั่งการศึกษาใหม่ ตรงว่าเส้นใยได้ที่ชัดเจน

ในการศึกษาใหม่ นักวิจัยเลี้ยงหนูกลุ่มหนึ่งอาหารที่ไขมันสูง นอกจากนี้ยังได้สูงไฟเบอร์ fermentable กลุ่มอื่นที่ได้รับอาหารไขมันสูง มีไฟเบอร์ไม่ใช่ fermentable หลังจาก 8 สัปดาห์ กลุ่มแรกน้ำหนักน้อย หนูเหล่านั้นยังได้กินอาหารน้อยลงกว่าสองกลุ่ม

, นักวิทยาศาสตร์ที่มองผลกระทบของสารเคมีเฉพาะที่หนึ่ง: acetate เรียกอีก อย่างว่ากรดน้ำส้ม เป็นสินค้าพลอยทั่วไปของของน้ำตาลและสมบัติ โดยไส้จุลินทรีย์

เรียนรู้ว่าสารเคมีมีผลต่อน้ำหนัก นักวิทยาศาสตร์การฉีดหนูกับ acetate แต่ก่อน จะติดป้าย acetate ด้วยคาร์บอน-11 ไอโซโทปกัมมันตรังสีนี้ของคาร์บอนได้เพียงห้า neutrons มากกว่าปกติ 6 นักวิจัยเพื่อติดตามตำแหน่งของรังสีที่ให้ออกได้ การทำ พวกเขาวางเมาส์แต่ละใน PET-สแกนเนอร์ อุปกรณ์นี้สร้างภาพสามมิติที่แสดงที่ตั้งของกัมมันตรังสี "ป้ายชื่อ" บนแต่ละ acetate โมเลกุล

acetate เดินทางผ่าน ทางเลือด และ ในสมองของหนู มีรวบรวมไว้ในบริเวณที่เรียกว่า hypothalamus ที่ควบคุมความอยากอาหาร โดยการปล่อยฮอร์โมน ภูมิภาคที่สมองสามารถปิดความหิว และสามารถส่งเสริม – ความรู้สึกของความแน่นได้ เป็นเครื่องหมายที่เกิดขึ้นจริง ฉีดกับ acetate หนูกินอาหารน้อยกว่าหนูไม่ถูกรักษา

นักวิจัยแล้วป้ายไฟเบอร์ fermentable กับคาร์บอน-13 แบบฟอร์มนี้ไม่ใช่สัมผัสกัมมันตภาพรังสีของคาร์บอนประกอบด้วยนิวตรอนเป็นพิเศษ ที่โบนัสนิวตรอนทำให้นิวเคลียสของอะตอมนี้จะหมุน และที่หมุนใช้ได้สืบสวนเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวทางร่างกาย

หลังจากให้อาหารหนูอาหารป้าย นักวิจัยสมองของงานที่ตรวจสอบ จุลินทรีย์ในลำไส้มีขาดเส้นใยที่ลงเป็น acetate อีกครั้ง acetate ป้ายเดินทางไป hypothalamus มีมันสะสม นี้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า สารเคมีออกในระหว่างการหมักใย — หรือเสีย — กระทำในสมองเพื่อควบคุมความอยากอาหาร ว่า น้ำแข็ง

จึงแสดงประโยชน์ของการบริโภคเส้นใย การศึกษาดีกล่าวว่า สัตยา Kalra Neuroscientist ที่มหาวิทยาลัยฟลอริดาในเกนส์วิลล์ เขาไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษาใหม่

ควรคนที่เริ่มกิน acetate บริสุทธิ์เพื่อลดการบริโภคอาหารได้อย่างไร กล่าวว่า น้ำแข็งไม่ใช่แน่นอน วิธีที่ดีสุดในการควบคุมน้ำหนัก ด้วยการกินอาหารจากแหล่งน้ำธรรมชาติได้ นั่นหมายความว่า กินอาหารมากขึ้น ด้วยใย fermentable "บักในลำไส้จะเปลี่ยนไฟเบอร์ที่เป็น acetate ในทางร่างกายจะทำ เขากล่าวว่า

ดังนั้น ให้แน่ใจว่าได้โหลดขึ้นในผักและผลไม้เหล่านั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เคล็ดลับใหม่ล่าสุดในการต่อสู้กับโรคอ้วนไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การรับประทานอาหารน้อยไขมันหรือน้ำตาล (แต่ที่อาจจะช่วยให้): มันกินใยอาหารมากขึ้น และไม่เพียง แต่ชนิดของเส้นใยใด ๆ มันควรจะเป็นชนิดย่อย จุลินทรีย์ในลำไส้ Chow ลงกับชนิดของเส้นใยนี้ ขณะที่พวกเขาทำลายมันลงพวกเขาปล่อยสารเคมีที่จะย้ายไปยังสมอง มีมัน curbs ความอยากอาหารนักวิจัยที่อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนในประเทศอังกฤษกล่าวว่าการศึกษาของพวกเขาเป็นครั้งแรกที่จะเชื่อมโยงการรับประทานอาหารที่มีเส้นใยกับฮอร์โมนในสมองที่ช่วยให้คุณรู้สึกอิ่ม พวกเขาตีพิมพ์ผลการวิจัยของพวกเขา 29 เมษายนในการติดต่อสื่อสารแบบธรรมชาตินักวิทยาศาสตร์ได้รู้กันว่าคนอ้วนมีแนวโน้มที่จะกินอาหารต่ำในเส้นใยอาหาร ในระดับบางอย่างที่ทำให้ความรู้สึก ที่ย่อยเส้นใย - เส้นใยที่ถูกทำลายลงโดยจุลินทรีย์ในลำไส้ - ทำให้คนรู้สึกเต็มรูปแบบหลังจากที่กินค่อนข้างน้อย เส้นใยดังกล่าวจะพบในผลไม้, ผัก, ข้าวโอ๊ตและข้าวบาร์เลย์นับร้อยนับพันของปีที่ผ่านมาบรรพบุรุษของเรายุคกินเกือบ 100 กรัมของเส้นใยที่ย่อยในแต่ละวันแกรี่ฟรอสต์กล่าวว่า เขาเป็นนักโภชนาการที่นำการศึกษาใหม่ วันนี้อาหารของผู้คนมีความแตกต่างกันมาก เรากินเพียง 10 ถึง 20 กรัมของทุกประเภทของเส้นใยในแต่ละวัน ส่วนใหญ่มาจากข้าวสาลีธัญพืชไม่ขัดสีและรำ ประเภทที่ไม่ได้ทำลายลงในลำไส้บันทึกฟรอสต์ อาหารที่ทันสมัยนอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยอาหารที่สะดวกเช่นขนมและอาหารเย็นแช่แข็ง เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะสูงในไขมันและน้ำตาล เพิ่มในการดำเนินชีวิตที่นอนมันฝรั่งของเราและมันเป็นสูตรสำหรับโรคอ้วนการรับประทานอาหารที่มีเส้นใยที่ย่อยมากขึ้นช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน แต่จนถึงการศึกษาใหม่ว่าวิธีการที่เส้นใยได้ที่ไม่มีความชัดเจนในการศึกษาใหม่นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้รับอาหารของหนูเป็นอาหารที่มีไขมันสูง นอกจากนี้ยังเป็นที่สูงในเส้นใยที่ย่อย อีกกลุ่มหนึ่งได้รับอาหารไขมันสูงที่มีเส้นใยที่ไม่ย่อย หลังจากแปดสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มแรกน้ำหนักน้อย หนูเหล่านั้นยังได้กินอาหารน้อยกว่ากลุ่มที่สองถัดไปนักวิทยาศาสตร์มองที่ผลกระทบของสารเคมีโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่: อะซิเตท หรือที่เรียกว่ากรดอะซิติกมันเป็นเรื่องธรรมดาผลพลอยได้จากการสลายของน้ำตาลและแป้งโดยจุลินทรีย์ในลำไส้ต้องการเรียนรู้วิธีเคมีที่มีผลต่อน้ำหนักนักวิทยาศาสตร์ฉีดหนูกับอะซิเตท แต่ก่อนที่พวกเขาระบุว่าอะซิเตทกับคาร์บอน-11 ไอโซโทปกัมมันตรังสีนี้ของคาร์บอนมีเพียงห้านิวตรอนมากกว่าปกติหก รังสีจะให้ออกได้รับอนุญาตให้นักวิจัยในการติดตามสถานที่ตั้งของ ต้องการทำเช่นนั้นพวกเขาวางเมาส์ในแต่ละ PET-สแกนเนอร์ อุปกรณ์นี้จะสร้างภาพสามมิติแสดงที่ตั้งของ "ฉลาก" กัมมันตรังสีในแต่ละโมเลกุลอะซิเตทอะซิเตทเดินทางผ่านเลือดและเข้าไปในสมองของหนู มีมันที่เก็บรวบรวมในภูมิภาคที่รู้จักกันในมลรัฐซึ่งควบคุมความอยากอาหาร โดยการปล่อยฮอร์โมนสมองที่สามารถปิดความหิวและส่งเสริมความเต็มอิ่ม - ความรู้สึกของความอิ่ม เป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นจริงหนูฉีดด้วยอะซิเตทกินอาหารน้อยกว่าหนูที่ไม่ผ่านการบำบัดแล้วนักวิจัยระบุว่าเส้นใยที่ย่อยกับคาร์บอน-13 นี้ไม่ใช่รูปแบบของคาร์บอนกัมมันตรังสีมีนิวตรอนพิเศษ นิวตรอนโบนัสที่ทำให้นิวเคลียสของอะตอมนี้เพื่อหมุน และสปินที่ได้รับอนุญาตในการสืบสวนเพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของมันผ่านร่างกายหลังจากการให้อาหารหนูอาหารติดป้ายนักวิจัยตรวจสอบสมองของหนู ' จุลินทรีย์ในลำไส้แตกใยลงไปในน้ำนม อีกครั้งอะซิเตทระบุว่าเดินทางไปยังมลรัฐ นั้นมันสะสม นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าสารเคมีที่ปล่อยออกมาในระหว่างการหมักเส้นใย - หรือเสีย - การกระทำในสมองที่จะควบคุมความอยากอาหารกล่าวว่าฟรอสต์มันเป็นผลการศึกษาที่ดีแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการบริโภคใยอาหาร, สัตยา Kalra กล่าวว่า ประสาทวิทยาที่มหาวิทยาลัยฟลอริดาในเกนส์เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษาใหม่คนควรเริ่มต้นการกินน้ำนมบริสุทธิ์เพื่อลดการบริโภคอาหาร? ไม่อย่างแน่นอน, ฟรอสต์กล่าวว่า วิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมน้ำหนักโดยการกินอาหารจากแหล่งน้ำธรรมชาติ นั่นหมายถึงการกินอาหารที่มีเส้นใยมากขึ้นย่อย "ข้อผิดพลาดในลำไส้จะเปลี่ยนเป็นเส้นใยอะซิเตทในทางร่างกายได้ทำเสมอ" เขากล่าวว่าเพื่อให้แน่ใจว่าจะโหลดขึ้นบนผลไม้เหล่านั้นและผัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เคล็ดลับในการต่อสู้โรคอ้วนล่าสุดก็ไม่ได้เน้นกินน้อยกว่าไขมันหรือน้ำตาล ( แม้ว่ามันอาจจะช่วย ) : มันกินไฟเบอร์มากขึ้น และไม่เพียง แต่ชนิดของเส้นใย มันควรจะเป็นประเภท กรัม . จุลินทรีย์ในลำไส้ Chow ลงบนเส้นใยชนิดนี้ พวกเขาทำลายมันลง พวกเขาปล่อยสารเคมีที่ย้ายไปยังสมอง นั่นมัน curbs ความหิว .

นักวิจัยที่อิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนในอังกฤษ กล่าวว่า การศึกษาของพวกเขาเป็นครั้งแรกเพื่อเชื่อมโยงการรับประทานอาหารเส้นใยสมอง ฮอร์โมนที่ ช่วยให้คุณรู้สึกอิ่ม พวกเขาตีพิมพ์ผลการค้นพบ 29 เมษายนในการสื่อสารธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์

ได้ทราบว่า คนอ้วนมักจะกินอาหารที่มีเส้นใยอาหาร ในบางระดับที่สมเหตุสมผลกรัม ไฟเบอร์ - ไฟเบอร์ที่เสีย ด้วยจุลินทรีย์ - ไส้ ทำให้ประชาชนรู้สึกเต็มหลังจากกินค่อนข้างน้อย เช่นเส้นใยที่พบในผลไม้ , ผัก , ข้าวโอ๊ตและข้าวบาร์เลย์

หลายร้อยหลายพันปีมาแล้ว บรรพบุรุษของเรากินพริกชี้ฟ้าเกือบ 100 กรัมของเส้นใยแต่ละวัน กรัม กล่าวว่า แกรี่ ฟรอสต์ เขาเป็นนักโภชนาการที่นำการศึกษาใหม่ วันนี้อาหารของผู้คนจะแตกต่างกันมากเรากินแค่ 10 - 20 กรัม ทุกประเภทของเส้นใยต่อวัน ส่วนใหญ่มาจากข้าวสาลีทั้งเมล็ด และรำข้าว ชนิดที่ไม่ทำลายในกระเพาะอาหาร หมายเหตุ ฟรอสต์ อาหารที่ทันสมัยนอกจากนี้ยังเป็นเต็มรูปแบบของอาหารความสะดวกสบายเช่นอาหารว่างและอาหารเย็นแช่แข็ง เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะสูงในไขมันและน้ำตาล เพิ่มในที่นอนมันฝรั่งวิถีชีวิตและเป็นสูตรอาหารสำหรับโรคอ้วน .

กินกรัมมากกว่าไฟเบอร์ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นน้ำหนักเกินหรืออ้วน แต่การศึกษาใหม่ ว่าไฟเบอร์ทำที่ชัดเจน

ในการศึกษาใหม่โดยนักวิจัยที่ได้รับหนึ่งในกลุ่มของหนูมีไขมันสูงอาหาร มันก็สูงในกรัมใย อีกกลุ่มที่ได้รับอาหารที่มีไขมันสูง ไม่หมักเส้นใย หลังจากแปดสัปดาห์ กลุ่มแรกมีน้ำหนักน้อยกว่าหนูเหล่านั้นยังกินอาหารน้อยกว่ากลุ่มที่สอง

ต่อไป นักวิทยาศาสตร์มองที่ผลของหนึ่งโดยเฉพาะเคมี : อะซิเทต หรือที่เรียกว่ากรดมันเป็นผลพลอยได้ โดยรายละเอียดของน้ำตาลและแป้ง โดยจุลินทรีย์ดี

เพื่อเรียนรู้วิธีเคมีที่มีผลต่อน้ำหนัก นักวิทยาศาสตร์ฉีดหนูด้วยอะซิเทต แต่ตอนแรกพวกเขาติดป้ายอะซิเตทกับ carbon-11 .ไอโซโทปกัมมันตรังสีของคาร์บอนนี้มีเพียงห้านิวตรอนมากกว่าปกติ 6 รังสีมันให้ปิด อนุญาตให้นักวิจัยติดตามสถานที่ของ ต้องทำที่พวกเขาวางเมาส์แต่ละในสัตว์เลี้ยงสแกนเนอร์ อุปกรณ์นี้จะสร้างเป็นภาพสามมิติแสดงที่ตั้งของสารกัมมันตรังสี " ฉลาก " ในแต่ละโมเลกุลอะซิเตท acetate .

เดินทางผ่านเข้าไปในหนู เลือดและสมองมันเก็บในเขตที่เรียกว่า hypothalamus ซึ่งการควบคุมความอยากอาหาร โดยการปล่อยฮอร์โมนที่สมองจะปิดภาค ความหิวและส่งเสริมความเต็มอิ่ม - อิ่มเอิบ เป็นสัญญาณที่แน่นอน หนูฉีดด้วยอะซิเตท กินอาหารน้อยกว่าหนูที่ไม่ได้คุณภาพ นักวิจัยระบุว่าหมัก

แล้วเส้นใย carbon-13 .อันนี้รูปกัมมันตรังสีของคาร์บอนมีนิวตรอนเพิ่ม โบนัสที่ให้นิวตรอน นิวเคลียสของอะตอมนี้จะหมุน และปั่นให้สืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวผ่านร่างกาย

หลังจากเลี้ยงหนู ชื่ออาหาร นักวิจัยได้ตรวจหนู ' สมอง จุลินทรีย์ในลำไส้ได้แตกลงในเส้นใยอะซิเทต อีกครั้งการติดป้าย อะซิเตท เดินทางไปยัง hypothalamus . มันสะสม นี้คือหลักฐานที่ชัดเจนว่า สารเคมีที่ปล่อยออกมาในช่วงการหมักเส้นใย - หรือแบ่ง - ทำสมองเพื่อควบคุมความอยากอาหาร ว่า Frost

ก็ดีการศึกษาแสดงประโยชน์ของการบริโภคใย ฯ กล่าวว่า kalra . เป็นนักประสาทวิทยาที่มหาวิทยาลัยฟลอริดาใน เกนส์วิลล์ เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษาใหม่ . .

ที่คนควรจะเริ่มกินเพียว , ลดการบริโภคอาหาร ไม่ ว่า น้ำค้างแข็ง วิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมน้ำหนักคือการกินอาหารจากแหล่งธรรมชาติ นั่นหมายถึงการรับประทานอาหารกับกรัมใย " แมลงในลำไส้จะเปลี่ยนเส้นใยเป็นอะซิเตทในทางร่างกายได้ทำเสมอ " เขากล่าว .

เพื่อให้แน่ใจว่าโหลดขึ้นบนผลไม้และผัก