AbstractBackground Low serum levels

Abstract
Background Low serum levels of 25-hydroxyvitamin D3 are associated with an increased risk of respiratory tract infections (RTIs). Clinical trials with vitamin D3 against various infections have been carried out but data are so far not conclusive. Thus, there is a need for additional randomised controlled trials of effects of vitamin D3 on infections.

Objective To investigate if supplementation with vitamin D3 could reduce infectious symptoms and antibiotic consumption among patients with antibody deficiency or frequent RTIs.

Design A double-blind randomised controlled trial.

Setting Karolinska University Hospital, Huddinge.

Participants 140 patients with antibody deficiency (selective IgA subclass deficiency, IgG subclass deficiency, common variable immune disorder) and patients with increased susceptibility to RTIs (>4 bacterial RTIs/year) but without immunological diagnosis.

Intervention Vitamin D3 (4000 IU) or placebo was given daily for 1 year.

Primary and secondary outcome measures The primary endpoint was an infectious score based on five parameters: symptoms from respiratory tract, ears and sinuses, malaise and antibiotic consumption. Secondary endpoints were serum levels of 25-hydroxyvitamin D3, microbiological findings and levels of antimicrobial peptides (LL-37, HNP1–3) in nasal fluid.

Results The overall infectious score was significantly reduced for patients allocated to the vitamin D group (202 points) compared with the placebo group (249 points; adjusted relative score 0.771, 95% CI 0.604 to 0.985, p=0.04).

Limitations A single study centre, small sample size and a selected group of patients. The sample size calculation was performed using p=0.02 as the significance level whereas the primary and secondary endpoints were analysed using the conventional p=0.05 as the significance level.

Conclusions Supplementation with vitamin D3 may reduce disease burden in patients with frequent RTIs.

Article summary

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อระดับซีรั่มต่ำพื้นหลังของ 25 hydroxyvitamin D3 จะสัมพันธ์กับความเสี่ยงของการติดเชื้อทางเดินหายใจ (RTIs) มีการดำเนินการทดลองทางคลินิกกับวิตามิน D3 กับติดเชื้อต่าง ๆ แต่ข้อมูลไม่มากถือเป็นข้อสรุป ดังนั้น มีความจำเป็นสำหรับผลของวิตามินดี 3 ติดเชื้อสุ่มทดลองสำหรับการควบคุมเพิ่มเติมวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบถ้าเสริม ด้วยวิตามินดี 3 อาจลดอาการติดเชื้อและการใช้ยาปฏิชีวนะผู้ป่วยขาดแอนติบอดีหรือ RTIs บ่อยออกแบบ A ตาบแบบสุ่มทดลองการตั้งค่า Karolinska โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย Huddingeผู้ป่วยร่วม 140 ขาดแอนติบอดี (เลือกขาดย่อย IgA, IgG ย่อยขาด ทั่วไปตัวแปรของภูมิคุ้มกันโรค) และผู้ป่วยที่ มีการเพิ่มความไวต่อการ RTIs (> แบคทีเรีย 4 ปี RTIs) แต่ไม่ มีภูมิคุ้มกันวินิจฉัยแทรกแซงวิตามิน D3 (4000 IU) หรือยาหลอกได้รับทุกวัน 1 ปีมาตรการหลัก และรองผลปลายทางหลักคือ คะแนนการติดเชื้อตามพารามิเตอร์ที่ห้า: อาการจากระบบทางเดินหายใจ หู และรูจมูก อาการ และการใช้ยาปฏิชีวนะ ปลายทางที่รองรับซีรั่มระดับ 25 hydroxyvitamin D3 ค้นพบจุลินทรีย์ และระดับของเปปไทด์ต้านจุลชีพ (LL-37, HNP1-3) ในน้ำมันจมูกผลคะแนนติดเชื้อโดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่การปันส่วนกลุ่มวิตามิน D (202 คะแนน) เปรียบเทียบกับกลุ่มยาหลอก (249 คะแนน ปรับสัมพัทธ์คะแนน 0.771, 95% CI 0.604 0.985, p = 0.04)ศูนย์การศึกษาเดียวข้อจำกัด A ขนาดตัวอย่างขนาดเล็ก และกลุ่มที่เลือกของผู้ป่วย ทำการคำนวณขนาดตัวอย่างโดยใช้ p = 0.02 เป็นระดับนัยสำคัญในขณะที่ปลายทางหลัก และรองถูกวิเคราะห์โดยใช้ p ธรรมดาเป็นระดับนัยสำคัญ 0.05สรุปเสริม ด้วยวิตามินดี 3 อาจลดภาระโรคในผู้ป่วยบ่อย RTIsสรุปบทความ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
พื้นหลังระดับซีรั่มต่ำ 25 hydroxyvitamin D3 มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ (RTIs) การทดลองทางคลินิกที่มีวิตามิน D3 จากการติดเชื้อต่างๆได้รับการดำเนินการ แต่ข้อมูลเพื่อให้ห่างไกลไม่ได้ข้อสรุป ดังนั้นจึงมีความจำเป็นสำหรับการเพิ่มเติมการทดลองควบคุมแบบสุ่มของผลกระทบของวิตามิน D3 ในการติดเชื้อ

วัตถุประสงค์ในการตรวจสอบถ้าเสริมด้วยวิตามิน D3 สามารถลดอาการติดเชื้อและการบริโภคยาปฏิชีวนะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีการขาดหรือแอนติบอดี RTIs บ่อย

การออกแบบแบบ double-blind ทดลองควบคุมแบบสุ่ม

การตั้งค่า Karolinska มหาวิทยาลัยโรงพยาบาล Huddinge

ผู้เข้าร่วม 140 ผู้ป่วยที่มีการขาดแอนติบอดี (subclass ขาด IgA เลือกขาด subclass IgG ทั่วไปความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันตัวแปร) และผู้ป่วยที่มีความไวต่อการเพิ่มขึ้น RTIs (> 4 แบคทีเรีย RTIs / ปี) แต่ไม่มีการวินิจฉัยทางภูมิคุ้มกัน

การแทรกแซงของวิตามิน D3 (4000 IU) หรือยาหลอกได้รับทุกวันเป็นเวลา 1 ปี

ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาวัดผลปลายทางหลักคือคะแนนการติดเชื้อขึ้นอยู่กับห้าพารามิเตอร์: อาการระบบทางเดินหายใจหูและรูจมูกวิงเวียนและการบริโภคยาปฏิชีวนะ ทุติยภูมิเป็นระดับซีรั่ม 25-hydroxyvitamin D3, ผลการวิจัยทางจุลชีววิทยาและระดับของเปปไทด์ต้านจุลชีพ (LL-37, HNP1-3) ของเหลวในจมูก

ผลคะแนนการติดเชื้อโดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการจัดสรรให้กับกลุ่มวิตามินดี (202 คะแนน) เมื่อเทียบกับกลุ่มยาหลอก (249 คะแนน; ปรับญาติคะแนน 0.771, 95% CI 0.604-0.985, P = 0.04)

ข้อ จำกัด ศูนย์การศึกษาเดียวขนาดของกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กและกลุ่มที่เลือกของผู้ป่วย การคำนวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างได้รับการดำเนินการโดยใช้ p = 0.02 ระดับอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่อุปกรณ์ปลายทางประถมศึกษาและมัธยมศึกษาได้รับการวิเคราะห์โดยใช้ P ธรรมดา = 0.05 ระดับอย่างมีนัยสำคัญ

สรุปผลการทานอาหารเสริมด้วยวิตามิน D3 อาจลดภาระโรคในผู้ป่วยที่พบบ่อย RTIs

สรุปบทความ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อเซรั่มระดับพื้นต่ำ 25 D3 hydroxyvitamin เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อทางเดินหายใจ ( rtis ) การทดลองทางคลินิกกับวิตามิน D3 กับเชื้อต่าง ๆได้ดําเนินการแต่ข้อมูลอยู่ห่างไกลไม่ได้ข้อสรุป ดังนั้น ต้องมีรายงานเพิ่มเติมควบคุมการทดลองผลของวิตามิน D3 ในเชื้อวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาว่า การเสริมด้วยวิตามิน D3 สามารถลดอาการติดเชื้อและการใช้ยาปฏิชีวนะในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ rtis บ่อยการออกแบบการทดลองแบบสุ่มทดลองการตั้งค่าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย Karolinska Huddinge .ผู้ที่ป่วยเป็นโรคขาดภูมิคุ้มกัน 140 ( เลือก subclass ะขาดการ subclass IgG พบตัวแปรภูมิคุ้มกันโรค ) และผู้ป่วยที่มีความไวต่อ rtis ( 4 ) แบคทีเรีย rtis / ปี ) แต่ไม่มีการวินิจฉัยทางภูมิคุ้มกันวิทยาการแทรกแซงของวิตามิน D3 ( 4000   IU ) หรือยาหลอก ให้ทุกวันที่ 1  ปีประถมศึกษาและมัธยมศึกษาผลวัดข้อมูลที่เป็นการติดเชื้อคะแนนจากห้าพารามิเตอร์ : อาการจากระบบทางเดินหายใจ หูและ sinuses , วิงเวียนและการใช้ยาปฏิชีวนะ ข้อมูลทุติยภูมิได้ระดับซีรั่ม 25 hydroxyvitamin D3 , ผลทางจุลชีววิทยา และระดับของยาเป็ปไทด์ ( ll-37 hnp1 ( , 3 ) ในช่องจมูกของของไหลผลคะแนนโดยรวมลดลง สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ จัดสรรให้วิตามิน D GROUP ( 202 คะแนน ) เมื่อเทียบกับกลุ่มยาหลอก ( 249 จุด การปรับเทียบคะแนน 0.771 , 95% CI 0.604 ไปจาก , p = 0.04 )จำกัดศูนย์การศึกษาเดียว ขนาดตัวอย่างขนาดเล็กและกลุ่มที่เลือกของผู้ป่วย ตัวอย่างการคำนวณการใช้ P = 0.02 เป็นระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในขณะที่ข้อมูลสถิติที่ใช้คือ แบบ P = 0.05 เป็นระดับความสำคัญสรุป การเสริมด้วยวิตามิน D3 อาจลดภาระโรคในผู้ป่วย rtis บ่อยบทความสรุป