Bootstrapping Angular applications

Bootstrapping Angular applications automatically using the ngApp directive is very easy and suitable for most cases. In advanced cases, such as when using script loaders, you can use the imperative/manual way to bootstrap the application.

There are 3 important things that happen during the bootstrap phase:

The injector that will be used for dependency injection is created.

The injector will then create the root scope that will become the context for the model of our application.

Angular will then "compile" the DOM starting at the ngApp root element, processing any directives and bindings found along the way.

Once an application is bootstrapped, it will then wait for incoming browser events (such as mouse clicks, key presses or incoming HTTP responses) that might change the model. Once such an event occurs, Angular detects if it caused any model changes and if changes are found, Angular will reflect them in the view by updating all of the affected bindings.

The structure of our application is currently very simple. The template contains just one directive and one static binding, and our model is empty. That will soon change!

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Bootstrapping โปรแกรมประยุกต์เชิงมุมโดยอัตโนมัติโดยใช้คำสั่ง ngApp ได้ง่ายมาก และเหมาะสำหรับกรณีส่วนใหญ่ ในกรณีที่ขั้นสูง เช่นเมื่อใช้สคริปต์โฮ คุณสามารถใช้วิธีขัด/คู่มือการบูตโปรแกรมประยุกต์มี 3 สิ่งที่สำคัญที่เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการเริ่มต้นระบบ:หัวฉีดที่จะใช้สำหรับฉีดพึ่งพาถูกสร้างขึ้นหัวฉีดที่จะสร้างขอบเขตรากที่จะกลายเป็นบริบทสำหรับรูปแบบของโปรแกรมของเราเชิงมุมจะ "คอมไพล์" DOM ราคาเริ่มต้นที่องค์ประกอบราก ngApp การประมวลผลคำสั่งใด ๆ รวมพบตลอดทางเมื่อโปรแกรมประยุกต์ถูก bootstrapped มันจะรอเหตุการณ์เบราว์เซอร์ขา (เช่นการคลิกเมาส์ กดคีย์ หรือการตอบสนอง HTTP ขาเข้า) ที่อาจเปลี่ยนแปลงรูปแบบ เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น เชิงมุมตรวจว่ามันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใด ๆ และหากพบการเปลี่ยนแปลง เชิงมุมจะสะท้อนในมุมมอง โดยการปรับปรุงการรวมได้รับผลกระทบทั้งหมดโครงสร้างของโปรแกรมของเราได้ง่ายมากในปัจจุบัน แม่แบบประกอบด้วยคำสั่งเพียงครั้งเดียวและผูกแบบคงที่หนึ่ง และรูปแบบของเราว่างเปล่า ที่จะเปลี่ยนเร็ว ๆ นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความร่วมมือการใช้งานเชิงมุมโดยอัตโนมัติโดยใช้คำสั่ง ngApp เป็นเรื่องง่ายมากและเหมาะสำหรับกรณีส่วนใหญ่ ในกรณีขั้นสูงเช่นเมื่อใช้รถตักสคริปต์คุณสามารถใช้ความจำเป็น / คู่มือวิธีบูตแอพลิเคชัน.

มี 3 สิ่งที่สำคัญที่เกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการบูต ได้แก่ :

. หัวฉีดที่จะนำมาใช้สำหรับฉีดพึ่งพาจะถูกสร้างขึ้น

หัวฉีด แล้วจะสร้างขอบเขตรากที่จะกลายเป็นบริบทสำหรับรูปแบบของแอพลิเคชันของเรา.

เชิงมุมแล้ว "จะรวบรวม" DOM เริ่มต้นที่องค์ประกอบราก ngApp การประมวลผลคำสั่งใด ๆ และการผูกพบตามทาง.

เมื่อโปรแกรม bootstrapped มัน แล้วจะรอสำหรับเหตุการณ์ที่เบราว์เซอร์ที่เข้ามา (เช่นการคลิกเมาส์กดปุ่มหรือการตอบสนอง HTTP ขาเข้า) ที่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบ เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเชิงมุมตรวจพบว่ามันจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใด ๆ และหากมีการเปลี่ยนแปลงจะพบเชิงมุมจะสะท้อนให้เห็นถึงพวกเขาในมุมมองโดยการปรับปรุงทั้งหมดของการผูกได้รับผลกระทบ.

โครงสร้างของโปรแกรมของเราในขณะนี้เป็นเรื่องง่ายมาก แม่แบบที่มีเพียงหนึ่งคำสั่งและเป็นหนึ่งคงมีผลผูกพันและรูปแบบของเราเป็นที่ว่างเปล่า ว่าเร็ว ๆ นี้จะมีการเปลี่ยนแปลง!

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

bootstrapping โปรแกรมเชิงมุมโดยอัตโนมัติโดยใช้คำสั่ง ngapp เป็นเรื่องง่ายและเหมาะสำหรับกรณีส่วนใหญ่ ในกรณีขั้นสูงเช่นเมื่อใช้สคริปต์ตัก , คุณสามารถใช้วิธีบูตสแตรปขวาง / คู่มือการใช้งานโปรแกรมมี 3 สิ่งที่สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงระยะบูหัวฉีดที่ใช้ในการฉีดพึ่งพาถูกสร้างขึ้นหัวฉีดแล้วจะสร้างขอบเขตรากนั้นจะเป็นเนื้อหาสำหรับรูปแบบของโปรแกรมของเราการจะ " รวบรวม " ดอม เริ่มที่ ngapp รากองค์ประกอบการประมวลผลใด ๆและสั่งผูกพบตลอดทางเมื่อใบสมัคร bootstrapped มันก็จะรอกิจกรรมเบราว์เซอร์ที่เข้ามา ( เช่น การคลิกเมาส์ปุ่มกดหรือการตอบสนอง HTTP ขาเข้า ) ซึ่งอาจเปลี่ยนรูปแบบ เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น การตรวจสอบถ้ามันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงแบบใด และหากมีการเปลี่ยนแปลงจะพบเชิงมุมจะสะท้อนในมุมมองโดยการปรับปรุงทั้งหมดของผลกระทบรวม .โครงสร้างของโปรแกรมของเราคือตอนนี้ง่ายมาก แม่แบบประกอบด้วยเพียงหนึ่งและคำสั่งหนึ่งย่านสาทร และนางแบบของเราว่างเปล่า ที่กำลังจะเปลี่ยนไป !