We recently suggested that the coag

We recently suggested that the coagulopathy observed in trauma patients, which reflects the state of the fluid phase including its cellular elements i.e., circulating whole blood, is a consequence of the degree of the tissue injury and the thereby generated sympathoadrenal activity and importantly, critically related to the degree of endothelial damage, with a progressively more procoagulant endothelium (solid phase) inducing a gradient of increasing anticoagulation towards the fluid phase (circulating blood)[28].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราเพิ่ง แนะนำว่า coagulopathy ที่พบในผู้ป่วยบาดเจ็บ ซึ่งสะท้อนถึงสถานะของเฟสของเหลวรวมทั้งองค์ประกอบของเซลล์เช่น ไหลเวียนของเลือด ผลของระดับของการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและ sympathoadrenal จึงสร้างกิจกรรม และที่สำคัญ วิกฤตที่เกี่ยวข้องกับระดับของความเสียหายที่บุผนังหลอดเลือด มีการเพิ่มเติมเรื่อย ๆ procoagulant endothelium (เฟสของแข็ง) กระตุ้นให้เกิดการไล่ระดับสีเพิ่ม anticoagulation ต่อเฟสของเหลว (การหมุนเวียนเลือด) [28]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราเพิ่งบอกว่า coagulopathy ที่สังเกตได้ในผู้ป่วยที่บาดเจ็บซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานะของเฟสของเหลวรวมถึงองค์ประกอบของเซลล์เช่นการไหลเวียนของเลือดทั้งหมดเป็นผลมาจากระดับของการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและกิจกรรม sympathoadrenal สร้างจึงและที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับวิกฤต ในระดับของความเสียหาย endothelial กับ endothelium (ของแข็ง) มีความก้าวหน้ามากขึ้น procoagulant การกระตุ้นให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการไล่ระดับสี anticoagulation ต่อเฟสของเหลว (การไหลเวียนของเลือดบริการ) [28]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราเพิ่งพบว่าภาวะแข็งตัวของเลือดผิดปกติที่พบในผู้ป่วยอุบัติเหตุ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานะของของไหลเฟสรวมทั้งเซลล์องค์ประกอบเช่น หมุนเวียนโลหิตทั้งหมด มันเป็นผลของระดับเนื้อเยื่อที่ได้รับบาดเจ็บและถูกสร้างขึ้นจึง sympathoadrenal กิจกรรม และที่สำคัญอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับระดับของความเสียหายเยื่อบุที่มีความก้าวหน้ามากขึ้นอีกด้วย ( โดทีเลียมของแข็งเฟส ) โดยไล่ระดับของยาต้านการแข็งตัวของเลือด การต่อเฟสของเหลว ( การหมุนเวียนเลือด ) [ 28 ]