This article investigates cigarette

This article investigates cigarette smoking among active military personnel, veterans, and comparable civilian populations. Methods. It is based on secondary analysis of archival data from the General Social Surveys and the National Longitudinal Surveys of Youth, Results. Findings were consistent with past research, indicating higher smoking rates for current active military personnel than for civilians. Among men and women who were in their thirties during the early 1980s, findings suggest that military personnel and civilians alike exhibited the same tendency toward cigarette use and initiated smoking at approximately the same ages. General Social Surveys and National Longitudinal Surveys of Youth data suggest that military smoking did not appear to be a situational behavior which occurred only during a recruit′s tour of duty; results also suggest that previous military experience was associated with higher lifelong patterns of cigarette consumption, compared to those who had never been in the armed services. Conclusions. This evidence suggests that the military-as the nation′s largest employer, with an immense influence upon civilian relations-exerts a force of considerable magnitude thwarting national goals to achieve reduced cigarette consumption.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทความนี้ตรวจสอบการสูบบุหรี่ระหว่างใช้งานทหาร ทหารผ่านศึก และประชากรพลเรือนที่เทียบเท่า วิธีการ มันขึ้นอยู่กับรองวิเคราะห์ข้อมูลจดหมายเหตุจากการสำรวจทั่วไปสังคมและชาติยาวสำรวจของเยาวชน ผล ผลการวิจัยสอดคล้องกับการวิจัย การระบุอัตราการสูบบุหรี่สูงสำหรับปัจจุบันใช้ทหารกว่าสำหรับพลเรือนที่ผ่านมา ระหว่างผู้ชายและผู้หญิงในทศวรรษของพวกเขาในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ผลการวิจัยแนะนำว่า ทั้งพลเรือนและทหารจัดแสดงแนวโน้มเดียวกันยังใช้บุหรี่ และริเริ่มสูบบุหรี่ในอายุเดียวกันประมาณ ข้อมูลการสำรวจทั่วไปสังคมและชาติสำรวจระยะยาวเยาวชนแนะนำว่า บุหรี่ทหารไม่ปรากฏจะ เป็นลักษณะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างทัวร์ recruit′s ของหน้าที่ ผลลัพธ์ยังแนะนำว่า ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ทหารเกี่ยวข้องกับรูปแบบตลอดชีวิตสูงขึ้นของการบริโภคบุหรี่ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยไปในราชการทหาร บทสรุป หลักฐานนี้แสดงให้เห็นว่า ทหาร-เป็นนายจ้างที่ใหญ่ที่สุด nation′s กับมีอิทธิพลอันยิ่งใหญ่เมื่อพลเรือนสัมพันธ์ออกแรงแรงของ thwarting ชาติเป้าหมายเพื่อให้เกิดการบริโภคบุหรี่ลดมากขนาดนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทความนี้สำรวจการสูบบุหรี่ของบุคลากรที่ใช้งานทางทหารทหารผ่านศึกและประชากรพลเรือนเทียบเคียง วิธีการ มันขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ที่สองของการเก็บถาวรข้อมูลจากการสำรวจทั่วไปทางสังคมและการสำรวจแห่งชาติระยะยาวของเยาวชนผลการค้นหา ผลการวิจัยมีความสอดคล้องกับการวิจัยที่ผ่านมาพบว่ามีอัตราการสูบบุหรี่สูงขึ้นสำหรับบุคลากรทางทหารในปัจจุบันที่ใช้งานกว่าพลเรือน ในหมู่ผู้ชายและผู้หญิงที่อยู่ในวัยสามสิบของพวกเขาในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าบุคลากรทางทหารและพลเรือนเหมือนกันแสดงแนวโน้มเดียวกันที่มีต่อการใช้บุหรี่และการริเริ่มสูบบุหรี่ประมาณวัยเดียวกัน การสำรวจทั่วไปสังคมแห่งชาติและการสำรวจข้อมูลระยะยาวของเยาวชนชี้ให้เห็นว่าการสูบบุหรี่ทหารไม่ปรากฏว่าจะเป็นพฤติกรรมของสถ​​านการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะในช่วงทัวร์รับสมัครงานของการปฏิบัติหน้าที่; ผลการทดลองยังชี้ให้เห็นว่าประสบการณ์ทางทหารก่อนหน้านี้มีความสัมพันธ์กับรูปแบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สูงขึ้นของการบริโภคบุหรี่เทียบกับผู้ที่ไม่เคยได้รับในการให้บริการติดอาวุธ สรุปผลการวิจัย หลักฐานนี้แสดงให้เห็นว่าทหารเป็นนายจ้างที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่มีอิทธิพลอันยิ่งใหญ่เมื่อพลเรือนสัมพันธ์ออกแรงแรงของขนาดมากขัดขวางเป้าหมายแห่งชาติเพื่อให้บรรลุการบริโภคบุหรี่ลดลง