Extensive research done in the fiel

Extensive research done in the field of psychology has
shown that eye blinking rate decreases when there is an
increase in the cognitive demand [1-2].
Lying is more cognitively demanding than telling the truth
because while lying the liar has to ensure that the lie can
pass off as the truth under various plausible scenarios and
thus has to think hard, to cover all the loopholes. This is
particularly evident when one has to give a false account of
one’s whereabouts, and thus is forced to make up a false
alibi [3].
The existing techniques of lie detection involve the use of
sophisticated equipment and complex techniques like brain
mapping etc. This paper proposes a method for lie detection
in which blink rate of the participant is measured in the
target period (lie detection period) and compared with the
threshold value denoting the normal blink rate of a person.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีวิจัยที่ทำในด้านของจิตวิทยาแสดงที่ดวงตากะพริบราคาลดลงเมื่อมีการเพิ่มขึ้นในความต้องการองค์ความรู้ [1 - 2] นอนตจะเพิ่มเติม cognitively กว่าบอกความจริงเนื่องจากขณะนอนบน คนโกหกที่ต้องให้แน่ใจว่า การโกหกสามารถผ่านออกมาเป็นความจริงภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เป็นไปได้ และจึง มีการคิดยาก ฝาปิดช่องโหว่ทั้งหมด นี้เป็นชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการให้บัญชีผู้ใช้ปลอมของมีเป็นเบาะแส และดังนั้น ถูกบังคับให้ค่าเป็นเท็จเอลิบิ [3]เทคนิคที่มีอยู่ในการตรวจจับโกหกเกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ที่ทันสมัยและเทคนิคที่ซับซ้อนเช่นสมองการแมปฯลฯ กระดาษนี้เสนอวิธีการในการตรวจจับโกหกในกะพริบซึ่งวัดอัตราของผู้เรียนในการกำหนดเป้าหมายระยะเวลา (ระยะเวลาการตรวจจับโกหก) และเมื่อเทียบกับการเกณฑ์ค่าลิปดาปกติอัตราของบุคคลกะพริบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยที่ทำในสาขาจิตวิทยาได้
แสดงให้เห็นว่าการกระพริบตาอัตราลดลงเมื่อมีการ
เพิ่มขึ้นของความต้องการทางปัญญา [1-2].
โกหกเรียกร้องมากขึ้นกว่า cognitively บอกความจริง
เพราะในขณะที่โกหกโกหกมีเพื่อให้มั่นใจว่าโกหก สามารถ
ผ่านออกมาเป็นความจริงภายใต้สถานการณ์ที่เป็นไปได้ต่างๆและ
จึงมีการคิดอย่างหนักเพื่อให้ครอบคลุมช่องโหว่ทั้งหมด นี้เป็น
ที่เห็นได้ชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อหนึ่งมีให้บัญชีที่ผิดพลาดของ
เบาะแสของคนจึงถูกบังคับให้ต้องทำขึ้นเท็จ
แก้ตัว [3].
เทคนิคที่มีอยู่ของการตรวจจับโกหกเกี่ยวข้องกับการใช้งานของ
อุปกรณ์ที่ทันสมัยและเทคนิคที่ซับซ้อนเช่นสมอง
ทำแผนที่ ฯลฯ บทความนี้นำเสนอวิธีการตรวจหาการโกหก
ในการที่กระพริบตาอัตราของผู้เข้าร่วมเป็นวัดใน
ระยะเวลาเป้าหมาย (โกหกระยะเวลาการตรวจสอบ) และเมื่อเทียบกับ
ค่าเกณฑ์แสดงถึงอัตราการกระพริบตาปกติของบุคคล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำวิจัยอย่างละเอียดในด้านจิตวิทยาได้แสดงว่า ตากระพริบอัตราลดลงเมื่อมีการเพิ่มความต้องการ [ 1-2 ]การโกหกเป็นมากกว่าการประมวลผลต้องมากกว่า พูดความจริงเพราะในขณะที่โกหกโกหกโกหกจะได้เพื่อให้แน่ใจว่าผ่านออกมาเป็นจริงภายใต้สถานการณ์ที่เป็นไปได้ต่าง ๆจึงต้องคิดให้หนัก เพื่อปิดช่องโหว่ทั้งหมด นี้คือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อมีการส่งบัญชีเท็จของหนึ่งอยู่ที่ไหน จึงถูกบังคับให้ขึ้นเป็นเท็จพยาน [ 3 ]มีอยู่เทคนิคจับโกหก เกี่ยวข้องกับการใช้ของอุปกรณ์ที่ทันสมัยและเทคนิคที่ซับซ้อน เช่น สมองแผนที่ ฯลฯ กระดาษนี้นำเสนอวิธีการตรวจจับโกหกซึ่งกระพริบตา คะแนนของผู้เข้าร่วมเป็นวัดในระยะเป้าหมาย ( โกหกระยะเวลาการตรวจสอบ ) และเมื่อเทียบกับเกณฑ์ค่า denoting ปกติกระพริบตาเท่ากันของคน