Agreat deal of research now support

Agreat deal of research now supports the conclusion
that how well patients manage chronic pain
depends more on what they do than on what is
done to them; most of the “work” of chronic pain management
is done by the patient. For example, in cognitive-
behavioral and multidisciplinary pain treatment, patients
learn and then use self-management skills to
control pain and its effects on their lives.14,49,94 Inevitably,
this involves asking patients to make significant
changes in their behavior. Patients are taught to remain
active, to exercise regularly, and to increase activity tolerance,
even when they experience short-term increases
in pain. Typically, they acquire and are expected to apply
multiple pain coping skills, such as activity pacing, relaxation,
and cognitive restructuring. Other behavioral
changes are also sometimes required. For example, those
for whom excess weight contributes to pain and disability
(eg, obese patients with knee osteoarthritis or low
back pain) might also be asked to change long-established
eating habits.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Agreat ข้อเสนอของงานวิจัยนี้สนับสนุนข้อสรุปว่า วิธีที่ดีผู้ป่วยจัดการอาการปวดเรื้อรังพึ่งทำมากกว่าว่าเป็นมากขึ้นทำให้พวกเขา ส่วนใหญ่ของ "งาน" ของการจัดการอาการปวดเรื้อรังจะกระทำ โดยผู้ป่วย ตัวอย่าง ในรับรู้-รักษาพฤติกรรม และ multidisciplinary ปวด ผู้ป่วยเรียนรู้ และใช้ทักษะการจัดการตนเองในการควบคุมความเจ็บปวดและผลกระทบบน lives.14,49,94 ของพวกเขาย่อมนี้เกี่ยวข้องกับการถามผู้ป่วยเพื่อให้สำคัญการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของพวกเขา ผู้ป่วยที่กำลังสอนอยู่ใช้งาน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และ การเพิ่มการยอมรับกิจกรรมแม้เมื่อพวกเขามีประสบการณ์ระยะสั้นเพิ่มขึ้นอาการเจ็บปวด โดยปกติ พวกเขาได้รับ และคาดว่าจะใช้ทักษะ เช่นกิจกรรม pacing ผ่อนคลาย การเผชิญความเจ็บปวดหลายและปรับโครงสร้างรับรู้ พฤติกรรมอื่น ๆเปลี่ยนแปลงบางครั้งก็ต้อง ตัวอย่าง ผู้ที่น้ำหนักเกินรวมความเจ็บปวดและความพิการ(เช่น อ้วนผู้ป่วยที่ มีโรคข้อเข่าเสื่อมเข่าหรือต่ำปวดหลัง) อาจต้องเปลี่ยนนานมากรับประทานอาหารนิสัย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อตกลงของการวิจัย agreat ขณะนี้สนับสนุนข้อสรุป
ว่าวิธีการที่ดีในการจัดการผู้ป่วยที่มีอาการปวดเรื้อรัง
ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำมากกว่าในสิ่งที่
ทำเพื่อพวกเขา; ส่วนใหญ่ของ "งาน" ของการจัดการอาการปวดเรื้อรัง
จะกระทำโดยผู้ป่วย ยกตัวอย่างเช่นใน cognitive-
การรักษาอาการปวดพฤติกรรมและสหสาขาวิชาชีพที่ผู้ป่วย
ได้เรียนรู้และใช้ทักษะการจัดการตนเองเพื่อ
ควบคุมความเจ็บปวดและผลกระทบต่อ lives.14,49,94 ของพวกเขาหลีกเลี่ยงไม่ได้
นี้เกี่ยวข้องกับการขอให้ผู้ป่วยอย่างมีนัยสำคัญที่จะทำให้
การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของพวกเขา ผู้ป่วยที่ได้รับการสอนที่จะยังคง
ใช้งานเพื่อการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและเพื่อเพิ่มความทนทานต่อกิจกรรม
แม้ในขณะที่พวกเขามีประสบการณ์เพิ่มขึ้นในระยะสั้น
ในความเจ็บปวด โดยปกติแล้วพวกเขาได้รับและคาดว่าจะใช้
ทักษะความเจ็บปวดหลายอย่างเช่นเดินไปเดินมากิจกรรมการพักผ่อน
และการปรับโครงสร้างองค์ความรู้ พฤติกรรมอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงบางครั้งจำเป็น ตัวอย่างเช่นผู้ที่
สำหรับผู้ที่น้ำหนักเกินก่อให้เกิดความเจ็บปวดและความพิการ
(เช่นผู้ป่วยโรคอ้วนโรคข้อเข่าเสื่อมหรือต่ำ
ปวดหลัง) นอกจากนี้ยังอาจจะมีการขอให้เปลี่ยนยาวขึ้น
นิสัยการกิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จัดการ agreat ของการวิจัยนี้สนับสนุนข้อสรุปว่าวิธีการที่ดีจัดการ

ผู้ป่วยปวดเรื้อรังขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาทำในสิ่งที่
ทำอะไรกับพวกเขา ส่วนใหญ่ของ " งาน " ของการจัดการอาการปวดเรื้อรังได้ โดยผู้ป่วย ตัวอย่างเช่น ในการคิด - พฤติกรรมและการรักษาความเจ็บปวด

เรียนสห ผู้ป่วย และใช้ทักษะการจัดการตนเอง

ควบคุมอาการปวดและผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา 14,49,94 แน่นอน
นี้เกี่ยวข้องกับการถามผู้ป่วยที่จะทำการเปลี่ยนแปลง
ในพฤติกรรมของพวกเขา ผู้ป่วยจะสอนอยู่
ปราดเปรียว , ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเพิ่มความอดทน กิจกรรม แม้กระทั่งเมื่อพวกเขาพบระยะสั้นเพิ่ม

ในความเจ็บปวด โดยทั่วไป , พวกเขาได้รับและคาดว่าจะใช้
หลายทักษะการเผชิญความเจ็บปวด เช่น กระตุ้นกิจกรรมผ่อนคลาย ,
และการปรับโครงสร้างทางปัญญา . การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีบางครั้งที่จำเป็น ตัวอย่างเช่นผู้ที่น้ำหนักส่วนเกิน
ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและความพิการ
( เช่น ผู้ป่วยโรคอ้วนโรคข้อเข่าเสื่อมหรือต่ำ
ปวดหลัง ) อาจถูกขอให้เปลี่ยนก่อตั้งนาน
นิสัยการกิน