Hinduism believes that Brahma is th

Hinduism believes that Brahma is the supreme god. He is the creator of the world and all-round determines the fate of humans and animals. Therefore, each person's way of life, so as to follow my fate, but people might change their way of life. If making Brahma sympathy and favor. By good deeds and spirits appeal against him. Who is god. If he would be able to see, and if in the end they will have to live with the evil god eternal. But if not please you will be reborn in hell landscape has been suffering distressing miserably. Hindus believe that the soul is immortal, so it's not a dead body. That death is only the soul from the body. The body had deteriorated to live not only. Spirit is going to take a new body. Also known as reincarnation. It is like wearing clothes when used over time to become old archaic. Wear it to a new. Therefore, no souls are born dead. The occurrence of death is just about the body only. The spirit will take a new body, also known as transmigration. Metempsychosis feelings as long as not attain moksha. Hindus believe that moksha is the supreme goal of life. Those who reach the moksha goes to prom for eternity. Do not cycle of death anymore. The practical way to achieve Moksha, The three ways to salvation are
(1) The karma-marga (the path of duty) or the dispassionate discharge of ritual and social obligations.
(2) The jnana-marga (the path of knowledge) which is the use of meditation with concentration preceded by a long and systematic ethical and contemplative training through yoga to gain insight into one’s identity with brahman.
(3) The bhakti-marga (the path of devotion), adherence to a personal god. Different kinds of people find one of these three suitable to their karma.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศาสนาฮินดูเชื่อว่า พระพรหมเป็นเทพเจ้าสูงสุด เขาเป็นผู้สร้างโลก และ all-round กำหนดชะตากรรมของมนุษย์และสัตว์ ดังนั้น วิถีชีวิต เพื่อทำตามชะตากรรมของฉัน แต่คนแต่ละคนอาจเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเขา ถ้าทำเห็นใจพรหมและโปรดปราน โดยดีจิตวิญญาณและความดึงดูดใจเขา ใครคือพระเจ้า ถ้าจะเห็น และ ในสุดพวกเขาจะต้องอยู่กับพระเจ้าชั่วนิรันดร์ ไม่เพียงคุณจะรีบอร์นในนรกแล้วทุกข์เศร้าเป็นท่า ฮินดูเชื่อว่า วิญญาณเป็นอมตะ ดังนั้นจึงไม่มีศพ ว่า ความตายเป็นเพียงจิตวิญญาณจากร่างกาย ร่างกายมีรูปจะไม่ถ่ายทอดสดเท่านั้น จิตวิญญาณจะไปทำใหม่ เรียกอีกอย่างว่าสุ ได้เช่นสวมใส่เสื้อผ้าเมื่อใช้ช่วงเวลาเป็นเก่าพวก สวมใส่ให้ใหม่ ดังนั้น วิญญาณที่ไม่ได้เกิดตาย การเกิดการตายเป็นเพียงร่างกายเท่านั้น จิตวิญญาณจะเสนอเนื้อหาใหม่ transmigration ยังรู้จัก ความรู้สึก metempsychosis เป็นนานไม่บรรลุมอคชา ฮินดูเชื่อมอคชาที่เป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต ผู้ที่เข้าถึงมอคชาจะไปพรหมสำหรับนิรันดร์ ทำวงจรไม่ตายอีกต่อไป มีวิธีปฏิบัติเพื่อให้บรรลุมอคชา สามวิธีสู่ความรอด (1)กรรมธา (เส้นทางภาษี) หรือจำหน่ายโดยปราศจากอคติของพิธีกรรมและข้อผูกพันทางสังคม(2) jnana-ธา (เส้นทางของความรู้) ซึ่งเป็นการใช้สมาธิสมาธินำหน้า โดยยาว และระบบจริยธรรม และจิตตปัญญาฝึกอบรมโยคะเพื่อเข้าใจในตัวตนของคน ๆ หนึ่งกับ brahman ผ่าน(3 bhakti-ธา (เส้นทางของความจงรักภักดี)) ต่าง ๆ พระเจ้าส่วนตัว แตกต่างคนค้นหาทั้งสามอย่างใดอย่างหนึ่งเหมาะสมกับกรรมของตน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศาสนาฮินดูเชื่อว่าพระพรหมเป็นเทพเจ้าสูงสุด เขาเป็นผู้สร้างโลกและทุกรอบตัวกำหนดชะตากรรมของมนุษย์และสัตว์ ดังนั้นวิธีการของแต่ละคนของชีวิตเพื่อให้เป็นไปตามชะตากรรมของฉัน แต่คนอาจจะเปลี่ยนวิธีชีวิตของพวกเขา หากทำให้เห็นอกเห็นใจพระพรหมและโปรดปราน โดยการกระทำที่ดีและสุรายื่นอุทธรณ์ต่อเขา ใครเป็นพระเจ้า ถ้าเขาจะสามารถที่จะเห็นและถ้าในท้ายที่สุดพวกเขาจะต้องมีชีวิตอยู่กับความชั่วร้ายพระเจ้านิรันดร์ แต่ถ้าไม่ได้โปรดคุณจะได้รับการเกิดใหม่ในนรกภูมิทัศน์ที่ได้รับความทุกข์ทรมานที่น่าวิตกอย่างน่าสังเวช ชาวฮินดูเชื่อว่าจิตวิญญาณเป็นอมตะดังนั้นจึงไม่ได้เป็นศพ ความตายที่เป็นเพียงจิตวิญญาณออกจากร่างกาย ร่างกายทรุดโทรมจะมีชีวิตอยู่ไม่เพียง แต่ วิญญาณจะใช้ร่างใหม่ หรือที่เรียกว่าการเกิดใหม่ มันก็เหมือนการสวมใส่เสื้อผ้าที่เมื่อนำมาใช้ในช่วงเวลาที่จะกลายเป็นเก่าคร่ำคร่า สวมใส่มันไปอยู่ที่ใหม่ ดังนั้นจิตวิญญาณไม่ได้เกิดตาย การเกิดขึ้นของการตายเป็นเพียงเกี่ยวกับร่างกายเท่านั้น จิตวิญญาณจะใช้เวลาร่างใหม่ที่เรียกว่าเป็นสังสารวัฏ ความรู้สึกของวิญญาณตราบเท่าที่ไม่บรรลุหลุดพ้น ชาวฮินดูเชื่อว่าหลุดพ้นเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต บรรดาผู้ที่เข้าถึงหลุดพ้นไปพรหมนิรันดร์ อย่าวงจรของการเสียชีวิตอีกต่อไป วิธีการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุหลุดพ้นสามวิธีที่จะรอดคือ
(1) กรรมกา (เส้นทางของการปฏิบัติหน้าที่) หรือปล่อยอคติของภาระผูกพันพิธีกรรมและสังคม.
(2) Jnana-กา (เส้นทางของความรู้) ซึ่ง คือการใช้การทำสมาธิที่มีความเข้มข้นนำโดยการฝึกอบรมจริยธรรมและครุ่นคิดนานและเป็นระบบผ่านการฝึกโยคะที่จะได้รับความรู้ความเข้าใจในตัวตนของคน ๆ หนึ่งที่มีพราหมณ์.
(3) ภักติ-กา (เส้นทางของความจงรักภักดี) ยึดมั่นในพระเจ้าส่วนบุคคล ชนิดที่แตกต่างกันของผู้คนพบหนึ่งในสามคนนี้เหมาะสมกับกรรมของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศาสนาฮินดูเชื่อว่า พระพรหมเป็นเทพเจ้าสูงสุด เขาเป็นผู้สร้างโลก และรอบด้าน กำหนดชะตากรรมของมนุษย์และสัตว์ ดังนั้น วิถีชีวิตของแต่ละคน เพื่อที่จะตามโชคชะตา แต่คนอาจจะเปลี่ยนวิธีการของพวกเขาในชีวิต ถ้าทำให้ความเห็นใจพระพรหมและโปรดปราน โดยความดีและจิตใจอุทธรณ์ต่อเขา พระเจ้าเป็นใคร ถ้าเขาจะสามารถที่จะดูและหากในท้ายที่สุดพวกเขาจะต้องอยู่กับความชั่วร้ายพระเจ้านิรันดร์ แต่ถ้าไม่ช่วยก็จะไปเกิดในภูมินรก ได้รับทุกข์เวทนาแสนสาหัส ชาวฮินดูเชื่อว่าวิญญาณเป็นอมตะ ดังนั้นไม่ใช่ศพ ความตายเป็นเพียงวิญญาณออกจากร่างกาย ร่างกายเสื่อมโทรมอยู่ไม่เพียง แต่ วิญญาณเข้าร่างใหม่ หรือที่เรียกว่าการกลับชาติมาเกิดมันก็เหมือนใส่เสื้อผ้าเมื่อใช้งานเวลาจะกลายเป็นเก่าโบราณ . ใส่ให้ใหม่ ดังนั้นจึงไม่มีวิญญาณเกิดตาย การเกิดการตายก็แค่ร่างกายเท่านั้น วิญญาณจะใช้ร่างใหม่ หรือที่เรียกว่าสังสารวัฏ . การย้ายวิญญาณความรู้สึก ตราบใดที่ไม่บรรลุ Moksha . ชาวฮินดูเชื่อว่าโมกษะคือเป้าหมายสูงสุดของชีวิตผู้ที่เข้าถึงโมกษะ ไปงานพรอมตลอดไป ไม่ รอบ ตายอีกแล้ว วิธีปฏิบัติเพื่อให้บรรลุโมกษะ สามวิธีเพื่อความรอดจะ
( 1 ) กรรม Marga ( ทางภาษี ) หรือ คาร์ลสเบอร์ก ออกจากพิธีกรรมและสังคม
ภาระผูกพัน( 2 ) Jnana Marga ( ทางความรู้ ) ซึ่งเป็นการใช้สมาธิกับสมาธินำหน้าโดยยาว และระบบจริยธรรม และจิตตการฝึกอบรมผ่านโยคะเพื่อเพิ่มความเข้าใจในตัวตนของพราหมณ์ .
( 3 ) ภักติมาร์กา ( เส้นทางของความจงรักภักดี ) ยึดมั่นในพระเจ้าส่วนตัว ชนิดที่แตกต่างกันของผู้คนค้นหาหนึ่งในสามเหมาะสมกับกรรมของตน