This should leave you wondering - t

This should leave you wondering - the phosphorylation of glucose (as shown above) has a positive delta G and thus cannot occur, but every cell phosphorylates glucose! How can this be? In order for the reaction to occur, an source of energy is needed ( like the pen to the ceiling). A common source of energy that cells use is a compound callATP (adenosine triphosphate). ATP can undergo the hydrolysis (breaking off) of one of the phosphate groups to produce adenosine diphosphate, ADP and a free phosphate. This is written as:

ATP ----------> ADP + PO42-

This reaction has a negative delta G. Thus if the cell breaks up ATP at the same time that it is adding the phosphate to glucose, the cell can use the energy released from ATP to fuel the addition of the phosphate to glucose. This requires that the amount of energy released from the hydrolysis of ATP is greater than the amount of energy needed to add the phosphate. If this occurs, then these reactions are said to be coupled. If so, then the reaction would be written as:

ATP + PO42- + glucose ----------> glucose-6-phosphate +ADP + PO42-

This reaction can be simplified (just like in Algebra) by noticing that there is PO42- on each side of the reaction and can be cancelled.

ATP + glucose ----------> glucose-6-phosphate +ADP

Now, where do cells get the ATP? Obviously, if the breakdown of ATP has a negative delta G (gives off energy), the formation of ATP must have a positivedelta G.

ADP + PO42- ----------> ATP

Where do cells get the energy to make ATP (remember, most of the cellular reactions that require energy use the hydrolysis of ATP as the source - ATP is like money to the cell). The ultimate source of this energy is from the nutrients eaten by organisms. The breakdown of nutrients such as sugars and fats into carbon dioxide and water has a negative delta G. The cells are capable of taking these nutrients, breaking them down and using the energy in them to make ATP. You will know more about these processes later.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี้ควรปล่อยให้สงสัย- phosphorylation ของกลูโคส (ดังแสดงข้างต้น) มีเดลต้าบวก G และจึง ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ทุกเซลล์ phosphorylates กลูโคส อย่างไร เพื่อให้ปฏิกิริยาเกิดขึ้น จำเป็นต้องมีแหล่งพลังงาน (ชอบปากกากับเพดาน) แหล่งทั่วไปของพลังงานที่เซลล์ใช้เป็น callATP สาร (ฟอสเฟต) ATP สามารถได้รับการย่อย (ตัดออก) ของกลุ่มฟอสเฟตผลิต adenosine diphosphate, ADP และฟอสเฟตฟรี เขียนเป็น:---> ATP ADP + PO42-ปฏิกิริยานี้มีเดลต้าลบกรัม ดังนั้นถ้าเซลล์แบ่งค่า ATP ในเวลาเดียวกันว่า มันจะเพิ่มฟอสเฟตในกลูโคส เซลล์สามารถใช้ออกจาก ATP พลังงานเชื้อเพลิงเพิ่มเติมฟอสเฟตให้กลูโคส ต้องว่า ปริมาณพลังงานที่ปล่อยออกมาจากการสลายของ ATP มีมากกว่าจำนวนพลังงานที่ต้องการเพิ่มฟอสเฟตใน ในกรณีนี้ ปฏิกิริยาเหล่านี้จะกล่าวว่า การมีคู่ ถ้าดังนั้น แล้วปฏิกิริยาจะเขียนเป็น:ATP + PO42 - + กลูโคส---> กลูโคส-6-ฟอสเฟต ADP + PO42-ปฏิกิริยานี้สามารถทำได้ง่ายขึ้น (เหมือนในพีชคณิต) โดยสังเกตเห็นว่า มี PO42-ในแต่ละด้านของปฏิกิริยา และสามารถยกเลิกได้ATP + กลูโคส---> กลูโคส-6-ฟอสเฟต + ADPตอนนี้ ที่เซลล์รับ ATP อย่างชัดเจน ถ้าของ ATP มีเดลต้าลบ G (ให้ปิดพลังงาน), การก่อตัวของ ATP ต้องมี positivedelta กรัมADP + PO42 ----> ATPที่เซลล์รับพลังงานให้ ATP (จำ ของปฏิกิริยาที่เซลล์ที่ต้องการพลังงานใช้การสลายของ ATP เป็นแหล่ง- ATP เช่นเงินเซลล์) แหล่งที่มา ultimate ของพลังงานนี้มาจากสารอาหารที่กิน โดยสิ่งมีชีวิต ของสารอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำได้เดลต้าลบกรัม เซลล์มีความสามารถในการใช้สารอาหารเหล่านี้ ทำลายลง และใช้พลังงานในการทำให้ ATP คุณจะทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการเหล่านี้ในภายหลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นี้ควรจะทำให้คุณสงสัย - phosphorylation ของกลูโคส (ดังแสดงด้านบน) มีเดลต้าบวก G และทำให้ไม่สามารถเกิดขึ้น แต่ทุกเซลล์ phosphorylates กลูโคส! วิธีนี้สามารถ? เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาที่จะเกิดขึ้นซึ่งเป็นแหล่งที่มาของพลังงานเป็นสิ่งจำเป็น (เช่นปากกากับเพดาน) เป็นแหล่งทั่วไปของพลังงานที่ใช้เซลล์เป็น callATP Punch (adenosine triphosphate) เอทีพีสามารถได้รับการย่อย (แตกออก) ของหนึ่งในกลุ่มฟอสเฟตในการผลิตเพท adenosine, ADP และฟอสเฟตฟรี นี้เขียนเป็น: เอทีพี ----------> ADP + PO42- ปฏิกิริยานี้มีเดลต้าเชิงลบกรัมดังนั้นถ้าเซลล์แบ่งเอทีพีในเวลาเดียวกันว่ามันคือการเพิ่มฟอสเฟตเป็นน้ำตาลกลูโคสที่ มือถือสามารถใช้พลังงานที่ปล่อยออกจากเอทีพีเป็นเชื้อเพลิงในการเพิ่มของฟอสเฟตที่เป็นน้ำตาลกลูโคส ซึ่งกำหนดให้ปริมาณของพลังงานที่ปล่อยออกมาจากการย่อยสลายของเอทีพีมีค่ามากกว่าปริมาณของพลังงานที่จำเป็นในการเพิ่มฟอสเฟต หากเกิดเหตุการณ์นี้แล้วปฏิกิริยาเหล่านี้จะกล่าวว่าเป็นคู่ ถ้าเป็นเช่นนั้นการเกิดปฏิกิริยาจะเขียนเป็น: เอทีพี + + PO42- กลูโคส ----------> กลูโคส -6- ฟอสเฟต + ADP + PO42- ปฏิกิริยานี้ได้ง่าย (เช่นเดียวกับในพีชคณิต) โดย สังเกตเห็นว่ามี PO42- ในแต่ละด้านของการเกิดปฏิกิริยาและสามารถยกเลิก. เอทีพี + กลูโคส ----------> กลูโคส -6- ฟอสเฟต + ADP ตอนนี้ที่ไม่ได้รับเซลล์เอทีพี? แน่นอนถ้าสลายของเอทีพีมีเดลต้าเชิงลบ G (ให้ปิดพลังงาน) การก่อตัวของเอทีพีจะต้องมี positivedelta กรัมADP + PO42- ----------> เอทีพีจะอยู่ที่ไหนเซลล์ได้รับพลังงาน เพื่อให้เอทีพี (จำส่วนใหญ่ของปฏิกิริยาโทรศัพท์มือถือที่ต้องใช้พลังงานใช้การย่อยสลายของเอทีพีเป็นแหล่งที่มา - เอทีพีเป็นเหมือนเงินให้กับมือถือ) แหล่งที่ดีที่สุดของพลังงานนี้มาจากสารอาหารที่กินโดยสิ่งมีชีวิต รายละเอียดของสารอาหารเช่นน้ำตาลและไขมันเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำมีเดลต้าเชิงลบกรัมเซลล์มีความสามารถในการใช้สารอาหารเหล่านี้ทำลายพวกเขาลงและการใช้พลังงานในพวกเขาเพื่อให้เอทีพี คุณจะทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการเหล่านี้ในภายหลัง