Organizations and Social Networking

Organizations and Social Networking
The participants expressed themselves against banning of social networking in organizations, either companies or education institutions, is nonsense. It can be like banning Internet use or phone or breaks. It can say something about the health of an organization. It would be nonsensical if an organization is using social networks but their workers don’t have access to them, as stated by Kaplan and Haenlein (2010) (see section 2.3.2.11). Social networking must not be misused or abused, especially at work or at school. The individuals must know the risks of misuse and enforce self control for not abusing the use of social networks. Institutions must not ban the activity but they must have made explicit a policy of use, calling the workers to use it with measure, but it would be a stupid thing to do to ban them completely as they are becoming so important. Some parallelisms between the participants’ opinions and the results of the surveys in section 2.2.2 [Cone LLC (2008), EHS Today (2009) and Wentworth (2009)] are found: the participants think that social networks are good for companies and they should use them for marketing of products and communication with their customers; also they acknowledge the need of policies to regulate social networks use; and the impression that some companies might be afraid of their employees using social networks. This fear is clearly stated by Deloitte Development (2009) (see section 2.3.2.11): social networks create challenges for companies when sensitive or confidential information could be exposed by employees.
They could be used at work or at school as well, as reported by the participants, they can be more engaging and friendlier environment to work with distant peers. Farr (2009) commented about social networks use at schools (see section 2.2.1): students are going to have
access to them anyway, so it’s better to grant access and use it to everyone’s benefit. Also it can be an opportunity to teach them about the dangers and net etiquette.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

องค์กรและเครือข่ายทางสังคมผู้เข้าร่วมแสดงเองกับการห้ามของสังคมในองค์กร บริษัทหรือสถาบันการศึกษา เหลวไหล ก็ได้เช่นห้ามใช้อินเทอร์เน็ต หรือโทรศัพท์ หรือแบ่ง มันสามารถบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพขององค์กร มันจะ nonsensical หากองค์กรที่ใช้เครือข่ายทางสังคมของแรงงานไม่สามารถเข้าถึงพวกเขา ตาม Kaplan และ Haenlein (2010) (ดูหัวข้อ 2.3.2.11) สังคมต้องไม่มีผิด หรือ ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการทำงาน หรือ ที่โรงเรียน บุคคลต้องรู้ความเสี่ยงของการนำ และบังคับควบคุมตนเองไม่เหยียดหยามการใช้เครือข่ายทางสังคม สถาบันต้องบ้านกิจกรรม แต่พวกเขาต้องทำชัดเจนนโยบายใช้ เรียกผู้ปฏิบัติงานจะใช้กับวัด แต่มันจะเป็นสิ่งที่โง่ทำการบ้านให้สมบูรณ์ ตามที่พวกเขาจะกลายเป็นสิ่งสำคัญดังนั้น พบบาง parallelisms ระหว่างความเห็นของผู้เข้าร่วมผลการสำรวจในหัวข้อ 2.2.2 [กรวย LLC (2008), EHS วันนี้ (2009) และเว้นท์เวิร์ท (2009)]: ผู้เข้าร่วมคิดว่า เครือข่ายทางสังคมดีสำหรับบริษัท และพวกเขาควรใช้พวกเขาสำหรับการตลาดของผลิตภัณฑ์และสื่อสารกับลูกค้าของพวกเขา ยัง จะยอมรับความต้องการของนโยบายการควบคุมการใช้เครือข่ายทางสังคม และความประทับใจว่า บางบริษัทอาจกลัวพนักงานของพวกเขาโดยใช้เครือข่ายทางสังคม ความกลัวนี้มีกล่าวไว้ โดย Deloitte พัฒนา (2009) (ดูหัวข้อ 2.3.2.11): เครือข่ายทางสังคมสร้างความท้าทายสำหรับบริษัทเมื่อสำคัญ หรือข้อมูลที่เป็นความลับสามารถเปิดเผย โดยพนักงานสามารถใช้ในการทำงาน หรือที่โรงเรียนเป็นอย่างดี รายงานผู้เข้าร่วม พวกเขาสามารถขึ้น และเพียร์แนะสภาพแวดล้อมการทำงานกับที่ห่างไกล Farr (2009) ความเห็นเกี่ยวกับการใช้เครือข่ายทางสังคมในโรงเรียน (ดูหัวข้อ 2.2.1): นักเรียนจะได้เข้าไปต่อไป ดังนั้นจึงดีกว่าที่จะอนุญาตการเข้าถึง และใช้ประโยชน์ของทุกคน ยัง จะได้มีโอกาสสอนให้พวกเขาเกี่ยวกับอันตรายและมารยาทสุทธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

องค์กรและเครือข่ายสังคมเข้าร่วมประชุมแสดงความตัวเองกับการห้ามของเครือข่ายสังคมในองค์กรทั้ง บริษัท หรือสถาบันการศึกษาเป็นเรื่องไร้สาระ
มันอาจจะเป็นเหมือนห้ามใช้อินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์หรือแบ่ง มันสามารถพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับสุขภาพขององค์กร มันจะไร้สาระถ้าองค์กรมีการใช้เครือข่ายทางสังคม แต่คนงานของพวกเขาไม่ได้มีการเข้าถึงพวกเขาตามที่ระบุไว้โดย Kaplan และ Haenlein (2010) (ดูหัวข้อ 2.3.2.11) เครือข่ายสังคมจะต้องไม่ถูกนำไปใช้หรือถูกทำร้ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ทำงานหรือที่โรงเรียน บุคคลที่จะต้องทราบความเสี่ยงของการใช้ผิดประเภทและการบังคับใช้การควบคุมตนเองไม่ได้เหยียดหยามการใช้เครือข่ายทางสังคม สถาบันต้องไม่ห้ามกิจกรรม แต่พวกเขาจะต้องทำอย่างชัดเจนนโยบายการใช้เรียกคนงานที่จะใช้กับวัด แต่มันจะเป็นสิ่งที่โง่ที่จะทำที่จะห้ามพวกเขาอย่างสมบูรณ์ตามที่พวกเขาจะกลายเป็นสิ่งสำคัญดังนั้น บาง parallelisms ระหว่างความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมและผลการสำรวจในหัวข้อ 2.2.2 [กรวย LLC (2008) EHS วันนี้ (2009) และเวนท์ (2009)] ที่พบ: ผู้เข้าร่วมคิดว่าเครือข่ายทางสังคมเป็นสิ่งที่ดีสำหรับ บริษัท และ พวกเขาควรจะใช้พวกเขาสำหรับการตลาดของผลิตภัณฑ์และการสื่อสารกับลูกค้าของพวกเขา พวกเขายังได้รับทราบความต้องการของนโยบายในการควบคุมการใช้งานเครือข่ายทางสังคมนั้น และการแสดงผลที่บาง บริษัท อาจจะกลัวของพนักงานของตนโดยใช้เครือข่ายทางสังคม ความกลัวนี้จะระบุไว้อย่างชัดเจนโดย Deloitte พัฒนา (2009) (ดูหัวข้อ 2.3.2.11): เครือข่ายทางสังคมสร้างความท้าทายให้กับ บริษัท เมื่อข้อมูลที่สำคัญหรือเป็นความลับจะถูกเปิดเผยโดยพนักงาน.
พวกเขาสามารถนำมาใช้ในที่ทำงานหรือที่โรงเรียนได้เป็นอย่างดีขณะที่รายงาน โดยผู้เข้าร่วมที่พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมมากขึ้นและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรในการทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ห่างไกล ฟาร์ (2009) ให้ความเห็นเกี่ยวกับการใช้เครือข่ายทางสังคมที่โรงเรียน (ดูหัวข้อ 2.2.1):
นักเรียนจะมีการเข้าถึงพวกเขาอยู่แล้วดังนั้นมันจะดีกว่าที่จะให้สิทธิ์การเข้าถึงและใช้มันเพื่อประโยชน์ของทุกคน นอกจากนี้ยังสามารถที่จะมีโอกาสที่จะสอนให้พวกเขาเกี่ยวกับอันตรายและมารยาทสุทธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

องค์กรและเครือข่ายทางสังคม
ผู้เข้าร่วมแสดงตนต่อสู้ห้ามเครือข่ายทางสังคมในองค์กร ทั้ง บริษัท หรือสถาบันการศึกษา มันไร้สาระ มันก็เหมือนห้ามใช้อินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์ หรือแบ่ง มันสามารถบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพขององค์กรมันคงจะไม่เป็นเรื่องถ้าองค์กรใช้ เครือข่ายทางสังคม แต่แรงงานของพวกเขาไม่ได้มีการเข้าถึงพวกเขา , ตามที่ระบุโดย Kaplan และ haenlein ( 2010 ) ( ดูมาตรา 2.3.2.11 ) เครือข่ายทางสังคมจะต้องไม่ถูกใช้ไปในทางที่ผิด หรือ ถูก โดยเฉพาะในที่ทำงานหรือที่โรงเรียน บุคคลต้องทราบความเสี่ยงของการใช้ในทางที่ผิด และบังคับควบคุมตนเองไม่ได้ละเมิดการใช้เครือข่ายทางสังคมสถาบันต้องไม่ห้ามกิจกรรม แต่พวกเขาต้องทำให้ชัดเจนนโยบายใช้เรียกคนงานที่จะใช้กับวัด แต่มันเป็นเรื่องโง่ที่จะทำให้บ้านทั้งหมด ตามที่พวกเขาจะเป็นแหล่งสำคัญ บางความคิดเห็น parallelisms ระหว่างผู้เข้าร่วมโครงการ และผลของการสำรวจในส่วน 2.2.2 [ กรวย LLC ( 2008 ) , EHS วันนี้ ( 2009 ) และ เวนท์เวิร์ธ ( 2009 ) ] พบว่า :ผู้เข้าร่วมที่คิดว่าเครือข่ายทางสังคมเป็นสิ่งที่ดีสำหรับ บริษัท และพวกเขาควรจะใช้สำหรับการตลาดของผลิตภัณฑ์และสื่อสารกับลูกค้าของพวกเขา นอกจากนี้พวกเขายอมรับความต้องการของนโยบายเพื่อควบคุมเครือข่ายใช้สังคม และความประทับใจที่บาง บริษัท อาจจะกลัวของพนักงานโดยใช้เครือข่ายทางสังคมความกลัวนี้ระบุไว้ชัดเจน โดยการพัฒนาตลาด ( 2009 ) ( ดูมาตรา 2.3.2.11 ) : เครือข่ายทางสังคมสร้างความท้าทายสำหรับ บริษัท ที่สำคัญ หรือข้อมูลที่เป็นความลับจะถูกเปิดเผยโดยพนักงาน .
พวกเขาสามารถใช้ในที่ทำงานหรือที่โรงเรียน เช่น รายงานโดยผู้เข้าร่วมที่พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรที่จะทำงานกับ เพื่อนที่ห่างไกลฟาร์ ( 2009 ) ความเห็นเกี่ยวกับเครือข่ายทางสังคมที่ใช้ในโรงเรียน ( ดูส่วน 2.2.1 ) : นักเรียนจะต้องมี
เข้าถึงอยู่แล้ว ดังนั้นจึงดีกว่าที่จะให้สิทธิ์การเข้าถึงและใช้มันเพื่อประโยชน์ของทุกคน ยังสามารถเป็นโอกาสที่จะสอนพวกเขาเกี่ยวกับอันตรายและมารยาท
สุทธิ .