Table 3 presents the mean score of

Table 3 presents the mean score of the ten survey items about the effects of learning English through songs on the subjects’ listening English skill. The highest mean score was Item 12 (M=4.5) which meant that students thought that learning to English songs and reading the lyrics was helpful to their listening skill.
Then, the second was three Items have the same mean scores was the highest are number 13,16 and 14 (M=4.3) which suggested that students thought that listening to English songs and reading the lyrics help improve their spelling. They belief it was an easier way to learn English when compared to studying vocabulary lists. And it was found that the students liked to listening English songs and reading the lyrics because it is fun.
The third was two Items have the same mean scores was the high mean score are number 18 and 17 (M=4.2) which suggested that listening to English songs while reading the lyrics improved their pronunciation. Also, it was shown that it would contribute to their learning of English if they could make their own selected of songs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตาราง 3 แสดงคะแนนเฉลี่ยของสินค้าสำรวจสิบเกี่ยวกับผลของการเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงในเรื่องของทักษะภาษาอังกฤษฟัง สินค้า 12 มีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด (M = 4.5) ซึ่งหมายความ ว่า นักเรียนคิดว่า เรียนกับเพลงภาษาอังกฤษ และอ่านเนื้อเพลงที่ให้ทักษะการฟัง แล้ว ที่สองสามสินค้าเดียวกันหมายถึง มีคะแนนสูงสุดเป็นหมายเลข 13,16 และ 14 (M = 4.3) ซึ่งแนะนำให้ นักเรียนคิดว่า ฟังเพลงภาษาอังกฤษ และอ่านเนื้อเพลงช่วยปรับปรุงการสะกด พวกเขาเชื่อมันเป็นวิธีง่ายต่อการเรียนภาษาอังกฤษเมื่อเทียบกับการศึกษารายการคำศัพท์ และก็พบว่านักเรียนชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษ และการอ่านเพลงได้สนุก ที่สามได้สองรายการเดียวกันหมายถึง คะแนนมีคะแนนเฉลี่ยสูงคือหมายเลข 17 และ 18 (M = 4.2) ซึ่งแนะนำให้ฟังเพลงภาษาอังกฤษในขณะที่อ่านเนื้อเพลงที่ดีขึ้นของพวกเขาออกเสียง ยัง มันถูกแสดงว่า มันจะนำไปสู่การเรียนรู้ภาษาอังกฤษถ้าจะทำให้ตนเลือกเพลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตารางที่ 3 แสดงค่าเฉลี่ยของสิบรายการสำรวจเกี่ยวกับผลกระทบของการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านเพลงในเรื่อง 'การฟังทักษะภาษาอังกฤษ ค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ 12 รายการ (M = 4.5) ซึ่งหมายความว่านักเรียนคิดว่าการเรียนรู้เพลงภาษาอังกฤษและการอ่านเนื้อเพลงเป็นประโยชน์ทักษะการฟังของพวกเขา.
จากนั้นสองสามรายการที่มีคะแนนเฉลี่ยเดียวกันเป็นจำนวนที่สูงที่สุด 13,16 และ 14 (M = 4.3) ซึ่งชี้ให้เห็นว่านักเรียนคิดว่าการฟังเพลงและการอ่านภาษาอังกฤษเนื้อเพลงช่วยปรับปรุงการสะกดคำของพวกเขา พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายที่จะเรียนรู้ภาษาอังกฤษเมื่อเปรียบเทียบกับการศึกษารายการคำศัพท์ และพบว่านักเรียนชอบการฟังเพลงและการอ่านภาษาอังกฤษเนื้อเพลงเพราะมันคือความสนุก.
สามคือสองรายการที่มีคะแนนเฉลี่ยเดียวกันเป็นค่าเฉลี่ยสูงจำนวน 18 และ 17 (M = 4.2) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการฟัง เพลงภาษาอังกฤษในขณะที่อ่านเนื้อเพลงออกเสียงของพวกเขาดีขึ้น นอกจากนี้ก็แสดงให้เห็นว่ามันจะนำไปสู่การเรียนรู้ภาษาอังกฤษถ้าพวกเขาจะทำให้พวกเขาเองเลือกเพลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตารางที่ 3 แสดงคะแนนเฉลี่ยของการสำรวจสิบรายการเกี่ยวกับผลของการเรียนภาษาอังกฤษผ่านเพลงในวิชาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ ค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ข้อ 12 ( M = 4.5 ) ซึ่งหมายถึงว่า นักเรียนคิดว่าการเรียนภาษาอังกฤษเพลงและอ่านเนื้อเพลงเป็นประโยชน์ของการฟัง
จากนั้นครั้งที่ 3 รายการมีคะแนนค่าเฉลี่ยเดียวกันได้สูงสุดเป็นจำนวน 13,16 และ 14 ( M = 4.3 ) ซึ่งชี้ให้เห็นว่า นักเรียนคิดว่า ฟังเพลงและอ่านเนื้อเพลงช่วยปรับปรุงการสะกด พวกเขาเชื่อว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายกว่าการเรียนภาษาอังกฤษเมื่อเทียบกับเรียนรายการคำศัพท์พบว่า นักเรียนชอบฟังเพลงและอ่านเนื้อเพลงเพราะมันสนุก
ที่สามคือสองรายการมีคะแนนค่าเฉลี่ยเดียวกันมีคะแนนเฉลี่ยสูง หมายเลข 18 และ 17 ( M = 4.2 ) ซึ่งแนะนำให้ฟังเพลงภาษาอังกฤษ ตอนอ่านเนื้อเพลงปรับปรุงการออกเสียงของพวกเขา นอกจากนี้มันแสดงให้เห็นว่าจะนำไปสู่การเรียนรู้ภาษาอังกฤษของพวกเขา ถ้าพวกเขาสามารถทำเองเลือกเพลง .