Research has shown, however, Minstr

Research has shown, however, Minstrell explained, that student performance
improves when the teachers and the curriculum purposefully
elicit students’ thinking about the topic of instruction and address possible
misconceptions. Formative assessment is the key to doing so, but
there are better and worse ways of using it. Sometimes, Minstrell and
his colleagues have found, the focus is on the teacher, on what has been
taught, and simply on whether the students “got it” or did not. The
results are used to assess the quantity and pace of planned instruction
and decide whether the teacher should go on or reteach. More effective,
Minstrell said, but less frequently done, is using formative assessment to
find out what understandings, including misconceptions or incomplete
knowledge, students have, and then to adjust instruction to promote
deeper understanding.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิจัยได้แสดงให้เห็น แต่ Minstrell อธิบาย ประสิทธิภาพการทำงานของนักเรียนที่ปรับปรุงเมื่อครูและหลักสูตรทุกบอกนักเรียนคิดหัวข้อของคำแนะนำและที่อยู่ได้ความเข้าใจผิด การประเมินความอุดมสมบูรณ์เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำเช่นนั้น แต่มีดี และเลวร้ายยิ่งวิธีใช้ Minstrell บางครั้ง และเพื่อนร่วมงานของเขาได้พบ โฟกัสอยู่ครู ในสิ่งที่ได้เรียน รู้ และเพียงแค่ว่านักเรียน "ได้เรื่อง" หรือไม่ ที่ใช้ผลการประเมินปริมาณและจังหวะของคำสั่งที่วางแผนไว้และตัดสินใจว่า ควรไป หรือ reteach ครู มีประสิทธิภาพมากขึ้นMinstrell กล่าวว่า แต่ ทำไม่บ่อย ใช้ประเมินความอุดมสมบูรณ์หาเปลี่ยนความเข้าใจอะไร รวมถึงความเข้าใจผิด หรือไม่สมบูรณ์ความรู้ เรียนได้ และการปรับปรุงการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมเข้าใจลึกซึ้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยได้แสดงให้เห็น แต่ Minstrell อธิบายประสิทธิภาพของนักเรียนที่
ช่วยเพิ่มเมื่อครูและหลักสูตรเด็ดเดี่ยว
ล้วงเอาความคิดของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องการเรียนการสอนที่เป็นไปได้และที่อยู่ของ
ความเข้าใจผิด การประเมินเป็นกุญแจสำคัญในการทำเช่นนั้น แต่
มีวิธีการที่ดีขึ้นและแย่ลงของการใช้มัน บางครั้ง Minstrell และ
เพื่อนร่วมงานของเขาได้พบความสำคัญกับครูในสิ่งที่ได้รับการ
สอนและก็อยู่กับว่านักเรียน "ได้รับมัน" หรือไม่
ผลที่จะใช้ในการประเมินปริมาณและก้าวของการเรียนการสอนการวางแผน
และตัดสินใจว่าครูควรจะไปหรือ reteach มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Minstrell กล่าว แต่ทำบ่อยน้อยกว่าคือการใช้การประเมินเพื่อ
หาสิ่งที่เข้าใจรวมทั้งความเข้าใจผิดหรือไม่สมบูรณ์
ความรู้นักเรียนมีแล้วในการปรับการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริม
ความรู้ความเข้าใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยได้ อย่างไรก็ตาม minstrell อธิบายว่านักเรียน
ปรับปรุงเมื่อครูและหลักสูตรตั้งใจ
กระตุ้นการคิดของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องการสอนและที่อยู่คลาดเคลื่อนไปได้

การประเมินความก้าวหน้าเป็นกุญแจสำคัญในการทำเช่นนั้น แต่
มีดีกว่าและด้อยวิธีใช้ บางครั้ง minstrell
และเพื่อนร่วมงานของเขาได้พบโดยจะเน้นที่ครู สิ่งที่ได้รับ
สอน และเพียงแค่ว่านักเรียน " เข้าใจ " หรือไม่
ผลที่ใช้ประเมินปริมาณและจังหวะของการสอนอย่างมีแบบแผน
และตัดสินใจว่าครูควรจะไปหรือ reteach . มีประสิทธิภาพมากกว่า
minstrell กล่าว แต่พบได้น้อยแล้ว ใช้ การประเมินย่อย

หาสิ่งที่ความเข้าใจรวมทั้งความเข้าใจผิดหรือไม่สมบูรณ์
ความรู้ , นักเรียน และเพื่อปรับการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริม
เข้าใจลึก