The television is a wonderful gift

The television is a wonderful gift of science. Indeed it is one of the seven wonders of modern science. An English scientist named Bayard invented the television in 1926. But the system had to be gradually improved by many other scientists before it could be successfully utilised by Bayard to make the modern television. How the system works: Television combines televised scenes with a take to reproducing sounds. This is done by installing a radio telephones at the two ends are thus able to hear and see each other. At the receiving station both the vision and the sound signals are made to pass through a radio frequency amplifier and frequency changer with the result that the signals devise themselves. In fact, the television is a system which employs mechanical photo, electrical and photo, electrical and wireless processes for reproducing scene, object, etc. at a distance. In many ways the method has the likeness to that of the cinema. The difference is that in the cinema pictures on a long film are reproduced while in the television an actual moving figures: i. e. the face of a speaker or of an actor is reproduced. Its importance: Television is a great improvement over the radio. Only by hearing a man’s speaking we may not understand him fully, but we both see and hear him his speech is likely to produce greater effect on our minds. It is thus clear that the television has a very great importance. Its growing popularity shows that it can be an effective instrument of entertainment and valuable medium of instruction. In western countries, it has already been playing this role with greater and greater success. In Bangladesh a Television station has been set up at Dhaka. It is hoped that this powerful organ of entertainment and instruction will have a network throughout the country before long.

Conclusion: Television is a popular invention of modern science. It is, however, very costly.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โทรทัศน์เป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมของวิทยาศาสตร์ อันที่จริงก็เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ นักวิทยาศาสตร์อังกฤษชื่อเบยาร์ดคิดค้นโทรทัศน์ในปี 1926 แต่ระบบจะต้องมีการปรับตัวดีขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์อื่น ๆ อีกมากมายก่อนที่มันจะประสบความสำเร็จโดยใช้เบยาร์ดที่จะทำให้โทรทัศน์ที่ทันสมัย วิธีการทำงานของระบบ: โทรทัศน์รวมการถ่ายทอดสดที่มีฉากใช้เวลาในการทำซ้ำเสียง นี้จะกระทำโดยการติดตั้งโทรศัพท์วิทยุที่ปลายทั้งสองข้างจึงสามารถที่จะได้ยินและเห็นกัน ที่สถานีที่ได้รับทั้งวิสัยทัศน์และสัญญาณเสียงที่ทำผ่านเครื่องขยายเสียงความถี่คลื่นวิทยุและเปลี่ยนความถี่มีผลว่าสัญญาณประดิษฐ์ตัวเอง ในความเป็นจริงทางโทรทัศน์เป็นระบบซึ่งมีพนักงานรูปภาพเครื่องกลไฟฟ้าและภาพกระบวนการไฟฟ้าและไร้สายสำหรับการทำซ้ำที่เกิดเหตุวัตถุ ฯลฯ ที่ระยะทาง ในหลาย ๆ วิธีการที่มีความคล้ายคลึงกันกับที่ของโรงภาพยนตร์มา แตกต่างก็คือในภาพโรงภาพยนตร์ในภาพยนตร์เรื่องยาวจะทำซ้ำในขณะที่โทรทัศน์ที่ตัวเลขการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจริง: คือใบหน้าของลำโพงหรือนักแสดงที่จะทำซ้ำ ความสำคัญ: โทรทัศน์คือการปรับปรุงที่ดีผ่านทางวิทยุ โดยเฉพาะการได้ยินการพูดของผู้ชายคนหนึ่งที่เราอาจจะไม่เข้าใจเขาอย่างเต็มที่ แต่เราทั้งสองได้เห็นและได้ยินคำพูดของเขาเขามีแนวโน้มที่จะผลิตผลมากขึ้นในจิตใจของเรา เป็นที่ชัดเจนว่าโทรทัศน์จึงมีความสำคัญมาก ความนิยมที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่ามันสามารถที่จะมีผลบังคับใช้เป็นเครื่องมือของความบันเทิงและสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณค่าของ ในประเทศตะวันตกจะได้รับแล้วเล่นบทบาทนี้กับความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้น ในบังคลาเทศเป็นสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นที่กรุงธากา ก็หวังว่าอวัยวะที่มีประสิทธิภาพของความบันเทิงและการเรียนการสอนจะมีเครือข่ายทั่วประเทศก่อนที่จะยาว. สรุป: โทรทัศน์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับความนิยมของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ มันเป็น แต่ค่าใช้จ่ายสูงมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โทรทัศน์เป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมของวิทยาศาสตร์ แน่นอนมันเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ ภาษาอังกฤษชื่อเบยาร์ดนักวิทยาศาสตร์คิดค้นโทรทัศน์ใน 1926 . แต่ระบบจะค่อยๆ ดีขึ้น โดยนักวิทยาศาสตร์อื่น ๆอีกมากมายก่อนที่จะสามารถนำไปใช้โดยผู้กล้าเพื่อให้โทรทัศน์ที่ทันสมัย ระบบทำงานอย่างไร :ออกอากาศโทรทัศน์รวมฉากกับใช้เพื่อสร้างเสียง นี้จะกระทำโดยการติดตั้งวิทยุ โทรศัพท์ที่ปลายทั้งสองจึงสามารถได้ยินและเห็นแต่ละอื่น ๆ ที่สถานีรับสัญญาณทั้งภาพและเสียงจะทำให้ผ่านเครื่องขยายเสียงวิทยุความถี่และความถี่เปลี่ยนด้วยผลว่าสัญญาณที่ประดิษฐ์เอง ในความเป็นจริงโทรทัศน์เป็นระบบ ซึ่งมีภาพถ่ายรูปไฟฟ้าเครื่องกลและไฟฟ้าไร้สายเพื่อสร้างกระบวนการและเหตุการณ์ , วัตถุ , ฯลฯ ที่ระยะทาง ในหลาย ๆวิธีก็เหมือนที่หนัง ความแตกต่างคือว่าในหนัง ภาพบนฟิล์มยาวทำซ้ำในขณะที่ในโทรทัศน์จริง ย้ายตัวเลข : เช่นใบหน้าของผู้พูด หรือดารา จะทำซ้ำ . ความสำคัญของมันคือการปรับปรุงที่ดีกว่าโทรทัศน์วิทยุ เพียงได้ยินผู้ชายพูดเราอาจจะไม่เข้าใจเขาอย่างเต็มที่ แต่เราเห็นและได้ยินเขาพูดของเขามีแนวโน้มที่จะสร้างผลกระทบมากขึ้นในจิตใจของเรา ดังนั้นจึงเป็นที่ชัดเจนว่าโทรทัศน์มีความสำคัญมากความนิยมเติบโตของแสดงให้เห็นว่ามันสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อความบันเทิงและสื่อที่มีคุณค่าของการสอน ในประเทศตะวันตก มันได้ถูกเล่นบทบาทนี้ที่มีมากขึ้นและมากขึ้นประสบความสำเร็จ สถานีโทรทัศน์ในบังคลาเทศได้รับการตั้งค่าที่ธากาก็หวังว่าอวัยวะนี้มีประสิทธิภาพของความบันเทิงและการสอนจะมีเครือข่ายทั่วประเทศ ก่อนที่จะยาว

สรุป : โทรทัศน์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่นิยมของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ มันเป็น , อย่างไรก็ตาม ,
ราคาแพงมาก