Case # 3 – Glen Canyon Dam [ref.]Th

Case # 3 – Glen Canyon Dam [ref.]

The Situation
One of the highest profile uses of the contingent valuation method in water resources management involved the re-regulation of Glen Canyon dam. In the early 1980’s it
became clear that continued operation of the dam to provide peak-load power was adversely affecting the downstream ecosystem in the Grand Canyon, and significantly reducing the quality of recreational rafting. The valuation question of concern was how much recreational rafting was worth, compared to the market value of the peak-load power supply.


Application
The Bureau of Reclamation and National Park Service worked with a consulting firm to develop a contingent valuation survey to estimate how the value of rafting changed with different flows in the Grand Canyon. The study attempted to quantify how the value of rafting in the Grand Canyon would change with more even base flows, as compared to reduced flows during peak-power periods. The study found substantial economic values for rafting with increased water flows – $2 million per year.

As in the Mono Lake study, the impact of the contingent valuation analysis helped change perspectives about how economic tradeoffs should be discussed. Rather than recreation versus hydropower, the challenge was now to find a release pattern that increased the economic value of all uses of the river water.


Results
For a variety of reasons, more even flows were put into place while the final environmental impact studies were being prepared, and Congress formalized these flows when it passed the Grand Canyon Protection Act of 1992. Whatever the effects of the contingent valuation study on that decision, the study did represent one of the first federally-funded projects to estimate non-use values. It was also one of the first contingent valuation studies included as part of a federally funded economic analysis.


Additional Research
As it became clear that more than recreation was at stake in re-regulation of the dam, it became more obvious that citizens throughout the U.S., not just rafters, cared about how dam operations affected the natural resources of the Grand Canyon. In particular, people were concerned about threatened and endangered fish, native vegetation, and birds, which were all being adversely affected by "unnatural" water flows and a lack of high spring water flows. As a result, the Bureau of Reclamation funded a major contingent valuation study of households throughout the U.S. to estimate their willingness to pay for flow regimes that would protect the natural resources in the Grand Canyon.

The results showed strong support for a more natural flow regime. While it would be difficult to point to any one study as definitively affecting the management of the Glen Canyon dam, the public support illustrated through the contingent valuation study, and in other ways, resulted in substantial changes in the management of the dam. This included large spills during the spring of 1995 to emulate the natural high spring flows.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรณี#3 – เกล็นแคนยอนดำ [อ้างอิง]สถานการณ์การใช้ส่วนกำหนดค่าสูงสุดของวิธีการประเมินค่าของกองทัพในการจัดการทรัพยากรน้ำอย่างใดอย่างหนึ่งเกี่ยวข้องกับข้อบังคับใหม่ของเขื่อนแคนยอนเกล็น ในทศวรรษ 1980 ของมันกลายเป็นความชัดเจนที่มีต่อการดำเนินงานของเขื่อนเพื่อให้พลังงานสูงสุดโหลดส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศปลายน้ำในแกรนด์แคนยอน และลดคุณภาพของการล่องแก่งสัน คำถามประเมินความกังวลได้มากล่องแก่งสันถูกคุ้มค่า การเปรียบเทียบกับมูลค่าตลาดของพีคโหลดไฟ แอพลิเคชันบริการอุทยานแห่งชาติและสำนักงานถมทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแบบสำรวจประเมินกองการประเมินวิธีเปลี่ยนค่าของการล่องแก่ง ด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ในแกรนด์แคนยอน การศึกษาพยายามที่จะกำหนดปริมาณวิธีจะเปลี่ยนค่าของการล่องแก่งในแกรนด์แคนยอน ด้วยขั้นตอนพื้นฐานแม้เพิ่มเติม เป็น compared เพื่อลดขั้นตอนในระหว่างรอบระยะเวลาการใช้พลังงานสูงสุด การศึกษาพบว่าค่าทางเศรษฐกิจที่พบสำหรับการล่องแก่งน้ำไหล – $2 ล้านต่อปีในศึกษาทะเลสาบโมโน ควรกล่าวถึงผลกระทบของการวิเคราะห์ประเมินกองทัพช่วยเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจวิธียืนยัน แทนที่จะพักผ่อนหย่อนใจเมื่อเทียบกับพลังงานน้ำ ความท้าทายได้ตอนนี้หารูปรุ่นที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งหมดใช้น้ำแม่น้ำ ผลลัพธ์สำหรับหลากหลายเหตุผล ขั้นตอนเพิ่มเติมแม้ใส่เข้าใน ขณะกำลังเตรียมศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมขั้นสุดท้าย สภา formalized ขั้นตอนเหล่านี้ได้ผ่านการกระทำป้องกันแกรนด์แคนยอนของ 1992 เพียงผลของการประเมินกองศึกษาที่ตัดสินใจ การศึกษาไม่ได้หมายถึงโครงการสนับสนุนเต็มที่แรกที่ประเมินค่าไม่ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ยังศึกษาแรกของมูลค่ากองรวมเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์เศรษฐกิจ funded เต็มอย่างใดอย่างหนึ่ง วิจัยเพิ่มเติมเป็นเป็นที่ชัดเจนว่า สันทนาการมากกว่าคือที่ในระเบียบใหม่ของเขื่อน เริ่มชัดเจนมากขึ้นว่า ประชาชนทั่วสหรัฐอเมริกา ไม่เพียง rafters ดูแลเกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานของเขื่อนได้รับผลกระทบทรัพยากรธรรมชาติแกรนด์แคนยอน โดยเฉพาะ คนมีความกังวลเกี่ยวกับปลาคาม และใกล้สูญพันธุ์ พืชพื้นเมือง และ นก ซึ่งมีทั้งหมดเป็นผลกระทบจาก "ธรรมชาติ" น้ำ ขาดสปริงสูงและกระแสน้ำไหล ผล สำนักงานถมสนับสนุนการศึกษามูลค่ากองทัพหลักของครัวเรือนทั่วสหรัฐอเมริกาในการประเมินนั้นยินดีที่จะจ่ายสำหรับระบอบกระแสที่จะปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในแกรนด์แคนยอน ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับระบอบการกระแสธรรมชาติ แม้มันจะยากที่จะชี้ไปที่การศึกษาหนึ่งเป็นแน่นอนส่งผลกระทบต่อการบริหารเขื่อนแคนยอนเกล็น สนับสนุนสาธารณะที่แสดง ผ่านการศึกษาประเมินกองทัพ และ ในผลในการเปลี่ยนแปลงที่พบในการจัดการของเขื่อน นี้รวมการหกรั่วไหลขนาดใหญ่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 1995 การจำลองขั้นตอนการน้ำพุธรรมชาติสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรณีที่ 3 - เกลนแคนยอนเขื่อน [Ref.] สถานการณ์หนึ่งของการใช้รายละเอียดที่สูงที่สุดของวิธีการประเมินผูกพันในการจัดการทรัพยากรน้ำที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมใหม่ของเขื่อนเกลนแคนยอน ในช่วงต้นปี 1980 ก็เป็นที่ชัดเจนว่าการดำเนินการอย่างต่อเนื่องของเขื่อนที่จะให้อำนาจสูงสุดโหลดได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศปลายน้ำในแกรนด์แคนยอนและช่วยลดคุณภาพของการล่องแพที่พักผ่อนหย่อนใจ คำถามการประเมินมูลค่าของความกังวลเป็นเท่าใดล่องแพพักผ่อนหย่อนใจก็คุ้มค่าเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดของยอดโหลดแหล่งจ่ายไฟ. แอพลิเคชันสำนักการบุกเบิกและบริการอุทยานแห่งชาติทำงานร่วมกับ บริษัท ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาการสำรวจการประเมินมูลค่าผูกพันที่จะประเมินว่า มูลค่าของการล่องแพกับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันในแกรนแคนยอน การศึกษาพยายามที่จะหาจำนวนวิธีมูลค่าของการล่องแพในแกรนแคนยอนจะเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสฐานมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับกระแสลดลงในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวพลังงาน ผลการศึกษาพบค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับการล่องแพที่มีการไหลของน้ำที่เพิ่มขึ้น -. $ 2,000,000 ต่อปีในขณะที่การศึกษาทะเลสาบโมโนผลกระทบของการวิเคราะห์การประเมินมูลค่าผูกพันช่วยเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจควรจะหารือ แทนที่จะพักผ่อนหย่อนใจกับพลังความท้าทายตอนนี้ที่จะหารูปแบบการใช้ชีวิตอิสระที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของการใช้งานทั้งหมดของน้ำในแม่น้ำ. ผลสำหรับหลากหลายเหตุผลมากขึ้นแม้กระแสถูกใส่ลงไปในขณะที่การศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสุดท้ายถูกเตรียมและการมีเพศสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกระแสเหล่านี้เมื่อมันผ่านพระราชบัญญัติคุ้มครองแกรนแคนยอนของปี 1992 ไม่ว่าผลของการศึกษาการประเมินราคาขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าการศึกษาไม่เป็นตัวแทนของหนึ่งในโครงการที่รัฐบาลได้รับการสนับสนุนเป็นครั้งแรกที่จะประเมินค่าไม่ใช้ มันก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาการประเมินมูลค่าผูกพันแรกรวมเป็นส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง. การวิจัยเพิ่มเติมในขณะที่มันเป็นที่ชัดเจนว่ามากกว่าการพักผ่อนหย่อนใจเป็นเดิมพันในการควบคุมใหม่ของเขื่อนมันก็กลายเป็นที่ชัดเจนมากขึ้นว่าประชาชนทั่วสหรัฐฯไม่เพียงจันทัน, การดูแลเกี่ยวกับวิธีการดำเนินงานเขื่อนได้รับผลกระทบทรัพยากรธรรมชาติของแกรนแคนยอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีความกังวลเกี่ยวกับปลาที่ถูกคุกคามและใกล้สูญพันธุ์พืชพื้นเมืองและนกซึ่งทุกคนได้รับผลกระทบในทางลบโดย "ธรรมชาติ" การไหลของน้ำและการขาดการไหลของน้ำในฤดูใบไม้ผลิสูง เป็นผลให้สำนักงานการบุกเบิกได้รับทุนการศึกษาการประเมินมูลค่าผูกพันที่สำคัญของผู้ประกอบการทั่วสหรัฐฯที่จะประเมินความเต็มใจที่จะจ่ายสำหรับระบอบการไหลที่จะปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในแกรนด์แคนยอน. ผลการศึกษาพบการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับการไหลเป็นธรรมชาติมากขึ้น . ในขณะที่มันจะเป็นเรื่องยากที่จะชี้ให้การศึกษาคนใดคนหนึ่งเป็นผลกระทบต่อการแตกหักจัดการของเขื่อนเกลนแคนยอนที่แสดงการสนับสนุนจากประชาชนผ่านการศึกษาการประเมินมูลค่าผูกพันและในรูปแบบอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในการบริหารจัดการของเขื่อน นี้รวมถึงการรั่วไหลขนาดใหญ่ช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 1995 ที่จะเลียนแบบฤดูใบไม้ผลิธรรมชาติสูงไหล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรณี# 3 –เกลนแคนยอนเขื่อน [ อ้างอิง ]


หนึ่งสถานการณ์ของโปรไฟล์สูงใช้วิธีมูลค่าที่อาจเกิดขึ้นในการจัดการทรัพยากรน้ำที่เกี่ยวข้องเรื่องระเบียบของเกลนแคนยอนเขื่อน ในช่วงต้นปี 1980 มัน
เป็นที่ชัดเจนว่ายังคงดำเนินงานของเขื่อนเพื่อให้พลังงานโหลดสูงสุดที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศท้ายน้ำในแคนยอนแกรนด์และการลดคุณภาพของนันทนาการล่องแพ . ราคาถามของความกังวลคือเท่าใดนันทนาการล่องแพก็คุ้มค่า เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดของยอดโหลดไฟฟ้า



ใบสมัครสำนักฟื้นฟูและบริการอุทยานแห่งชาติ ทำงานกับ บริษัท ที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแบบสำรวจการประเมินโดยประเมินว่ามูลค่าของการเปลี่ยนแปลงกับการไหลที่แตกต่างกันในแกรนด์ แคนยอน การศึกษาพยายามที่จะหาวิธีมูลค่าของการล่องแก่งในแกรนด์แคนยอนจะเปลี่ยนด้วยยิ่งฐานไหล เมื่อเทียบกับการไหลในช่วงพลังงานสูงสุดผลการศึกษาพบว่า คุณค่าทางเศรษฐกิจมากสำหรับล่องแก่งน้ำเพิ่มขึ้นและไหล 2 ล้านเหรียญต่อปี ในการศึกษา

เป็นทะเลสาบโมโน ผลกระทบของการวิเคราะห์การประเมินโดยช่วยเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับ tradeoffs เศรษฐกิจควรจะกล่าวถึง นันทนาการมากกว่าเมื่อเทียบกับโครงการความท้าทายคือตอนนี้หาปล่อยลวดลายที่เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของการใช้น้ำในแม่น้ำผล



สำหรับหลากหลายเหตุผลมากขึ้น แม้กระแสจะถูกใส่ลงไปในสถานที่ในขณะที่การศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมสุดท้ายถูกเตรียมและรัฐสภาคราวกระแสเหล่านี้ เมื่อมันผ่านแกรนด์แคนยอนพระราชบัญญัติคุ้มครองของ 1992ไม่ว่าผลการศึกษาการประเมินโดยการตัดสินใจว่า การได้เป็นตัวแทนของหนึ่งในโครงการแรกกองทุนสหรัฐประมาณการไม่ใช้ค่า มันยังเป็นหนึ่งในแรกการศึกษาการประเมินโดยรวมเป็นส่วนหนึ่งของกองทุนสหรัฐเศรษฐกิจ การวิเคราะห์ การวิจัยเพิ่มเติม



มันก็กลายเป็นที่ชัดเจนว่ามากกว่าการพักผ่อนหย่อนใจเป็นเดิมพันในเรื่องกฎระเบียบของเขื่อนมันจะกลายเป็นชัดเจนมากขึ้นว่าประชาชนทั่วสหรัฐ ไม่ใช่แค่เรื่องการ rafters cared เขื่อนมีผลต่อทรัพยากรธรรมชาติของแกรนด์ แคนยอน โดยเฉพาะประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับการคุกคามและใกล้สูญพันธุ์ปลาพื้นเมือง พืชผัก และนก ซึ่งทั้งหมดถูกผลกระทบจาก " กระแสน้ำผิดธรรมชาติ " และขาดกระแสน้ำสปริงสูง ผลสำนักงานกองทุนฟื้นฟูเป็นหลัก โดยมูลค่าการศึกษาของครัวเรือนทั่วสหรัฐเพื่อการประเมินความเต็มใจที่จะจ่ายสำหรับการไหลของระบบที่จะปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในแกรนด์ แคนยอน

พบการสนับสนุนที่แข็งแกร่งสำหรับการไหลของธรรมชาติมากขึ้น การปกครองในขณะที่มันอาจจะยากที่จะศึกษาใดที่มีผลต่อการแตกหักของเกลนแคนยอนเขื่อน รองรับประชาชนแสดงผ่านการศึกษาจากการประเมินมูลค่า และในรูปแบบอื่น ๆ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในการจัดการเขื่อน นี้รวมรั่วไหลขนาดใหญ่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 1995 เพื่อเลียนแบบฤดูใบไม้ผลิธรรมชาติสูงไหล