*Fermat did not go mad with his new

*Fermat did not go mad with his new found wealth. He continued working as an attorney and continued with his mathematics.
*In 1630, when he was 22 or 23 years old, Fermat paid a huge sum of money to get a senior legal position in the High Court of Toulouse. This was a job for life. He also became a nobleman. He could now use the aristocratic name Pierre de Fermat rather than simply Pierre Fermat.
*In June 1631, aged 23, Fermat married his cousin Louise de Long.
*Eventually Married and had five children

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

* แฟร์มาไม่ได้ไปบ้ากับความมั่งคั่งของเขาพบใหม่ เขายังคงทำงานเป็นทนายความ และต่อวิชาคณิตศาสตร์ของเขา* ใน 1630 เมื่อเขาถูก 22 หรือ 23 ปี แฟร์มาจ่ายเงินก้อนใหญ่เพื่อรับตำแหน่งที่กฎหมายอาวุโสในศาลสูงแห่งตูลูส นี้เป็นงานสำหรับชีวิต เขาเป็นขุนนาง เขาอาจใช้ชื่อชน Pierre เดอแฟร์มามากกว่าแค่ Pierre แฟร์มา* ใน 1631 มิถุนายน อายุ 23 แฟร์มาแต่งงานก. Louise de ยาว * ในที่สุดการแต่งงาน และมีลูกห้าคน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

* แฟร์มาต์ไม่ได้ไปบ้ากับความมั่งคั่งพบใหม่ของเขา เขายังคงทำงานเป็นทนายความและต่อเนื่องกับคณิตศาสตร์ของเขา.
* ใน 1630 เมื่อเขาอายุ 22 หรือ 23 ปี, แฟร์มาต์จ่ายเงินก้อนใหญ่ของเงินที่จะได้รับตำแหน่งทางกฎหมายอาวุโสในศาลสูงของตูลูส นี่คืองานสำหรับชีวิต นอกจากนี้เขายังกลายเป็นขุนนาง ตอนนี้เขาอาจจะใช้ชื่อของชนชั้นสูงปิแอร์เดอแฟร์มาต์มากกว่าเพียงแค่ Pierre แฟร์มาต์.
* ในเดือนมิถุนายน 1631 อายุ 23 แฟร์มาต์แต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเขาหลุยส์เดอยาว.
* แต่งงานในที่สุดและมีลูกห้าคน