Vinegar is produced from raw materi

Vinegar is produced from raw materials containing starch
or sugar via sequential ethanol and acetic acid fermentations
(FAO/WHO 1982) and is used in a variety of food applications
(T¨urker 1963; Tan 2005). Grape, apple, and other fruit juices are
the primary starting materials used for vinegar production (Adams
1985) although rice vinegar,malt vinegar, and beer vinegar are also
produced in some countries. The production of vinegar typically
involves a first fermentation where simple sugars in raw material
are converted to alcohol by yeasts. The resultant alcohol is further
oxidized to acetic acid by AAB during the last fermentation
(Gullo and Giudici 2008). Several methods of vinegar production
exist but primarily 2 methods are used commercially. The first
is a traditional method classified as a “surface method” in which
the culture of AAB grows on the surface of wood shavings and
provides oxygen at the surface. The second method, classified as
a “submerged culture” is a method in which oxygen is supplied
in fermentation to accelerate industrial production (Garcia-Parilla
and others 1997). The general production method for vinegar is
shown in Figure 1.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำส้มสายชูที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ประกอบด้วยแป้งหรือน้ำตาล ด้วยเอทานอลและกรดอะซิติกที่ต่อเนื่องจากการหมักแหนม(FAO / WHO 1982) และใช้ในอาหารได้หลากหลาย(T¨urker 1963 Tan 2005) องุ่น แอปเปิ้ล และผลไม้อื่น ๆวัสดุเริ่มต้นหลักที่ใช้ในการผลิตน้ำส้มสายชู (Adams1985) แม้ว่าข้าวน้ำส้มสายชู น้ำส้มสายชูข้าวมอลต์ และเบียร์น้ำส้มสายชูผลิตในบางประเทศ การผลิตน้ำส้มสายชูโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการหมักครั้งแรกที่ง่ายน้ำตาลในวัตถุดิบจะถูกแปลงเป็นแอลกอฮอล์ได้ โดย yeasts ดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผลลัพธ์เพิ่มเติมออกซิไดซ์กรดอะซิติกโดย AAB ระหว่างการหมักครั้งสุดท้าย(Gullo และ Giudici 2008) หลายวิธีการผลิตน้ำส้มสายชูมี แต่หลักการใช้ในเชิงพาณิชย์ ครั้งแรกวิธีการแบบดั้งเดิมจัดเป็นวิธีการ"พื้นผิว" ที่วัฒนธรรมของ AAB เติบโตบนผิวของขี้กบ และให้ออกซิเจนที่ผิว วิธีที่สอง เป็น"วัฒนธรรมจม" เป็นวิธีการที่ให้ออกซิเจนในการหมักเพื่อเร่งการผลิตภาคอุตสาหกรรม (การ์เซีย Parillaและอื่น ๆ ปี 1997) เป็นวิธีการทั่วไปสำหรับน้ำส้มสายชูแสดงในรูปที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำส้มสายชูที่ผลิตจากวัตถุดิบที่มีแป้ง
หรือน้ำตาลเอทานอลผ่านลำดับและกระบวนการหมักกรดอะซิติก
(FAO / WHO 1982) และใช้ในความหลากหลายของโปรแกรมอาหาร
(T¨urker 1963; Tan 2005) องุ่นแอปเปิ้ลและน้ำผลไม้อื่น ๆ ที่มี
วัสดุหลักเริ่มต้นที่ใช้สำหรับการผลิตน้ำส้มสายชู (อดัมส์
1985) แม้ว่าน้ำส้มสายชูข้าวมอลต์น้ำส้มสายชูและน้ำส้มสายชูเบียร์นอกจากนี้ยังมี
การผลิตในบางประเทศ การผลิตน้ำส้มสายชูมักจะ
เกี่ยวข้องกับการหมักครั้งแรกที่น้ำตาลง่ายในวัตถุดิบ
จะถูกแปลงเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยยีสต์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผลอยู่ไกล
ออกซิไดซ์กรดอะซิติกโดย AAB ระหว่างการหมักที่ผ่านมา
(Gullo และ Giudici 2008) วิธีการต่างๆของการผลิตน้ำส้มสายชู
อยู่ แต่ส่วนใหญ่ 2 วิธีการใช้ในเชิงพาณิชย์ ครั้งแรก
เป็นวิธีการแบบดั้งเดิมจัดเป็น "วิธีการพื้นผิว" ซึ่ง
วัฒนธรรมของ AAB เติบโตบนพื้นผิวของขี้กบและ
ให้ออกซิเจนที่พื้นผิว วิธีที่สองจัดเป็น
"วัฒนธรรมจมอยู่ใต้น้ำ" เป็นวิธีการในการที่ออกซิเจนจะถูกจัด
อยู่ในการหมักเพื่อเร่งการผลิตภาคอุตสาหกรรม (การ์เซีย Parilla
และคนอื่น ๆ 1997) วิธีการผลิตทั่วไปของน้ำส้มสายชูจะ
แสดงในรูปที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำส้มสายชูผลิตจากวัตถุดิบที่ประกอบด้วยแป้งหรือน้ำตาลแอลกอฮอล์และกรดอะซิติก fermentations ต่อเนื่องผ่าน( FAO / WHO 1982 ) และมีการใช้ในความหลากหลายของโปรแกรมอาหาร( ไม่ได้ตั้ง urker 1963 ; Tan 2005 ) องุ่น , แอปเปิ้ลและผลไม้อื่น ๆการเริ่มต้น วัสดุที่ใช้สำหรับการผลิตน้ำส้ม ( อดัมส์1985 ) แม้ว่าในน้ำส้มสายชู , น้ำส้มสายชูหมักและน้ำส้มสายชูเบียร์ยังมีผลิตในบางประเทศ การผลิตน้ำส้มสายชูโดยทั่วไปครั้งแรกที่เกี่ยวข้องกับการหมักน้ำตาลง่ายในวัตถุดิบจะถูกแปลงเป็นแอลกอฮอล์โดยยีสต์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์เพิ่มเติมจากกรดอะซิติกโดย AAB ในระหว่างการหมัก สุดท้าย( กูโล และ giudici 2008 ) หลายวิธีในการผลิตน้ำส้มสายชูแต่หลักอยู่ 2 วิธีคือใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ครั้งแรกเป็นวิธีแบบดั้งเดิมจัดเป็น " พื้นผิววิธี " ซึ่งวัฒนธรรมของ AAB เติบโตบนพื้นผิวของไม้กบและให้ออกซิเจนที่ผิว วิธีที่สอง จัดเป็น" วัฒนธรรม " จมอยู่ใต้น้ำเป็นวิธีการที่ออกซิเจนมาในการหมัก เพื่อเร่งการผลิตทางอุตสาหกรรม ( การ์เซีย parillaและคนอื่น ๆ พ.ศ. 2540 ) วิธีการผลิตน้ำส้มสายชูทั่วไป คือแสดงในรูปที่ 1