This paper examines three technolog

This paper examines three technology routes for lowering the carbon intensity of biofuels: (1) a leapfrog route that focuses on major technological breakthroughs in lignocellulosic pathways at new, stand-alone biorefineries; (2) an incremental route in which improvements are made to existing U.S. corn ethanol and soybean biodiesel biorefineries; and (3) a transitional route in which biotechnology firms gain experience growing, handling, or chemically converting lignocellulosic biomass in a lower-risk fashion than leapfrog biorefineries by leveraging existing capital stock. We find the incremental route is likely to involve the largest production volumes and greenhouse gas benefits until at least the mid-2020s, but transitional and leapfrog biofuels together have far greater long-term potential. We estimate that the Renewable Fuel Standard, California's Low Carbon Fuel Standard, and federal tax credits provided an incentive of roughly $1.5–2.5 per gallon of leapfrog biofuel between 2012 and 2015, but that regulatory elements in these policies mostly incentivize lower-risk incremental investments. Adjustments in policy may be necessary to bring a greater focus on transitional technologies that provide targeted learning and cost reduction opportunities for leapfrog biofuels.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระดาษนี้ตรวจสอบเส้นทางเทคโนโลยีสามลดความเข้มของคาร์บอนของเชื้อเพลิงชีวภาพ: (1) กระบวนการผลิต leapfrog ที่เน้นนวัตกรรมใหม่เทคโนโลยีสำคัญในหลัก lignocellulosic ที่ biorefineries ใหม่ เดี่ยว (2) การเพิ่มกระบวนการผลิตที่ปรับปรุงจะไปอยู่สหรัฐอเมริกาข้าวโพดถั่วเหลืองและเอทานอลไบโอดีเซล biorefineries และ (3) กระบวนการผลิตอีกรายการในเทคโนโลยีชีวภาพซึ่งบริษัทได้รับประสบการณ์เพิ่มขึ้น การจัดการ หรือสารเคมีแปลงชีวมวล lignocellulosic ในความเสี่ยงต่ำกว่า leapfrog biorefineries โดยใช้ทุนจดทะเบียนที่มีอยู่ เราหาเส้นทางที่เพิ่มขึ้นจะเกี่ยวข้องกับปริมาณการผลิตที่ใหญ่ที่สุดและประโยชน์ก๊าซเรือนกระจกจนน้อยที่กลาง-2020s แต่อีกรายการ และเชื้อเพลิงชีวภาพ leapfrog กันมีศักยภาพในระยะยาวไกลมากขึ้น เราประเมินว่า มาตรฐานเชื้อเพลิงทดแทน แคลิฟอร์เนียของโลว์คาร์บอนน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐาน การเครดิตภาษีรัฐบาลกลางให้สิ่งจูงใจของประมาณ $1.5-2.5 ต่อแกลลอนของเชื้อเพลิงชีวภาพ leapfrog 2012 และ 2015 แต่ว่า องค์ประกอบทางในนโยบายเหล่านี้ส่วนใหญ่ incentivize ความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนเพิ่มขึ้น ปรับปรุงนโยบายอาจจำเป็นต้องนำเน้นมากขึ้นในเทคโนโลยีอีกรายการที่ให้เรียนรู้เป็นเป้าหมาย และต้นทุนลดโอกาสสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ leapfrog

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระดาษนี้จะตรวจสอบสามเส้นทางเทคโนโลยีสำหรับการลดความเข้มของคาร์บอนของเชื้อเพลิงชีวภาพ (1) เส้นทางที่ทันสมัย​​ซึ่งมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญในวิถีลิกโนเซลลูโลสที่ใหม่สแตนด์อะโลน biorefineries; (2) เส้นทางที่เพิ่มขึ้นในการที่ปรับปรุงจะทำเอทานอลที่มีอยู่ข้าวโพดสหรัฐและไบโอดีเซล biorefineries ถั่วเหลือง และ (3) เส้นทางการเปลี่ยนผ่านในการที่จะได้รับประสบการณ์ที่ บริษัท ด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่เพิ่มขึ้น, การจัดการหรือการแปลงทางเคมีชีวมวลลิกโนเซลลูโลสในแฟชั่นที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า biorefineries ก้าวกระโดดโดยใช้ประโยชน์จากเงินทุนที่มีอยู่ในสต็อก เราหาเส้นทางที่เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับปริมาณการผลิตที่ใหญ่ที่สุดและผลประโยชน์ก๊าซเรือนกระจกอย่างน้อยก็จนกว่ากลาง 2020s แต่การนำส่งและเชื้อเพลิงชีวภาพก้าวกระโดดด้วยกันได้ไกลเกินที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว เราประเมินว่ามาตรฐานเชื้อเพลิงทดแทน, แคลิฟอร์เนียคาร์บอนต่ำเชื้อเพลิงมาตรฐานและเครดิตภาษีของรัฐบาลกลางให้แรงจูงใจที่ประมาณ $ 1.5-2.5 ต่อแกลลอนเชื้อเพลิงชีวภาพก้าวกระโดดระหว่างปี 2012 และปี 2015 แต่ที่องค์ประกอบกำกับดูแลในนโยบายเหล่านี้ส่วนใหญ่จะจูงใจให้มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้น . การปรับนโยบายอาจมีความจำเป็นที่จะนำสำคัญมากขึ้นในการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่ให้การเรียนรู้ที่กำหนดเป้​​าหมายและโอกาสในการลดค่าใช้จ่ายสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพก้าวกระโดด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทความนี้เป็นการวิเคราะห์สามเส้นทางเทคโนโลยีเพื่อลดคาร์บอนของเชื้อเพลิงชีวภาพ ( 1 ) ใช้เส้นทางที่มุ่งเน้นการคิดค้นเทคโนโลยีที่สำคัญในเส้นทาง lignocellulosic ที่ biorefineries แบบใหม่ ( 2 ) เพิ่มขึ้นในเส้นทางที่ปรับปรุงจะทำให้ข้าวโพดและถั่วเหลืองสหรัฐที่มีอยู่ biorefineries เอทานอลไบโอดีเซล ;( 3 ) เปลี่ยนเส้นทางที่บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพได้รับประสบการณ์การปลูก การจัดการ หรือเคมีแปลงชีวมวล lignocellulosic ในแฟชั่นความเสี่ยงน้อยกว่า leapfrog biorefineries โดยใช้ประโยชน์จากหุ้นทุนที่มีอยู่ เราพบเส้นทางที่เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มที่จะเกี่ยวข้องกับการผลิตที่ใหญ่ที่สุดและปริมาณก๊าซเรือนกระจกประโยชน์จนกว่าอย่างน้อย mid-2020s ,แต่การเปลี่ยนใช้เชื้อเพลิงชีวภาพและด้วยกันได้ไกลมากกว่าระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น เราประเมินว่ามาตรฐานเชื้อเพลิงทดแทน , แคลิฟอร์เนียคาร์บอนต่ำเชื้อเพลิงมาตรฐาน และเครดิตภาษีของรัฐบาลกลางให้จูงใจของประมาณ $ 1.5 – 2.5 ต่อแกลลอนใช้เชื้อเพลิงชีวภาพระหว่าง 2012 และในปี 2015 แต่องค์ประกอบด้านนโยบายเหล่านี้ส่วนใหญ่ incentivize ลดความเสี่ยงเพิ่มการลงทุนการปรับเปลี่ยนนโยบายอาจจะต้องนำมากกว่ามุ่งเน้นเทคโนโลยีเดียวที่ให้กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้และโอกาสในการลดต้นทุนใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ .