We first discuss the differences be

We first discuss the differences between our model and stochastic model for single-period inventory problem.We assume
that the quantity demanded n is an uncertain variable, however it is assumed to be a random variable in stochastic case.
Thus, the essential difference is that our model is concerned with the study of vague phenomena while the stochastic model
is about the study of stochastic phenomena. The uncertainty of our model is regarded as subjective, and it is estimated by
experts when there is no or very few historical data on hand. On the contrary, randomness is regarded as objective uncertainty
and it is estimated only by historical data. This means that our model may be applied when there is lack of historical
data, and stochastic one may be applied when the managers have enough data. In other words, the two types are respectively
suitable for different cases, and it may be unreasonable to evaluate stochastic model and uncertain model by using the same
criteria because they are proposed for different purposes

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ครั้งแรกที่เราหารือเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างรูปแบบและรูปแบบสุ่มของเรา problem.we สินค้าคงคลังเดียวระยะเวลาสมมติ
ว่าปริมาณความต้องการ n คือตัวแปรที่ไม่แน่นอน แต่ก็จะถือว่าเป็นตัวแปรสุ่มในกรณีที่สุ่ม.
จึงแตกต่างที่สำคัญ คือรูปแบบของเราเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของปรากฏการณ์คลุมเครือในขณะที่รูปแบบการสุ่ม
เป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษาของปรากฏการณ์สุ่ม ความไม่แน่นอนของรูปแบบของเราถือได้ว่าเป็นอัตนัยและมันเป็นที่คาดกันโดยผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อไม่มีหรือน้อยมากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในมือ ในทางตรงกันข้ามมีแบบแผนถือได้ว่าเป็นความไม่แน่นอน
วัตถุประสงค์และมันเป็นที่คาดโดยเฉพาะข้อมูลทางประวัติศาสตร์ นี้หมายความว่ารูปแบบของเราอาจจะใช้เมื่อมีการขาดข้อมูล
ประวัติศาสตร์และเป็นหนึ่งสุ่มอาจจะใช้เมื่อผู้บริหารมีข้อมูลเพียงพอ ในคำอื่น ๆ สองประเภทตามลำดับ
เหมาะสำหรับกรณีที่แตกต่างกันและมันอาจจะไม่มีเหตุผลในการประเมินรูปแบบการสุ่มและรูปแบบที่ไม่แน่นอนโดยใช้เก​​ณฑ์
เดียวกันเพราะพวกเขาจะนำเสนอเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เรากล่าวถึงความแตกต่างระหว่างรูปและรูปแบบเฟ้นสุ่มสำหรับปัญหาเดียวของรอบระยะเวลาสินค้าคงคลังของเราก่อนเราสมมติ
ว่า ปริมาณแค่ n คือ ตัวแปรไม่แน่นอน แต่จะถือว่าเป็นตัวแปรสุ่มในกรณีสโทแคสติกการ
ดัง ข้อแตกต่างสำคัญคือ ว่า รุ่นของเราเกี่ยวข้องกับการศึกษาปรากฏการณ์คลุมขณะแบบสโทแคสติก
กำลังศึกษาปรากฏการณ์แบบเฟ้นสุ่ม ความไม่แน่นอนของรูปแบบของเราถือเป็นตามอัตวิสัย และมีประเมินโดย
ผู้เชี่ยวชาญเมื่อมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์ไม่มี หรือน้อยมากคง ดอก randomness ถือเป็นความไม่แน่นอนวัตถุประสงค์
และมีประเมินเฉพาะตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ หมายความ ว่า รุ่นของเราอาจมีใช้เมื่อมีการขาดของประวัติศาสตร์
ข้อมูล และอาจจะใช้แบบเฟ้นสุ่มหนึ่งเมื่อผู้จัดการมีข้อมูลเพียงพอ ในคำอื่น ๆ สองชนิดคือตามลำดับ
เหมาะสำหรับกรณีที่แตกต่างกัน และอาจ unreasonable เพื่อประเมินรูปแบบเฟ้นสุ่มและไม่แน่นอนโดยตรง
เงื่อนไขเนื่องจากมีการนำเสนอเพื่อวัตถุประสงค์อื่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นครั้งแรกที่เราจะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างของเราและรุ่น,แบบใดก็ได้ทั้งหมดรองรับงานสำหรับรุ่นเดียว - ช่วงสินค้าคงคลังมีปัญหาเราจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณถาม n มีความไม่แน่นอนหลายระดับ,แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังมีการปรับเปลี่ยนซึ่งมีการเรียงลำดับแบบสุ่มใน,แบบใดก็ได้ทั้งหมดรองรับงานกรณี.
ดังนั้นจึงเป็นความแตกต่างที่สำคัญที่เรามีความกังวลกับการศึกษาของรางๆปรากฎการณ์,แบบใดก็ได้ทั้งหมดรองรับงานในขณะที่รุ่น
เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการศึกษาที่มาของปรากฎการณ์,แบบใดก็ได้ทั้งหมดรองรับงาน ความไม่แน่นอนของรุ่นของเราได้รับการพิจารณาว่าเป็นเรื่องอัตวิสัยและมันจะเป็นการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อไม่มีข้อมูลหรือเป็นอย่างมากเพียงไม่กี่แห่งประวัติศาสตร์บนมือถือ ในทางตรงกันข้ามที่สุ่มที่ไม่ละเอียดได้รับการพิจารณาว่าเป็นความไม่แน่นอนเป้าหมาย
และมีการประเมินเท่านั้นโดยใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ซึ่งหมายความว่ารุ่นของเราอาจจะถูกนำไปใช้เมื่อมีการขาดข้อมูลทางประวัติศาสตร์
หนึ่ง,แบบใดก็ได้ทั้งหมดรองรับงานและอาจจะนำมาใช้เมื่อผู้จัดการที่มีข้อมูลไม่เพียงพอ ในคำอื่นๆทั้งสอง ประเภท นี้มีตามลำดับ
เหมาะสำหรับกรณีที่แตกต่างและอาจไม่ชอบด้วยเหตุผลในการประเมินรุ่น,แบบใดก็ได้ทั้งหมดรองรับงานและความไม่แน่นอนของรุ่นโดยใช้เหมือนกัน
เกณฑ์เพราะได้เสนอสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน