As for the Thai economy, it is expo

As for the Thai economy, it is export-dependent, with exports of goods and services equivalent to over 70% of GDP in 2008. Thailand's recovery from the 1997-1998 Asian financial crises (which brought a double-digit drop in GDP) relied largely on external demand from the United States and other foreign markets. From 2001-2006, the administration of former Prime Minister Thaksin embraced a "dual track" economic policy that combined domestic stimulus programs with Thailand's traditional promotion of open markets and foreign investment. Real GDP growth strengthened sharply from 2.2% in 2001 to 7.1% in 2003 and 6.3% in 2004. In 2005-2007, economic expansion moderated, averaging 4.5% to 5.0% real GDP growth, due to domestic political uncertainty, rising violence in Thailand's four southernmost provinces, and repercussions from the devastating Indian Ocean tsunami of 2004. Thailand's economy in 2007 relied heavily on resilient export growth (at a 17.3% annual rate), particularly in the automobile, petrochemicals, and electronics sectors. Persistent political uncertainty and the global financial crisis in 2008 weakened Thailand's economic growth by reducing domestic and international demand for both its goods and services (including tourism). Due to minimum exposure to toxic assets, Thai banks have limited direct impact from the global financial crisis. Nonetheless, Thai economic growth slowed to 2.6% in 2008, with fourth quarter growth dropping below zero. In 2009, the contraction continued. First quarter GDP was down by 7.1% year-on-year. To offset weak external demand and to shore up confidence, the Abhisit administration introduced two stimulus packages worth $43.4 billion. The government projected that the Thai economy would be down 3.5% for the year but would see positive growth of 2.5% in 2010.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับเศรษฐกิจไทย มันส่งออกขึ้นอยู่ กับการส่งออกสินค้าและบริการกว่า 70% ของ GDP ในปี 2008 ของประเทศไทยฟื้นจากวิกฤตการเงินปี 1997-1998 เอเชีย (ซึ่งนำมาปล่อยตัวเลขสองหลักใน GDP) นั้นส่วนใหญ่พึ่งกับอุปสงค์จากประเทศสหรัฐอเมริกาและตลาดต่างประเทศอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 2001-2006 การบริหารงานของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณนำนโยบายเศรษฐกิจ "เพลงคู่" ที่รวมโปรแกรมกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศกับของไทยดั้งเดิมส่งเสริมการเปิดตลาดและการลงทุนต่างประเทศ เศรษฐกิจจริงเข้มแข็งคมจาก 2.2% ในปี 2001 7.1% ใน 2003 และ 6.3% ในปี 2004 ใน 2005-2007 การขยายตัวทางเศรษฐกิจถูกควบคุม เฉลี่ย 4.5-5.0% จริงเศรษฐกิจ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ เพิ่มความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย และ repercussions จากสึนามิมหาสมุทรอินเดีย 2004 เศรษฐกิจไทยใน 2007 อาศัยหนักในเติบโตส่งออกยืดหยุ่น (ที่ 17.3% ต่อปี), โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคยานยนต์ ปิโตรเคมี และอิเล็กทรอนิกส์ ความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างสม่ำเสมอและวิกฤตการเงินโลกในปี 2008 อ่อนแอเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยการลดอุปสงค์ในประเทศ และต่างประเทศทั้งสินค้าและบริการ (ท่องเที่ยว) เนื่องจากเสี่ยงต่ำสุดพิษสินทรัพย์ ธนาคารไทยได้มีจำกัดผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก กระนั้น เศรษฐกิจไทยชะลอตัว 2.6% ในปี 2008 โตไตรมาสที่สี่ลดลงต่ำกว่าศูนย์ ใน 2009 การหดตัวอย่างต่อเนื่อง ไตรมาสแรกที่ GDP ถูกลง 7.1% ปีในปีนี้ ตรงข้ามอุปสงค์อ่อน และชายฝั่งได้อย่างมั่นใจ การบริหารงานของอภิสิทธิ์แนะนำกระตุ้นสองมูลค่า 43.4 พันล้านดอลลาร์ รัฐบาลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะลง 3.5% ปี แต่ต้องดูการเติบโตในเชิงบวก 2.5% ใน 2010

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับเศรษฐกิจไทยก็คือการส่งออกขึ้นอยู่กับการส่งออกสินค้าและบริการที่เทียบเท่ากับกว่า 70% ของ GDP ในปี 2008 การกู้คืนของประเทศไทย 1997-1998 จากวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย (ซึ่งนำมาลดลงเป็นตัวเลขสองหลักใน GDP) อาศัย ส่วนใหญ่อยู่ในความต้องการภายนอกจากประเทศสหรัฐอเมริกาและตลาดต่างประเทศอื่น ๆ จาก 2001-2006, การบริหารงานของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณกอด "คู่ขนาน" นโยบายเศรษฐกิจที่รวมโปรแกรมกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่มีโปรโมชั่นแบบดั้งเดิมของไทยเปิดตลาดและการลงทุนต่างประเทศ การเจริญเติบโตของ GDP ที่แท้จริงมีความเข้มแข็งอย่างมากจาก 2.2% ในปี 2001-7.1% ในปี 2003 และ 6.3% ในปี 2004 ในปี 2005-2007 ขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงเฉลี่ยการเติบโตของ GDP ที่แท้จริง 4.5% ถึง 5.0% เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศที่เพิ่มขึ้นความรุนแรงในประเทศไทย สี่จังหวัดชายแดนภาคใต้และผลกระทบจากสึนามิทำลายล้างในมหาสมุทรอินเดียปี 2004 เศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2007 อาศัยการเจริญเติบโตของการส่งออกมีความยืดหยุ่น (ในอัตราประจำปี 17.3%) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถยนต์ปิโตรเคมีและภาคอิเล็กทรอนิกส์ ความไม่แน่นอนทางการเมืองถาวรและวิกฤตการเงินโลกในปี 2008 ลดลงการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศลดสำหรับทั้งสินค้าและบริการของ บริษัท (รวมถึงการท่องเที่ยว) เนื่องจากการสัมผัสขั้นต่ำในสินทรัพย์ที่เป็นพิษ, ธนาคารไทยได้ส่งผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตการเงินโลก จำกัด อย่างไรก็ตามการเติบโตของเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง 2.6% ในปี 2008 ที่มีการเจริญเติบโตที่สี่ไตรมาสลดลงต่ำกว่าศูนย์ ในปี 2009 หดตัวต่อเนื่อง จีดีพีไตรมาสแรกลดลง 7.1% เมื่อเทียบกับปี เพื่อชดเชยความต้องการภายนอกที่อ่อนแอและจะขึ้นฝั่งความเชื่อมั่นในการบริหารงานของนายอภิสิทธิ์แนะนำแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าสอง 43400000000 $ รัฐบาลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะลดลง 3.5% สำหรับปี แต่จะเห็นการเติบโตเป็นบวก 2.5% ในปี 2010

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำหรับเศรษฐกิจไทย มันขึ้นอยู่กับการส่งออก , การส่งออกสินค้าและบริการเทียบเท่ากับกว่า 70 % ของ GDP ในปี 2008 ไทยฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชียปี ( ซึ่งนำวางหลักใน GDP ) อาศัยส่วนใหญ่ในความต้องการภายนอกจากสหรัฐอเมริกาและตลาดต่างประเทศอื่น ๆ จากปี 2001-2006 , การบริหารงานของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ โอบกอด " ติดตาม " Dual นโยบายเศรษฐกิจที่รวมประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมประเพณีของไทยเปิดตลาดและการลงทุนจากต่างประเทศ การเจริญเติบโตของ GDP ที่แท้จริงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 2.2% ในปี 2544 ถึง 7.1% ในปี 2003 และ 6.3% ในปี 2004 ในโครงการ เศรษฐกิจขยายตัวเฉลี่ย 4.5% สำหรับ 5.0 % ของ GDP ที่แท้จริง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ ไทยเพิ่มขึ้นความรุนแรงใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ผลกระทบจากหายนะสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย 2004 เศรษฐกิจไทยในปี 2550 ขยายตัวต้องอาศัยความยืดหยุ่น ( ที่ 17.3 % อัตราการประจำปี ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถยนต์ ปิโตรเคมี และภาคอิเล็กทรอนิกส์ ความไม่แน่นอนทางการเมืองแบบถาวร และวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 ลดลงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยการลดความต้องการภายในประเทศและระหว่างประเทศ ทั้งสินค้าและบริการ รวมถึงการท่องเที่ยว เพราะอย่างน้อยการสินทรัพย์ที่เป็นพิษ , ธนาคารไทยมีจำกัดผลกระทบโดยตรงจากวิกฤติการเงินโลก อย่างไรก็ตาม การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยลงถึง 2.6% ในปี 2551 เติบโตไตรมาสที่สี่ลดลงต่ำกว่าศูนย์ ในปี 2009 หดตัวต่อเนื่อง ไตรมาสแรก ลดลงจาก 7.1% ต่อปี . เพื่อชดเชยอุปสงค์จากต่างประเทศที่อ่อนแอและเพิ่มความมั่นใจ การบริหารอภิสิทธิ์แนะนำสองแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า $ 43.4 พันล้าน รัฐบาลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะลง 3.5 % ต่อปี แต่จะเห็นการเติบโตบวก 2.5% ในปี 2010