VietnamThe government of Vietnam ha

Vietnam

The government of Vietnam has assigned the highest priority to biotechnology and views it as an essential and increasingly important prerequisite to achieve national goals and objectives for food, feed, and fiber production, healthcare, and environmental protection. Application of biotechnology is seen to be critical for increasing crop production to satisfy increasing domestic needs, to meet new export market demands, and to coincidentally conserve natural resources by developing improved and more sustainable agricultural systems.

Vietnamese plant biotechnology is largely at the stage of improving and adapting technology imported from advanced countries (Tuong-Van Nguyen, 2000). The use of conventional technologies such as in vitro micropropagation, virus elimination, somaclonal variation, anther culture, and haploid lines effectively improved crop productivity over the past decade. Gene transfer to breed disease- and pest-resistant varieties, as well as plants tolerant to adverse environment conditions, is also being pursued. Various interesting genes have been cloned or imported from other countries, and advanced techniques have been practiced extensively in research institutions.

As the second largest exporter of rice in the world, Vietnam is focusing much of its effort on improving its rice varieties. The Institute of Biotechnology, Hanoi, together with other institutions, is developing transgenic rice varieties tolerant to abiotic and biotic stresses and resistant to rice pests. It continues to build on its success in developing rice hybrids. Currently, hybrid rice occupies approximately 330,000 hectares giving the highest yields of 16 tons per hectare (Bhumiratana, 2002).

Other target crops for improvement include maize, the second most important food crop in Vietnam; fruits such as citrus, mango, papaya; leafy vegetables; root and tuber crops including sweet potato and cassava; sugar cane; and soybean.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เวียดนามรัฐบาลเวียดนามได้กำหนดความสำคัญสูงสุดกับเทคโนโลยีชีวภาพ และมุมมองเป็นการจำเป็น และสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ข้อกำหนดเบื้องต้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายแห่งชาติและวัตถุประสงค์สำหรับอาหาร อาหาร และการ ผลิตเส้นใย สุขภาพ และป้องกันสิ่งแวดล้อม ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพจะเห็นเป็นสำคัญสำหรับการเพิ่มผลิตของพืชการตอบสนองเพิ่มภายในประเทศความต้องการ เพื่อตอบสนองความต้องการตลาดส่งออกใหม่ และบังเอิญประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ โดยการพัฒนาระบบเกษตรยั่งยืนมากขึ้น และดีขึ้นเทคโนโลยีชีวภาพเกี่ยวกับพืชเวียดนามเป็นส่วนใหญ่ในขั้นตอนของการปรับปรุง และดัดแปลงเทคโนโลยีนำเข้าจากประเทศสูง (Tuong แวนเหงียน 2000) การใช้เทคโนโลยีแบบดั้งเดิมเช่น micropropagation เพาะเลี้ยง กำจัดไวรัส somaclonal เปลี่ยนแปลง วัฒนธรรม anther และแฮพลอยด์ปรับปรุงผลผลิตพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าทศวรรษ โอนย้ายยีนขุนพันธุ์โรค และแมลงทน เป็นพืชที่ทนกับสภาพแวดล้อมที่ร้ายเงื่อนไข เป็นการติดตามด้วย ยีนต่าง ๆ ที่น่าสนใจมีการโคลน หรือนำเข้าจากประเทศอื่น ๆ และเทคนิคขั้นสูงได้รับการฝึกฝนอย่างแพร่หลายในสถาบันวิจัยเป็นผู้ส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของข้าวในโลก เวียดนามจะเน้นมากของความพยายามในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวของ สถาบันเทคโนโลยีชีวภาพ ฮานอย ร่วมกับสถาบันอื่น ๆ มีการพัฒนาพันธุ์ข้าวถั่วเหลือง biotic และ abiotic เครียดความอดทน และทนต่อศัตรูพืชข้าว มันยังสร้างความสำเร็จในการพัฒนาข้าวลูกผสม ขณะนี้ ข้าวไฮบริดใช้ประมาณ 330000 หุ้นมูลค่าหุ้นเฮคเตอร์ให้อัตราผลตอบแทนสูงสุดของ 16 ตันต่อ hectare (อดิศักดิ์ภูมิรัตน์ 2002)พืชไร่การปรับปรุงเป้าหมายอื่น ๆ ได้แก่ข้าวโพด พืชอาหารสำคัญที่สุดสองในเวียดนาม ผลไม้เช่นส้ม มะม่วง มะละกอ ผักใบเขียวชะอุ่ม รากและหัวพืชมันเทศและมันสำปะหลัง อ้อย และถั่วเหลือง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เวียดนามรัฐบาลเวียดนามได้มอบหมายให้ความสำคัญสูงสุดกับเทคโนโลยีชีวภาพและมุมมองว่ามันเป็นสิ่งสำคัญจำเป็นและมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในระดับชาติและวัตถุประสงค์สำหรับอาหาร, อาหารสัตว์และผลิตเส้นใยการดูแลสุขภาพและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพเห็นจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเพิ่มการผลิตพืชเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศเพื่อตอบสนองการส่งออกใหม่ความต้องการของตลาดและบังเอิญอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยการพัฒนาที่ดีขึ้นและมากขึ้นระบบการเกษตรที่ยั่งยืน. เทคโนโลยีชีวภาพด้านพืชเวียดนามเป็นส่วนใหญ่ในขั้นตอนของการปรับปรุง และปรับเทคโนโลยีนำเข้าจากประเทศขั้นสูง (Tuong-Van Nguyen, 2000) การใช้เทคโนโลยีแบบเดิมเช่นในหลอดทดลองการขยายการกำจัดไวรัสแปรปรวนวัฒนธรรมอับละอองเกสรและเส้นเดี่ยวที่ดีขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพผลผลิตพืชในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การถ่ายโอนยีนจะก่อให้เกิดพันธุ์เกิดโรคและทนศัตรูพืชเช่นเดียวกับพืชใจกว้างกับเงื่อนไขสภาพแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์นอกจากนี้ยังถูกไล่ ยีนต่างๆที่น่าสนใจได้รับการโคลนหรือนำเข้ามาจากประเทศอื่น ๆ และเทคนิคขั้นสูงที่ได้รับการฝึกฝนอย่างกว้างขวางในสถาบันการวิจัย. ในฐานะที่เป็นผู้ส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับสองของข้าวในโลกที่เวียดนามจะเน้นมากของความพยายามในการปรับปรุงพันธุ์ข้าว สถาบันเทคโนโลยีชีวภาพ, ฮานอยร่วมกับสถาบันอื่น ๆ คือการพัฒนาพันธุ์ข้าวดัดแปรพันธุกรรมใจกว้างกับความเครียด abiotic และสิ่งมีชีวิตและทนต่อศัตรูพืชข้าว มันยังคงสร้างความสำเร็จในการพัฒนาข้าวลูกผสม ปัจจุบันข้าวไฮบริดตรงบริเวณประมาณ 330,000 เฮคเตอร์ให้ผลตอบแทนสูงสุด 16 ตันต่อเฮกตาร์ (ภูมิรัตน, 2002). พืชเป้าหมายอื่น ๆ ในการปรับปรุงรวมถึงข้าวโพดพืชอาหารที่สำคัญที่สุดที่สองในเวียดนาม ผลไม้เช่นส้ม, มะม่วง, มะละกอ; ผักใบ; รากและพืชหัวรวมทั้งมันฝรั่งหวานและมันสำปะหลัง; อ้อย; และถั่วเหลือง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เวียดนาม

รัฐบาลเวียดนาม ได้มอบหมายให้ความสำคัญสูงสุดกับเทคโนโลยีชีวภาพและมุมมองมันเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากขึ้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์แห่งชาติเตรียมอาหาร , อาหาร , และผลิต , การดูแลสุขภาพ ไฟเบอร์ และ การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม การประยุกต์เทคโนโลยีชีวภาพคือเห็นเป็นสำคัญเพื่อเพิ่มการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดส่งออกใหม่ และบังเอิญอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยการพัฒนาและปรับปรุงระบบเกษตรที่ยั่งยืนมากขึ้น

) เทคโนโลยีชีวภาพพืชส่วนใหญ่ในขั้นตอนของการปรับปรุงและปรับเทคโนโลยีที่นำเข้าจากประเทศสูง ( เสียง Van Nguyen , 2000 ) ใช้แบบเทคโนโลยี เช่น การขยายพันธุ์ในหลอดทดลองกำจัด , ไวรัสการแปรผัน วัฒนธรรม พฤติกรรม และสายเดี่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มผลผลิตกว่าทศวรรษที่ผ่านมา การถ่ายโอนยีนพันธุ์ และพันธุ์ต้านทานโรค - ศัตรูพืช ตลอดจนพืชใจกว้างเพื่อสภาพแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์ , นอกจากนี้ยังถูกตามล่า ต่าง ๆที่น่าสนใจได้รับการโคลนยีน หรือนำเข้าจากประเทศอื่น ๆและเทคนิคชั้นสูงได้มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในสถาบันการวิจัย

เป็นผู้ส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดที่สองในโลก เวียดนามที่มุ่งเน้นมากของความพยายามในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวของ สถาบันเทคโนโลยีชีวภาพ , ฮานอย , ร่วมกับสถาบันอื่นๆ มีการพัฒนาพันธุ์ข้าวใจกว้างที่จะมีชีวิตและไม่มีชีวิต ไบโอติค ความเครียด และป้องกันศัตรูข้าว .มันยังคงสร้างความสำเร็จในการพัฒนาข้าวลูกผสม ขณะนี้มีพื้นที่ประมาณ 330 , 000 ไร่ ข้าวลูกผสมให้ผลผลิตสูงสุด 16 ตันต่อเฮกแตร์ ( ภูมิรัตน , 2002 ) .

เป้าหมายอย่างอื่นปลูกพืชเพื่อการปรับปรุง ได้แก่ ข้าวโพด พืชอาหารที่สำคัญที่สุดที่สองในเวียดนาม ; ผลไม้ เช่น ส้ม มะม่วง มะละกอ ผักใบ ;รากและพืชหัว ได้แก่ มันเทศ มันสำปะหลัง ; อ้อย ; และถั่วเหลือง