Among those reporting formative res

Among those reporting formative research, the most commonly reported activity was research about campaign messages, including pretesting messages or examining message preferences of members of the target audience. This was reported (or implied) in 11 of 16, or 69%, of studies employing formative research (see Table 1). Also commonly reported was research to understand what factors influence the behavior of interest, reported (or implied) in 10 of 16, or 63%, of studies. For- mative research to best assess promising channels of interest or to assess how to place messages within selected channels was mentioned in only 2 of 16, or 13%, of studies. In addition, only two studies (13%) reported using formative research to develop or test evaluation measures. Unfortunately, Myhre and Flora (2000) did not look at use of formative research in their review, and therefore comparisons on this dimension cannot be made.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คนรายงานวิจัยก่อสร้าง มากสุดโดยทั่วไปรายงานกิจกรรมไม่วิจัยเกี่ยวกับข้อความส่งเสริมการขาย pretesting ข้อความ หรือตรวจสอบการตั้งค่าข้อความของสมาชิกของกลุ่มเป้าหมาย นี้คือรายงาน (หรือโดยนัย) ใน 11 16 หรือ 69% จ้างก่อสร้างการศึกษาวิจัย (ดูตารางที่ 1) รายงานกันก็วิจัยเพื่อเข้าใจปัจจัยใดมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของดอกเบี้ย รายงาน (หรือโดยนัย) ใน 10 จาก 16 หรือ 63% การศึกษา สำหรับ- วิจัย mative ให้ดีที่สุดประเมินแนวโน้มช่องน่าสนใจ หรือเพื่อประเมิน วิธีการวางข้อความในช่องเลือกทะเบียนเพียง 2 16 หรือ 13% การศึกษา นอกจากนี้ การศึกษาเพียงสอง (13%) รายงานที่ใช้ก่อสร้างวิจัยพัฒนา หรือทดสอบประเมินผลมาตรการ อับ Myhre และฟลอร่า (2000) ดูที่ใช้ก่อสร้างวิจัยวิจารณ์ของเขา และดังนั้นจึง ไม่สามารถทำการเปรียบเทียบในมิตินี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในบรรดาการรายงานการสำรวจข้อมูลกิจกรรมส่วนใหญ่รายงานโดยทั่วไปเป็นงานวิจัยเกี่ยวกับข้อความแคมเปญรวม pretesting ข้อความหรือการตรวจสอบการตั้งค่าข้อความของสมาชิกของกลุ่มเป้าหมาย นี้ถูกรายงาน (หรือโดยนัย) 11 16 หรือ 69% ของการศึกษาวิจัยการจ้างงานก่อสร้าง (ดูตารางที่ 1) นอกจากนี้ยังมีรายงานที่พบบ่อยคือการวิจัยที่จะเข้าใจสิ่งที่ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมที่น่าสนใจรายงาน (หรือโดยนัย) 10 16 หรือ 63% ของการศึกษา การวิจัย mative เผื่อที่จะประเมินช่องที่มีแนวโน้มสนใจหรือเพื่อประเมินว่าจะวางข้อความที่อยู่ในช่องที่เลือกถูกเอ่ยถึงในเวลาเพียง 2 วันที่ 16 หรือ 13% ของการศึกษา นอกจากนี้เพียงสองการศึกษา (13%) รายงานการใช้การสำรวจข้อมูลในการพัฒนาหรือมาตรการการประเมินผลการทดสอบ แต่น่าเสียดายที่ Myhre และฟลอร่า (2000) ไม่ได้มองไปที่การใช้งานของการสำรวจข้อมูลในการตรวจสอบของพวกเขาและดังนั้นจึงเปรียบเทียบในมิตินี้ไม่สามารถทำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในบรรดารายงานวิจัยย่อย รายงานมากที่สุดกิจกรรมการวิจัยเกี่ยวกับข้อความรณรงค์ รวมถึงข้อความ pretesting หรือตรวจสอบข้อความการตั้งค่าของสมาชิกของผู้ชมเป้าหมาย นี้ถูกรายงาน ( หรือโดยนัย ) ใน 11 16 หรือ 69% ของการศึกษาการวิจัยย่อย ( ดูตารางที่ 1 ) นอกจากนี้โดยทั่วไปรายงานการวิจัยที่จะเข้าใจปัจจัยอะไรที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของดอกเบี้ย รายงาน ( หรือโดยนัย ) ใน 10 ของ 16 หรือ 63 เปอร์เซ็นต์ การศึกษา - การวิจัย mative ที่ดีที่สุดประเมินแนวโน้มช่องทางของความสนใจหรือเพื่อประเมินวิธีการที่ข้อความภายในช่องทางที่เลือกที่ถูกกล่าวถึงเฉพาะใน 2 ของ 16 หรือ 13% , การศึกษา โดยเฉพาะสองการศึกษา ( ร้อยละ 13 ) รายงานการวิจัยย่อย พัฒนา หรือสอบวัดประเมินผล ขออภัย myhre และพืช ( 2000 ) ไม่ได้มองที่ใช้วิจัยก่อรูปในความคิดเห็นของพวกเขา และดังนั้น การเปรียบเทียบในมิตินี้ไม่ได้