วิธีการทำบายศรีอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำบายศรีการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ไว้ให้พร การแปล - วิธีการทำบายศรีอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำบายศรีการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ไว้ให้พร ไทย วิธีการพูด

วิธีการทำบายศรีอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ

วิธีการทำบายศรี
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำบายศรี

การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เป็นการเตรียมการที่ดี สามารถดำเนินงานได้ด้วยความเรียบร้อยรวดเร็วซึ่งมีอุปกรณ์ที่ควรจะต้องเตรียมไว้ดังต่อไปนี้

1. ใบตอง (ควรให้ใบตองกล้วยตานี)
2. พานแว่นฟ้า ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ผูกติดกันไว้ด้วยลวด และรองพื้นพานด้วยโฟม
3. ภาชนะปากกว้างสำหรับใส่น้ำแช่ใบตอง 2 ใบ
4. สารส้ม
5. น้ำมันมะกอก ชนิดสีเหลือง หรือขาว
6. ไม้ปลายแหลม (ขนาดไม้เสียบลูกชิ้น) ประมาณ 20-30 อัน
7. ดอกไม้ (ดอกพุด ดอกดาวเรือง ดอกบานไม่รู้โรย ฯลฯ)
8. กรรไกร สำหรับตัดใบตอง
9. ลวดเย็บกระดาษ

การเลือก และ การทำความสะอาดใบตอง
ใบตองที่นำมาใช้สำหรับทำบายศรี มักนิยมใช้ใบตองจากกล้วยตานี เนื่องจากเป็นใบตองที่มีลักษณะเป็นเงา มันวาว เมื่อโดนน้ำจะยิ่งเกิดประกายสีเขียวเข้มสวยงามยิ่งขึ้น และที่สำคัญ ใบตองจากกล้วยตานี มีความคงทน ไม่แตกง่าย ไม่เหี่ยวง่าย สามารถนำมาพับม้วนเป็นรูปลักษณะต่างๆได้ง่าย และสามารถเก็บไว้ได้นานหลายวัน หรือถ้ารักษาโดยหมั่นพรมน้ำบ่อยๆ ใบตองกล้วยตานี จะสามารถคงทนอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์ทีเดียว
เมื่อได้ใบตองกล้วยตานีมาแล้ว จะต้องนำมาทำความสะอาดก่อน ด้วยการเช็ด โดยใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆออกจากใบตองเสียก่อน โดยการเช็ด จะต้องใช้ผ้าเช็ดตามรอยของเส้นใบไปในทางเดียว อย่าเช็ดกลับไปกลับมา หรืออย่าเช็ดขวางเส้นใบเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ใบตองเสียหาย มีรอยแตก และช้ำ ทำให้ไม่สามารถนำใบตองมาใช้งานได้เต็มที่
เมื่อเช็ดสะอาดดีแล้ว ก็ให้พับพอหลวมๆ เรียงซ้อนกันไว้ให้เป็นระเบียบ เพื่อรอนำมาใช้งานในขั้นตอนต่อไป
การฉีกใบตองเพื่อเตรีมทำกรวยบายศรี
ใบตองที่ได้ทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หยิบมาทีละใบ แล้วนำมาฉีกเพื่อเตรียมไว้สำหรับม้วนหรือพับ ทำกรวยบายศรี

การพับหรือฉีกใบตอง แบ่งเป็นสามประเภทคือ
1. ใบตองสำหรับทำกรวยแม่ ฉีกกว้างประมาณ 2 นิ้วฟุต
2. ใบตองสำหรับทำกรวยลูก ฉีกกว้างประมาณ 2 นิ้วฟุต
3. ใบตองสำหรับห่อ ฉีกกว้างประมาณ 1.5 นิ้วฟุต
ใบตองแต่ละประเภท ควรฉีกเตรียมไว้ให้ได้จำนวนที่ต้องการ กล่าวคือ ถ้าทำพานบายศรี 3 ชั้น ชั้นละ 4 ทิศ ( 4 ริ้ว ) นั่นก็หมายถึงว่าจะมีริ้วทั้งหมด 12 ริ้ว ในแต่ละริ้ว จะประกอบด้วยกรวยแม่ 1 กรวย และ กรวยลูก 9 กรวย รวมทั้งสิ้น จะมีกรวยแม่ 12 กรวย และ กรวยลูก 108 กรวย นั่นเอง แสดงว่าจะต้องมีใบตองสำหรับทำกรวยแม่ 12 ชิ้น ใบตองสำหรับทำกรวยลูก 108 ชิ้น ใบตองสำหรับห่อ 120 ชิ้น นั่นเอง แต่ใบตองสำหรับห่อ จะต้องเตรียมไว้เพื่อห่อริ้วอีก คือใน 1 ริ้วจะประกอบไปด้วย กรวยแม่ 1 กรวย กรวยลูก 9 กรวย ซึ่งจะต้องมาห่อรวมกัน ดังนั้น จึงต้องเพิ่มใบตองสำหรับห่ออีก 120 ชิ้น รวมเป็นใบตองสำหรับห่อ 240




การพับกรวย และห่อกรวย
การพับหรือห่อกรวย หมายถึงการนำใบตองที่ฉีกเตรียมไว้แล้วสำหรับพับกรวย มาพับ โดยการพับกรวยแม่และกรวยลูกจะมีลักษณะวิธีการพับเหมือนกัน คือ การนำใบตองมาพับม้วนให้เป็นกรวยปลายแหลม เพียงแต่กรวยลูกจะมีการนำดอกพุด มาวางเสียบไว้ที่ส่วนยอดปลายแหลมของกรวยด้วย เมื่อพับหรือม้วนใบตองเป็นกรวยเสร็จในแต่ละกรวยแล้ว ให้นำลวดเย็บกระดาษ มาเย็บใบตองไว้เพื่อป้องกันใบตองคลายตัวออกจากกัน แล้วเก็บกรวยแต่ละประเภทไว้จนครบจำนวนที่ต้องการเมื่อได้กรวยแต่ละประเภทครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ก็นำกรวยที่ได้มาห่อ โดยการนำใบตองที่ฉีกเตรียมไว้สำหรับห่อมาห่อกรวย หรือเรียกอีกอย่างว่า ห่มผ้า หรือ แต่งตัวให้กรวยบายศรี ส่วนวิธีการห่อ ศึกษาได้จากภาพยนตร์ที่แสดงให้ชม
ตอนที่ 6 การห่อริ้วบายศรีและการแช่น้ำ
การห่อริ้วบายศรี คือการนำกรวยแม่ และ กรวยลูกที่ได้ห่อกรวยไว้เรียบร้อยแล้ว มาห่อมัดรวมเข้าไว้ด้วยกัน ที่นิยมทำกัน ใน 1 ริ้ว จะประกอบด้วย กรวยแม่ 1 กรวย กรวยลูก 9 กรวย

วิธีการห่อริ้ว มีการห่อคล้ายกับการห่อกรวยแม่หรือกรวยลูก
แต่จะแบ่งวิธีตามลักษณะงานที่ได้เป็น 2 วิธี คือ
1. ห่อแบบตรง คือการห่อโดยเริ่มต้นจากกรวยแม่ แล้ววางกรวยลูกไว้ด้านบนกรวยแม่เป็นชั้นๆทับกันขึ้นมา หรือหันกรวยลูกเข้าหาตัวผู้ห่อ การห่อแบบนี้ จะได้ริ้วบายศรีค่อนข้างตรง และในช่วงตัวริ้ว จะมีรอยหยักของใบตองห่อเรียกว่า มีเกล็ด
2. ห่อแบบหวาน คือการห่อ โดยเริ่มต้นจากกรวยแม่ แต่วางกรวยลูกไว้ด้านล่างของกรวยแม่ และวางซ้อนลงด้านล่างลงไปจนครบ หรือหันกรวยแม่เข้าหาตัวผู้ห่อ โดยวางกรวยลูกลงด้านล่างจนครบนั่นเอง การห่อแบบนี้ จะได้ริ้วบายศรีเป็นลักษณะอ่อนช้อย งอน อ่อนหวาน
เมื่อห่อริ้วจนเสร็จในแต่ละริ้วแล้ว จึงนำริ้วที่ได้ลงแช่ในน้ำผสมสารส้มที่เตรียมไว้ประมาณ 20 นาที เพื่อให้ใบตองเข้ารูปทรง อยู่ตัวตามที่ได้พับและห่อ จากนั้น จึงนำไปแช่ในน้ำผสมน้ำมันมะกอกต่อไป เพื่อให้ริ้วมีความเป็นมันวาว เน้นสีเขียวเข้มของใบตองมากขึ้น และมีกลิ่นหอมในตัวเอง

การประกอบพานบายศรี
การประกอบพานบายศรี ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการทำบายศรี คือการนำริ้วที่ทำเสร็จแล้วและแช่ในน้ำผสมน้ำมันมะกอกแล้ว มาประกอบเข้ากับพานบายศรี 3 ชั้นที่ได้เตรียมไว้
การน้ำริ้ว มาประกอบกับพาน ควรเริ่มต้นจากพานใหญ่สุด หรือพานที่วางอยู่ชั้นล่างสุดก่อน โดยการวางให้ริ้วอยู่บนพานให้มีระยะห่างเท่าๆกัน 4 ริ้ว ( 4 ทิศ ) ซึ่งจะยึดริ้วติดกับพานโดยใช้ไม้ปลายแหลมที่เตรียมไว้แล้ว มากลัด หรือเสียบจากด้านบนของริ้วให้ทะลุไปยึดติดกับโฟมที่รองไว้บนพื้นพาน
การประกอบริ้วกับพานชั้นกลาง และชั้นบนสุด ก็ใช้วิธีเดียวกัน แต่จะต้องให้ริ้วชั้นที่ 2 วางสลับกับริ้วชั้นแรก และริ้วบนพานชั้นบนสุด ก็ให้สลับกับริ้วบนพานชั้นกลาง
การประกอบริ้วกับพานชั้นบนสุด ให้ห่อใบตองเป็นกรวยขนาดใหญ่พอควรวางไว้เป็นแกนกลางของพาน เมื่อวางริ้วทั้ง 4 ริ้วเสร็จแล้ว ให้รวบปลายสุดของริ้วทั้ง 4 เข้าหากัน โดยมีกรวยที่ทำเป็นแกนกลางอยู่ด้านใน แล้วนำใบตองม้วนเป็นกรวยขนาดใหญ่อีกกรวย มาครอบทับยอดทั้ง 4 ของริ้วไว้ ซึ่งจะทำให้พานบายศรีที่ได้ มียอดแหลมที่สวยงามและมั่นคง
จากนั้นจึงนำใบไม้ (ส่วนใหญ่จะนำใบไม้ที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ใบเงิน ใบทอง ) มาวางรองบนพาน เพื่อปกปิดไม่ให้มองเห็นโฟมที่รองพื้นพาน และนำดอกไม้สีสด เช่น ดอกบานไม่รู้โรย หรือดอกดาวเรือง มาประดับบนพานเพิ่มความสวยงามหรือทำมาลัย สวมบนยอด หรือทำเป็นอุบะร้อยรอบพานแต่ละชั้น ก็จะเพิ่มสีสัน และความสวยงามให้แก่พานบายศรีมากขึ้
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
วิธีการทำบายศรีอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำบายศรีการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเป็นการเตรียมการที่ดีสามารถดำเนินงานได้ด้วยความเรียบร้อยรวดเร็วซึ่งมีอุปกรณ์ที่ควรจะต้องเตรียมไว้ดังต่อไปนี้1. ใบตอง (ควรให้ใบตองกล้วยตานี)2. พานแว่นฟ้าขนาดเล็กกลางใหญ่ผูกติดกันไว้ด้วยลวดและรองพื้นพานด้วยโฟม3. ภาชนะปากกว้างสำหรับใส่น้ำแช่ใบตอง 2 ใบ4. สารส้ม5. น้ำมันมะกอกชนิดสีเหลืองหรือขาว6. ไม้ปลายแหลม (ขนาดไม้เสียบลูกชิ้น) ประมาณ 20-30 อัน7. ดอกไม้ (ดอกพุดดอกดาวเรืองดอกบานไม่รู้โรยฯลฯ)8. กรรไกรสำหรับตัดใบตอง9. ลวดเย็บกระดาษการเลือกและการทำความสะอาดใบตองใบตองที่นำมาใช้สำหรับทำบายศรีมักนิยมใช้ใบตองจากกล้วยตานีเนื่องจากเป็นใบตองที่มีลักษณะเป็นเงามันวาวเมื่อโดนน้ำจะยิ่งเกิดประกายสีเขียวเข้มสวยงามยิ่งขึ้นและที่สำคัญใบตองจากกล้วยตานีมีความคงทนไม่แตกง่ายไม่เหี่ยวง่ายสามารถนำมาพับม้วนเป็นรูปลักษณะต่างๆได้ง่ายและสามารถเก็บไว้ได้นานหลายวันหรือถ้ารักษาโดยหมั่นพรมน้ำบ่อย ๆ ใบตองกล้วยตานีจะสามารถคงทนอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์ทีเดียวเมื่อได้ใบตองกล้วยตานีมาแล้วจะต้องนำมาทำความสะอาดก่อนด้วยการเช็ดโดยใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆออกจากใบตองเสียก่อนโดยการเช็ดจะต้องใช้ผ้าเช็ดตามรอยของเส้นใบไปในทางเดียวอย่าเช็ดกลับไปกลับมาหรืออย่าเช็ดขวางเส้นใบเป็นอันขาดเพราะจะทำให้ใบตองเสียหายมีรอยแตกและช้ำทำให้ไม่สามารถนำใบตองมาใช้งานได้เต็มที่เมื่อเช็ดสะอาดดีแล้วก็ให้พับพอหลวม ๆ เรียงซ้อนกันไว้ให้เป็นระเบียบเพื่อรอนำมาใช้งานในขั้นตอนต่อไปการฉีกใบตองเพื่อเตรีมทำกรวยบายศรีใบตองที่ได้ทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้วหยิบมาทีละใบแล้วนำมาฉีกเพื่อเตรียมไว้สำหรับม้วนหรือพับทำกรวยบายศรีการพับหรือฉีกใบตองแบ่งเป็นสามประเภทคือ1. ใบตองสำหรับทำกรวยแม่ฉีกกว้างประมาณ 2 นิ้วฟุต2. ใบตองสำหรับทำกรวยลูกฉีกกว้างประมาณ 2 นิ้วฟุต3. ใบตองสำหรับห่อนิ้วฟุตฉีกกว้างประมาณ 1.5ใบตองแต่ละประเภทควรฉีกเตรียมไว้ให้ได้จำนวนที่ต้องการกล่าวคือถ้าทำพานบายศรี 3 ชั้นชั้นละ 4 ทิศ (4 ริ้ว) นั่นก็หมายถึงว่าจะมีริ้วทั้งหมด 12 ริ้วในแต่ละริ้วจะประกอบด้วยกรวยแม่ 1 กรวยและกรวยลูก 9 กรวยรวมทั้งสิ้นจะมีกรวยแม่ 12 กรวยและกรวยลูก 108 กรวยนั่นเองแสดงว่าจะต้องมีใบตองสำหรับทำกรวยแม่ 12 ชิ้นใบตองสำหรับทำกรวยลูก 108 ชิ้นใบตองสำหรับห่อ 120 ชิ้นนั่นเองแต่ใบตองสำหรับห่อจะต้องเตรียมไว้เพื่อห่อริ้วอีกคือใน 1 ริ้วจะประกอบไปด้วยกรวยแม่ 1 กรวยกรวยลูก 9 กรวยซึ่งจะต้องมาห่อรวมกันดังนั้นจึงต้องเพิ่มใบตองสำหรับห่ออีก 120 ชิ้นรวมเป็นใบตองสำหรับห่อ 240การพับกรวยและห่อกรวยการพับหรือห่อกรวย หมายถึงการนำใบตองที่ฉีกเตรียมไว้แล้วสำหรับพับกรวย มาพับ โดยการพับกรวยแม่และกรวยลูกจะมีลักษณะวิธีการพับเหมือนกัน คือ การนำใบตองมาพับม้วนให้เป็นกรวยปลายแหลม เพียงแต่กรวยลูกจะมีการนำดอกพุด มาวางเสียบไว้ที่ส่วนยอดปลายแหลมของกรวยด้วย เมื่อพับหรือม้วนใบตองเป็นกรวยเสร็จในแต่ละกรวยแล้ว ให้นำลวดเย็บกระดาษ มาเย็บใบตองไว้เพื่อป้องกันใบตองคลายตัวออกจากกัน แล้วเก็บกรวยแต่ละประเภทไว้จนครบจำนวนที่ต้องการเมื่อได้กรวยแต่ละประเภทครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว ก็นำกรวยที่ได้มาห่อ โดยการนำใบตองที่ฉีกเตรียมไว้สำหรับห่อมาห่อกรวย หรือเรียกอีกอย่างว่า ห่มผ้า หรือ แต่งตัวให้กรวยบายศรี ส่วนวิธีการห่อ ศึกษาได้จากภาพยนตร์ที่แสดงให้ชมการห่อริ้วบายศรีและการแช่น้ำตอนที่ 6การห่อริ้วบายศรีคือการนำกรวยแม่และกรวยลูกที่ได้ห่อกรวยไว้เรียบร้อยแล้วมาห่อมัดรวมเข้าไว้ด้วยกันที่นิยมทำกันใน 1 ริ้วจะประกอบด้วยกรวยแม่ 1 กรวยกรวยลูก 9 กรวยวิธีการห่อริ้วมีการห่อคล้ายกับการห่อกรวยแม่หรือกรวยลูกแต่จะแบ่งวิธีตามลักษณะงานที่ได้เป็น 2 วิธีคือ1. ห่อแบบตรงคือการห่อโดยเริ่มต้นจากกรวยแม่แล้ววางกรวยลูกไว้ด้านบนกรวยแม่เป็นชั้นๆทับกันขึ้นมาหรือหันกรวยลูกเข้าหาตัวผู้ห่อการห่อแบบนี้จะได้ริ้วบายศรีค่อนข้างตรงและในช่วงตัวริ้วจะมีรอยหยักของใบตองห่อเรียกว่ามีเกล็ด2. ห่อแบบหวานคือการห่อโดยเริ่มต้นจากกรวยแม่แต่วางกรวยลูกไว้ด้านล่างของกรวยแม่และวางซ้อนลงด้านล่างลงไปจนครบหรือหันกรวยแม่เข้าหาตัวผู้ห่อโดยวางกรวยลูกลงด้านล่างจนครบนั่นเองการห่อแบบนี้จะได้ริ้วบายศรีเป็นลักษณะอ่อนช้อยงอนอ่อนหวานเมื่อห่อริ้วจนเสร็จในแต่ละริ้วแล้วจึงนำริ้วที่ได้ลงแช่ในน้ำผสมสารส้มที่เตรียมไว้ประมาณ 20 นาทีเพื่อให้ใบตองเข้ารูปทรงอยู่ตัวตามที่ได้พับและห่อจากนั้นจึงนำไปแช่ในน้ำผสมน้ำมันมะกอกต่อไปเพื่อให้ริ้วมีความเป็นมันวาวเน้นสีเขียวเข้มของใบตองมากขึ้นและมีกลิ่นหอมในตัวเองการประกอบพานบายศรีการประกอบพานบายศรี ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการทำบายศรี คือการนำริ้วที่ทำเสร็จแล้วและแช่ในน้ำผสมน้ำมันมะกอกแล้ว มาประกอบเข้ากับพานบายศรี 3 ชั้นที่ได้เตรียมไว้การน้ำริ้ว มาประกอบกับพาน ควรเริ่มต้นจากพานใหญ่สุด หรือพานที่วางอยู่ชั้นล่างสุดก่อน โดยการวางให้ริ้วอยู่บนพานให้มีระยะห่างเท่าๆกัน 4 ริ้ว ( 4 ทิศ ) ซึ่งจะยึดริ้วติดกับพานโดยใช้ไม้ปลายแหลมที่เตรียมไว้แล้ว มากลัด หรือเสียบจากด้านบนของริ้วให้ทะลุไปยึดติดกับโฟมที่รองไว้บนพื้นพานการประกอบริ้วกับพานชั้นกลาง และชั้นบนสุด ก็ใช้วิธีเดียวกัน แต่จะต้องให้ริ้วชั้นที่ 2 วางสลับกับริ้วชั้นแรก และริ้วบนพานชั้นบนสุด ก็ให้สลับกับริ้วบนพานชั้นกลางการประกอบริ้วกับพานชั้นบนสุด ให้ห่อใบตองเป็นกรวยขนาดใหญ่พอควรวางไว้เป็นแกนกลางของพาน เมื่อวางริ้วทั้ง 4 ริ้วเสร็จแล้ว ให้รวบปลายสุดของริ้วทั้ง 4 เข้าหากัน โดยมีกรวยที่ทำเป็นแกนกลางอยู่ด้านใน แล้วนำใบตองม้วนเป็นกรวยขนาดใหญ่อีกกรวย มาครอบทับยอดทั้ง 4 ของริ้วไว้ ซึ่งจะทำให้พานบายศรีที่ได้ มียอดแหลมที่สวยงามและมั่นคงจากนั้นจึงนำใบไม้ (ส่วนใหญ่จะนำใบไม้ที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น ใบเงิน ใบทอง ) มาวางรองบนพาน เพื่อปกปิดไม่ให้มองเห็นโฟมที่รองพื้นพาน และนำดอกไม้สีสด เช่น ดอกบานไม่รู้โรย หรือดอกดาวเรือง มาประดับบนพานเพิ่มความสวยงามหรือทำมาลัย สวมบนยอด หรือทำเป็นอุบะร้อยรอบพานแต่ละชั้น ก็จะเพิ่มสีสัน และความสวยงามให้แก่พานบายศรีมากขึ้
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เป็นการเตรียมการที่ดี ใบตอง (ควรให้ใบตองกล้วยตานี) 2 พานแว่นฟ้าขนาดเล็กกลางใหญ่ผูกติดกันไว้ด้วยลวดและรองพื้นพานด้วยโฟม3 ภาชนะปากกว้างสำหรับใส่น้ำแช่ใบตอง 2 ใบ4 สารส้ม5 น้ำมันมะกอกชนิดสีเหลืองหรือขาว6 ไม้ปลายแหลม (ขนาดไม้เสียบลูกชิ้น) ประมาณ 20-30 อัน7 ดอกไม้ (ดอกพุดดอกดาวเรืองดอกบานไม่รู้โรย ฯลฯ ) 8 กรรไกรตัดใบตองสำหรับ9 ลวดเย็บกระดาษการเลือกและ มักนิยมใช้ใบตองจากกล้วยตานี มันวาว และที่สำคัญใบตองจากกล้วยตานีมีความคงทนไม่แตกง่ายไม่เหี่ยวง่าย และสามารถเก็บไว้ได้นานหลายวันหรือถ้ารักษาโดยหมั่นพรมน้ำบ่อยๆใบตองกล้วยตานี จะต้องนำมาทำความสะอาดก่อนด้วยการเช็ดโดยใช้ผ้านุ่ม ๆ โดยการเช็ด อย่าเช็ดกลับไปกลับมาหรืออย่าเช็ดขวางเส้นใบเป็นอันขาดเพราะจะทำให้ใบตองเสียหายมีรอยแตกและช้ำ ก็ให้พับพอหลวม ๆ เรียงซ้อนกันไว้ให้เป็นระเบียบ หยิบมาทีละใบ ทำกรวยบายศรีการพับหรือฉีกใบตองแบ่งเป็นสามประเภทคือ1 ใบตองสำหรับทำกรวยแม่ฉีกกว้างประมาณ 2 นิ้วฟุต2 ใบตองสำหรับทำกรวยลูกฉีกกว้างประมาณ 2 นิ้วฟุต3 ใบตองสำหรับห่อฉีกกว้างประมาณ 1.5 นิ้วฟุตใบตองแต่ละประเภท กล่าวคือถ้าทำพานบายศรี 3 ชั้นชั้นละ 4 ทิศ (4 ริ้ว) นั่นก็หมายถึงว่าจะมีริ้วทั้งหมด 12 ริ้วในแต่ละริ้วจะประกอบด้วยกรวยแม่ 1 กรวยและกรวยลูก 9 กรวยรวมทั้งสิ้นจะมีกรวยแม่ 12 กรวยและ กรวยลูก 108 กรวยนั่นเอง 12 ชิ้นใบตองสำหรับทำกรวยลูก 108 ชิ้นใบตองสำหรับห่อ 120 ชิ้นนั่นเอง แต่ใบตองสำหรับห่อจะต้องเตรียมไว้เพื่อห่อริ้วอีกคือใน 1 ริ้วจะประกอบไปด้วยกรวยแม่ 1 กรวยกรวยลูก 9 กรวยซึ่งจะต้องมาห่อรวมกัน ดังนั้นจึงต้องเพิ่มใบตองสำหรับห่ออีก 120 ชิ้นรวมเป็นใบตองสำหรับห่อ 240 การพับกรวยและห่อกรวยการพับหรือห่อกรวย มาพับ คือ เพียง แต่กรวยลูกจะมีการนำดอกพุด ให้นำลวดเย็บกระดาษ ก็นำกรวยที่ได้มาห่อ หรือเรียกอีกอย่างว่าห่มผ้าหรือแต่งตัวให้กรวยบายศรีส่วนวิธีการห่อ 6 คือการนำกรวยแม่และ มาห่อมัดรวมเข้าไว้ด้วยกันที่นิยมทำกันใน 1 ริ้วจะประกอบด้วยกรวยแม่ 1 กรวยกรวยลูก 9 กรวยวิธีการห่อริ้ว 2 วิธีคือ1 ห่อแบบตรงคือการห่อโดยเริ่มต้นจากกรวยแม่ หรือหันกรวยลูกเข้าหาตัวผู้ห่อการห่อแบบนี้จะได้ริ้วบายศรีค่อนข้างตรงและในช่วงตัวริ้วจะมีรอยหยักของใบตองห่อเรียกว่ามีเกล็ด2 ห่อแบบหวานคือการห่อโดยเริ่มต้นจากกรวยแม่ และวางซ้อนลงด้านล่างลงไปจนครบหรือหันกรวยแม่เข้าหาตัวผู้ห่อ การห่อแบบนี้จะได้ริ้วบายศรีเป็นลักษณะอ่อนช้อยงอน 20 นาทีเพื่อให้ใบตองเข้ารูปทรงอยู่ตัวตามที่ได้พับและห่อจากนั้น เพื่อให้ริ้วมีความเป็นมันวาวเน้นสีเขียวเข้มของใบตองมากขึ้น มาประกอบเข้ากับพานบายศรี 3 ชั้นที่ได้เตรียมไว้การน้ำริ้วมาประกอบกับพานควรเริ่มต้นจากพานใหญ่สุดท้ายหรือพานที่วางอยู่ชั้นล่างสุดท้ายก่อน 4 ริ้ว (4 ทิศ) มากลัด และชั้นบนสุดก็ใช้วิธีเดียวกัน แต่จะต้องให้ริ้วชั้นที่ 2 วางสลับกับริ้วชั้นแรกและริ้วบนพานชั้นบนสุด เมื่อวางริ้วทั้ง 4 ริ้วเสร็จแล้วให้รวบปลายสุดของริ้วทั้ง 4 เข้าหากัน มาครอบทับยอดทั้ง 4 ของริ้วไว้ซึ่งจะทำให้พานบายศรีที่ได้ เช่นใบเงินใบทอง) มาวางรองบนพาน และนำดอกไม้สีสดเช่นดอกบานไม่รู้โรยหรือดอกดาวเรือง สวมบนยอดหรือทำเป็นอุบะร้อยรอบพานแต่ละชั้นก็จะเพิ่มสีสัน














































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำบายศรีวิธีการทำบายศรี


การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเป็นการเตรียมการที่ดีสามารถดำเนินงานได้ด้วยความเรียบร้อยรวดเร็วซึ่งมีอุปกรณ์ที่ควรจะต้องเตรียมไว้ดังต่อไปนี้

1ใบตอง ( ควรให้ใบตองกล้วยตานี )
2 พานแว่นฟ้าขนาดเล็กกลางใหญ่ผูกติดกันไว้ด้วยลวดและรองพื้นพานด้วยโฟม
3 ภาชนะปากกว้างสำหรับใส่น้ำแช่ใบตอง 2 ใบ
4 สารส้ม
5 น้ำมันมะกอกชนิดสีเหลืองหรือขาว
6ไม้ปลายแหลม ( ขนาดไม้เสียบลูกชิ้น ) ประมาณ 20-30 อัน
7 ดอกไม้ ( ดอกพุดดอกดาวเรืองดอกบานไม่รู้โรยฯลฯ )
8 กรรไกรสำหรับตัดใบตอง
9 ลวดเย็บกระดาษ

การเลือกและการทำความสะอาดใบตอง
ใบตองที่นำมาใช้สำหรับทำบายศรีมักนิยมใช้ใบตองจากกล้วยตานีเนื่องจากเป็นใบตองที่มีลักษณะเป็นเงามันวาวเมื่อโดนน้ำจะยิ่งเกิดประกายสีเขียวเข้มสวยงามยิ่งขึ้นและที่สำคัญใบตองจากกล้วยตานีมีความคงทนไม่เหี่ยวง่ายสามารถนำมาพับม้วนเป็นรูปลักษณะต่างๆได้ง่ายและสามารถเก็บไว้ได้นานหลายวันหรือถ้ารักษาโดยหมั่นพรมน้ำบ่อยๆใบตองกล้วยตานีจะสามารถคงทนอยู่ได้นานเป็นสัปดาห์ทีเดียว
เมื่อได้ใบตองกล้วยตานีมาแล้วจะต้องนำมาทำความสะอาดก่อนด้วยการเช็ดโดยใช้ผ้านุ่มๆเช็ดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆออกจากใบตองเสียก่อนโดยการเช็ดจะต้องใช้ผ้าเช็ดตามรอยของเส้นใบไปในทางเดียวหรืออย่าเช็ดขวางเส้นใบเป็นอันขาดเพราะจะทำให้ใบตองเสียหายมีรอยแตกและช้ำทำให้ไม่สามารถนำใบตองมาใช้งานได้เต็มที่
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: