Former deputy prime minister Chatur

Former deputy prime minister Chaturon Chaisaeng has petitioned the Administrative Court to rescind the Foreign Ministry's order revoking his passport, arguing that it was irrational.
Mr Chaturon filed the case on Wednesday, naming the Foreign Ministry, the Consular Affairs Department, the foreign minister, the permanent secretary for foreign affairs, the director-general of the Consular Affairs Department, the Royal Thai Police and police chief as the 1st-7th defendants.
The Foreign Ministry revoked Mr Chaturon's passport on Aug 19 last year at the request of the Royal Thai Police (RTP).
The RTP said Mr Chaturon failed to report to the National Council for Peace and Order and instead gave a press conference at the Foreign Correspondents Club of Thailand, leading to his arrest and being charged in the Bangkok Military Court.
Mr Chaturon said in the petition that the revocation of his passport was unreasonable because no warrants had been issued for his arrest. Moreover, at the time of the revocation, he was not going on an overseas trip.
He said he voluntarily turned himself in to the authorities on May 27, 2014 before the prosecutors indicted him in the military court and had been granted bail on the condition that he must not travel abroad without court permission.
Mr Chaturon said he believed the revocation of his passport was politically motivated because he had criticised the draft constitution and expressed political opinions, irritating those in power.
He said the Foreign Ministry's action against him was discriminatory, causing him a lot of damage, depriving him of freedom of travel and violating his human dignity.
Mr Chaturon said he had tried to seek explanations from the Foreign Ministry and the Consular Affairs Department and lodged an appeal according to the law, but had received no response. So he was now seeking help from the Administrative Court to lift the Foreign Ministry's order.
"The revocation of my passport is unlawful. I reserve the right to seek legal action and file a civil suit for damages against those concerned," he said.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อดีตรองนายกรัฐมนตรีจาตุรนต์แสงมีอัคบายานศาลเพื่อ rescind ของกระทรวงต่างประเทศสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางของเขา โต้เถียงว่า เป็นจำนวนอตรรกยะนายจาตุรนต์ยื่นกรณีพุธ ตั้งชื่อ กระทรวงต่างประเทศ กรมกิจการติดต่อกงศุล รัฐมนตรีต่างประเทศ เลขานุการถาวรที่ต่างประเทศ อธิบดี กรมกิจการติดต่อกงศุล ตำรวจ และตำรวจหัวหน้าเป็นจำเลย 1 7กระทรวงต่างประเทศยกเลิกพาสปอร์ตของนายจาตุรนต์ในวันที่ 19 สิงหาคมปีขอของรอยัลไทยตำรวจ (RTP)RTP กล่าวว่า นายจาตุรนต์ล้มเหลวในการรายงานให้สภาแห่งชาติสงบเรียบร้อย และให้แถลงข่าวแทน ที่การต่างประเทศร่วมคลับไทย นำไปสู่การจับกุมของเขาและการเรียกเก็บในศาลทหารกรุงเทพนายจาตุรนต์กล่าวว่า ในคำขอให้เพิกถอนหนังสือของเขาถูก unreasonable เนื่องจากมีการออกใบสำคัญแสดงสิทธิไม่จับเขา นอกจากนี้ ในขณะการเพิกถอน เขาไม่กำลังในการเดินทางต่างประเทศเขากล่าวว่า เขาเต็มใจเปิดตัวเองในหน่วย 27 may, 2014 ก่อนที่พนักงานอัยการฟ้องเขาในศาลทหาร และได้รับการประกันตัวให้เขาต้องไม่เดินทางต่างประเทศไม่ได้รับอนุญาตของศาลนายจาตุรนต์กล่าวว่า เขาเชื่อว่า การเพิกถอนหนังสือของเขามีแรงจูงใจทางการเมืองเนื่องจากเขามี criticised ร่างรัฐธรรมนูญ และแสดงความคิดเห็นทางการเมือง การระคายเคืองในพลังงานเขากล่าวว่า การดำเนินการของกระทรวงต่างประเทศเขาไม่โจ่งแจ้ง ทำให้เขาเสียหายมาก depriving เขาของเสรีภาพในการเดินทาง และละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขานายจาตุรนต์กล่าวว่า เขาได้พยายามแสวงหาคำอธิบายจากกระทรวงต่างประเทศและกรมกิจการติดต่อกงศุล และการอุทธรณ์ตามกฎหมาย แต่ได้รับการตอบสนองต่อศาล ดังนั้น เขาถูกตอนนี้กำลังช่วยเหลือจากศาลจะยกกระทรวงต่างประเทศสั่ง"เพิกถอนหนังสือของฉันเป็น ผมขอสงวนสิทธิ์ในการแสวงหาการดำเนินการทางกฎหมาย และแฟ้มชุดแพ่งสำหรับความเสียหายต่อผู้เกี่ยวข้อง, "เขากล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อดีตรองนายกรัฐมนตรีจาตุรนต์ฉายแสงได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้ยกเลิกคำสั่งกระทรวงต่างประเทศเพิกถอนหนังสือเดินทางของเขาเถียงว่ามันก็ไม่มีเหตุผล.
นายจาตุรนต์ฟ้องคดีในวันพุธที่ตั้งชื่อกระทรวงต่างประเทศกรมการกงสุลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศผู้อำนวยการทั่วไปของกรมการกงสุลสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหัวหน้าตำรวจเป็นจำเลยที่ 1 7.
กระทรวงการต่างประเทศเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายจาตุรนต์บน 19 สิงหาคมปีที่ผ่านมาตามคำขอของไทยตำรวจ (RTP).
RTP กล่าวว่านายจาตุรนต์ล้มเหลวในการรายงานต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติและแทนที่จะให้การแถลงข่าวที่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยที่นำไปสู่การจับกุมและถูกเรียกเก็บเงินในกรุงเทพฯทหารศาล.
นายจาตุรนต์กล่าวว่า ในการยื่นคำร้องว่าการเพิกถอนหนังสือเดินทางของเขาก็ไม่มีเหตุผลเพราะไม่มีใบสำคัญแสดงสิทธิที่ได้รับการออกสำหรับการจับกุมของเขา นอกจากนี้ในช่วงเวลาของการเพิกถอนที่เขาไม่ได้ไปในการเดินทางในต่างประเทศ.
เขาบอกว่าเขาสมัครใจหมุนตัวไปยังหน่วยงานใน 27 พฤษภาคม 2014 ก่อนที่อัยการฟ้องเขาในศาลทหารและได้รับการประกันตัวในสภาพ ว่าเขาจะต้องไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล.
นายจาตุรนต์กล่าวว่าเขาเชื่อว่าการเพิกถอนหนังสือเดินทางของเขาเป็นแรงจูงใจทางการเมืองเพราะเขาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเกิดการระคายเคืองผู้ที่อยู่ในอำนาจ.
เขากล่าวว่าการกระทำของกระทรวงต่างประเทศกับเขาคือการเลือกปฏิบัติ ทำให้เขาเสียหายจำนวนมากพรากเขาของเสรีภาพในการเดินทางและการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขา.
นายจาตุรนต์กล่าวว่าเขาได้พยายามที่จะแสวงหาคำอธิบายจากกระทรวงต่างประเทศและกงสุลกรมและได้ยื่นอุทธรณ์ตามกฎหมาย แต่ได้รับ ไม่มีการตอบสนอง ดังนั้นตอนนี้เขากำลังแสวงหาความช่วยเหลือจากศาลปกครองที่จะยกคำสั่งของกระทรวงต่างประเทศ.
"การเพิกถอนพาสปอร์ตของฉันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย. ฉันขอสงวนสิทธิ์ที่จะแสวงหาการดำเนินการตามกฎหมายและยื่นคดีแพ่งความเสียหายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง" เขากล่าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อดีตรองนายกรัฐมนตรีจาตุรนต์ Chaisaeng ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อเพิกถอนกระทรวงต่างประเทศสั่งเพิกถอนพาสปอร์ตเถียงว่ามันไม่มีเหตุผล
นายจาตุรนต์ ได้ยื่นคดีวันพุธ , ตั้งชื่อกระทรวงการต่างประเทศ , กรมการกงสุล , กระทรวงการต่างประเทศ , ปลัดกระทรวงการต่างประเทศอธิบดีกรมการกงสุล , สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจเป็นจำเลย 1st-7th .
กระทรวงการต่างประเทศยกเลิกหนังสือเดินทางของนายจาตุรนต์ เมื่อ 19 ส.ค. ปีที่แล้ว ตามคำขอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
( RTP )นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การส่งสัญญาณที่ล้มเหลวในการรายงานต่อสภาเพื่อสันติภาพและความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ และแทน ได้แถลงข่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ส่งผลให้เขาจับและถูกตั้งข้อหาในศาลทหาร กรุงเทพฯ นายจาตุรนต์กล่าวว่า ในคำร้อง
ว่าการเพิกถอนพาสปอร์ต เป็นเรื่องไร้เหตุผล เพราะไม่มีหมายจับได้ออก สำหรับการจับกุมของเขา นอกจากนี้ในเวลาของการยกเลิก เขาก็ไม่ไปเที่ยวต่างประเทศ .
เขาสมัครใจเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2014 ก่อนที่อัยการฟ้องเขาในศาล ทหาร และได้รับอนุญาตให้ประกันตัว โดยมีข้อแม้ว่าเขาต้องเดินทางไปต่างประเทศ โดยศาลอนุญาต .
นายจาตุรนต์กล่าวว่าเขาเชื่อว่าการยกเลิกหนังสือเดินทางของเขาถูกกระตุ้นทางการเมือง เพราะเขาเคยวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญและแสดงออกความคิดเห็นทางการเมือง น่ารําคาญในเรื่องของพลัง
เขาบอกว่าการกระทำของกระทรวงต่างประเทศของกับเขาคือการ ทำให้เขาเสียหายมากพรากเขาจากเสรีภาพในการเดินทางและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขา .
นายจาตุรนต์กล่าวว่า เขาได้พยายามที่จะหาคำอธิบายจากกระทรวงการต่างประเทศ และกรมการกงสุล และยื่นขออุทธรณ์ตามกฎหมาย แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง เขากำลังมองหาความช่วยเหลือจากศาลปกครองยกกระทรวงต่างประเทศสั่ง .
" ยกเลิกพาสปอร์ตผิดกฎหมาย .ผมขอสงวนสิทธิ์ที่จะแสวงหาตามกฎหมายและแฟ้มคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้ที่กังวล " เขากล่าว .