Among 827 cases of omphalocele, 309

Among 827 cases of omphalocele, 309 (37.4%) cases resulted in termination of pregnancy and stillbirth,
and 124 (15.0%) cases resulted in death in the first 7 days after delivery, yielding a perinatal mortality rate of 52.4%
(95% CI: 49.0–55.8%). The late fetal death rate (LFDR) of omphalocele that was diagnosed prenatally by ultrasound
was 15.91-fold (AOR: 15.91, 95% CI: 10.18–24.87) higher than that of postnatally diagnosed cases. The LFDR of
non-isolated omphalocele was 2.64-fold (AOR: 2.64, 95% CI: 1.62–4.29) higher than that of isolated cases. For the
early neonatal death rate, neonates with non-isolated omphalocele had a 2.96-fold (AOR: 2.96, 95% CI: 1.82–4.81)
higher risk than isolated cases, but the difference between prenatal ultrasound diagnosis and postnatal diagnosis
was not significant

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในกรณีสะดือโป่ง 827, 309 (37.4%) กรณีผลในสิ้นสุดของการตั้งครรภ์และทารกตายคลอดและ 124 (15.0%) กรณีทำให้ตายใน 7 วันแรกหลังคลอด อัตราการตายปริกำเนิด 52.4% ผลผลิต(95% CI: 49.0-55.8%) สายครรภ์อัตราการตาย (LFDR) ของสะดือโป่งที่มีการวินิจฉัย prenatally โดยอัลตร้าซาวด์มี 15.91-fold (อ้อ: 15.91, 95% CI: 10.18-24.87) สูงกว่าของการวินิจฉัย postnatally กรณี LFDR ของสะดือโป่งไม่แยกต่างหาก 2.64-fold (อ้อ: 2.64, 95% CI: 1.62-4.29) สูงกว่ากรณีที่แยก สำหรับการช่วงทารกแรกเกิดอัตราตาย neonates กับสะดือโป่งไม่แยกต่างหากได้ 2.96-fold (อ้อ: 2.96, 95% CI: 1.82 – 4.81)ความเสี่ยงสูงมากกว่ากรณีแยก แต่ความแตกต่างระหว่างอัลตร้าซาวด์ก่อนคลอดการวินิจฉัยและวินิจฉัย postnatalไม่สำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในหมู่พวกกรณีของกรดกัดแก้ว , 309 ( 37.4 % ) กรณีเป็นผลสิ้นสุดของการตั้งครรภ์และ stillbirth
และ 124 ( 15.0 % ) กรณีผลในการตายใน 7 วันแรกหลังคลอด ที่มีอัตราการตายปริกำเนิดของ 52.4 %
( 95% CI : 49.0 ( 5 % ) ายอัตราตายทารก ( lfdr ) ของกรดกัดแก้วเป็นนิจ prenatally โดยอัลตราซาวด์
คือ 15.91-fold ( aor : จำนวน , 95% CI : 10.18 – 2487 ) สูงกว่าของการวินิจฉัย postnatally กรณี การ lfdr ของ
ไม่แยกกรดกัดแก้วเป็น 2.64-fold ( aor : 2.64 , 95% CI : 1.62 ( 4.29 ) มากกว่าการแยกกรณี สำหรับเด็กแรกเกิดตาย
ก่อนอัตราทารกแรกเกิดที่ไม่แยกกรดกัดแก้วมี 2.96-fold ( aor : 2.96 , 95% CI : 1.82 – 4.81 ) ความเสี่ยง
สูงกว่าแยกกรณีแต่ความแตกต่างระหว่างการวินิจฉัยก่อนคลอดและหลังคลอดที่มีการวินิจฉัย
อย่างมีนัยสำคัญ