Regensburg’s cityscape survived the

Regensburg’s cityscape survived the Second World War almost
untouched and boasts an unusually rich stock of
Romanesque and Gothic architecture. The historical density
combined with the over all impressive appearance of Old
Town architecture, constitutes an ensemble on both sides of
the Steinerne Brücke: a mediaeval urban arrangement which
can be readily experienced. The area adopted by UNESCO into
its World Heritage List encompasses the Old Town of Regensburg
with Stadtamhof. It embraces 960 individual monuments
and listed buildings within an area of 183 hectares.
In 179 A.D., the Romans established a military outpost at the
northernmost point of the Danube to secure borders against
the Germanic tribes. Following the withdrawal of the Romans
as a military force, the outpost developed into a civilian
settlement. In the following centuries the town grew into
Bavaria’s first centre of religion, politics and business before
it was compelled to relinquish its political autonomy in 1810,
passing into the Kingdom of Bavaria.
By 1320, the town had stretched to the boundaries which it
was to retain for over 500 years. The former footprint of the
city can still be discerned by the green belt, established in
front of the city wall from 1778 onwards. Only in the 19th century
did the city spill out over its mediaeval core.
The Stadtamhof district on the northern bank of the Danube
was closely linked with Regensburg, even if it never belonged
to the Imperial City of Regensburg, but belonged to the
State of Bavaria instead. Stadtamhof was incorporated into
the City in 1924.
Today the Old City with Stadtamhof is a central and vibrant
inner-city area. Here you will find the most diverse usage:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไปของ Regensburg รอดชีวิตสงครามโลกครั้งสองเกือบสมบูรณ์ และมีหุ้นร่ำรวยผิดปกติของสถาปัตยกรรมโรมันและกอธิค ความหนาแน่นทางประวัติศาสตร์รวมกว่าลักษณะการประทับใจทั้งหมดของเก่าสถาปัตยกรรมเมือง ถือเป็นวงดนตรีทั้งสองด้านของSteinerne Brücke: จัดที่เมือง mediaeval ซึ่งสามารถมีประสบการณ์พร้อม รับรอง โดยองค์การยูเนสโกเป็นพื้นที่เมืองเก่า Regensburg ครอบคลุมรายชื่อมรดกโลกกับ Stadtamhof มันนำอนุสาวรีย์ละ 960และอาคารที่อยู่ภายในพื้นที่ของเฮคเตอร์ 183ในคศ. 179 ชาวโรมันก่อตั้งหน้าด่านทหารที่จะจุดเหนือสุดของแม่น้ำดานูบทางเส้นขอบกับชนเผ่าตระกูล วิธีถอนของชาวโรมันเป็นกำลังทหาร หน้าด่านพัฒนาเป็นพลเรือนการชำระเงิน ในศตวรรษต่อไปนี้ เมืองที่เติบโตในศูนย์แรกของบาวาเรียของศาสนา การเมือง และธุรกิจก่อนไม่ได้ทำให้สละความอิสระทางการเมืองใน 1810ผ่านเข้าสู่ราชอาณาจักรบาวาเรียโดย 1320 เมืองมียืดไปขอบเขตได้ที่คือการ รักษานานกว่า 500 ปี รอยเก่าของยังจะเข้าใจเมือง โดยสายพานสีเขียว ก่อตั้งขึ้นในหน้ากำแพงเมืองจาก 1778 เป็นต้นไป ในศตวรรษที่ 19 เท่านั้นได้ห้องเล็กออกหลักของ mediaevalอำเภอ Stadtamhof บนฝั่งเหนือของแม่น้ำดานูบได้ใกล้ชิดเชื่อมโยงกับ Regensburg แม้ว่ามันไม่เคยอยู่การอิมพีเรียลซิตี้ของ Regensburg แต่เป็นสมาชิกรัฐแห่งบาวาเรียแทน Stadtamhof ถูกรวมอยู่ในเมืองใน 1924วันนี้เมืองเก่ากับ Stadtamhof เป็นกลาง และพร้อมภายในเมือง ที่นี่คุณจะพบการใช้งานที่หลากหลายมากที่สุด:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

cityscape
ของเจ้นรอดชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่สองเกือบจะแตะต้องและที่นี่มีสต็อกที่อุดมไปด้วยปกติโรมันและสถาปัตยกรรมแบบกอธิค
ความหนาแน่นของประวัติศาสตร์รวมกับลักษณะที่น่าประทับใจไปทั่วเก่าสถาปัตยกรรมเมืองที่ถือว่าเป็นวงดนตรีทั้งสองด้านของSteinerne Brücke: การจัดการเมืองในยุคกลางซึ่งสามารถมีประสบการณ์ได้อย่างง่ายดาย พื้นที่ที่นำโดยยูเนสโกลงไปในรายชื่อมรดกโลกไซเบอร์ของเมืองเก่าของเจ้นกับStadtamhof มันโอบกอด 960 อนุเสาวรีย์ของแต่ละบุคคลและอาคารอยู่ภายในพื้นที่183 เฮกตาร์. ใน 179 AD, โรมันจัดตั้งด่านทหารที่จุดเหนือสุดของแม่น้ำดานูบการรักษาความปลอดภัยชายแดนกับชนเผ่าดั้งเดิม ต่อไปนี้การถอนตัวของชาวโรมันเป็นกำลังทหารด่านพัฒนาเป็นพลเรือนนิคม ในศตวรรษที่ต่อไปนี้เมืองกลายเป็นศูนย์แรกของบาวาเรียของศาสนาการเมืองและธุรกิจก่อนที่มันจะถูกบังคับให้สละความเป็นอิสระทางการเมืองใน1810 ที่ผ่านมาในราชอาณาจักรบาวาเรีย. โดย 1320 เมืองได้ขยายให้ขอบเขตที่มันเป็นไปรักษามานานกว่า 500 ปี รอยอดีตของเมืองที่ยังคงสามารถมองเห็นได้จากสายสีเขียวก่อตั้งขึ้นในด้านหน้าของกำแพงเมืองจาก1778 เป็นต้นไป เฉพาะในศตวรรษที่ 19 ไม่เมืองรั่วไหลออกไปแกนกลางของมัน. อำเภอ Stadtamhof บนฝั่งเหนือของแม่น้ำดานูบที่เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเจ้นถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นไปImperial City เจ้น แต่เป็นของรัฐบาวาเรียแทน Stadtamhof เป็น บริษัท ในเมืองในปี1924 วันนี้เมืองเก่าที่มี Stadtamhof เป็นกลางและมีชีวิตชีวาในพื้นที่เขตเมืองชั้นใน ที่นี่คุณจะได้พบกับการใช้งานที่หลากหลายมากที่สุด:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เจ้นเป็น cityscape รอดสงครามโลกครั้งที่สองเกือบ
มิได้ถูกแตะต้องและมีหุ้นรวยผิดปกติ
โรมาเนสก์และสถาปัตยกรรมกอธิค ความหนาแน่นของประวัติศาสตร์
รวมกับลักษณะของสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจกว่าทุกเมืองเก่า
ถือเป็นวงดนตรีที่ทั้งสองด้านของ
steinerne br ü cke : สมัยกลาง จัดที่เมือง
สามารถพร้อมมีประสบการณ์บริเวณที่รับรองโดยยูเนสโกเป็นมรดกโลกที่ครอบคลุม
เมืองเก่าของเจ้น
กับสแตดแทม ฟ . มันกอด 960 อนุสาวรีย์บุคคล
และอาคารอยู่ภายในพื้นที่ 183 ไร่
ใน 179 AD , ชาวโรมันสร้างด่านทหาร ที่จุดเหนือสุดของแม่น้ำดานูบ

เพื่อรักษาความปลอดภัยชายแดนกับเผ่าเยอรมัน . ต่อการถอนเงินของโรมัน
เป็นทหาร , ด่านพัฒนาเป็นนิคมพลเรือน

ในศตวรรษต่อไปนี้เมืองเติบโตในศูนย์แรกของ
บาวาเรีย ศาสนา การเมือง และธุรกิจก่อน
มันถูกบังคับให้สละเอกราชทางการเมืองใน 1810
ผ่าน , ในอาณาจักรแห่งบาวาเรีย .
โดย 940 , เมืองมียืดขอบเขตซึ่งมัน
เพื่อรักษามานานกว่า 500 ปีรอยอดีตของเมืองยังสามารถเข้าใจได้ด้วย

เข็มขัดสีเขียว ก่อตั้งขึ้นในด้านหน้าของกำแพงเมืองจากเกมส์เป็นต้นไป เฉพาะในศตวรรษที่ 19
ได้เมืองทะลักออกมามากกว่าที่มีความสำคัญหลัก สแตดแทม ฟ
ตำบลบนฝั่งเหนือของแม่น้ำดานูบ
ถูกเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับเจ้น แม้ว่าจะเคยเป็นของ
ไปยังเมืองหลวงของเจ้น แต่เป็นของ
รัฐบาวาเรียแทน สแตดแทม ฟถูกรวมเข้าไปในเมืองในปี 1924
.
วันนี้เมืองเก่ากับสแตดแทม ฟเป็นส่วนกลางและพื้นที่เขตเมืองชั้นในสดใส
. ที่นี่คุณจะพบการใช้งานที่หลากหลายมากที่สุด :