The Dust Bowl เกิดขึ้นในปี 1930 เป็

The Dust Bowl เกิดขึ้นในปี 1930 เป็นพายุฝุ่นเกิดขึ้นในฤดูแล้งโดยเกิดในเขตที่ราบใหญ่ พัดเอาฝุ่นมาทำให้ท้องฟ้ามืด ฝุ่นได้ทำให้มนุษย์และสัตว์หายใจได้ลำบากและยังเป็นโรคหืดหอบ การหายใจมีเสียง มีอาการหอบ แน่นหน้าอกและมีอาการไอ พายุฝุ่นส่งผลกระทบต่อพืชผลและต้นไม้ต่างๆ รัฐบาลได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือผู้คน การเกษตรเสียหายนับล้าน ข้าวสาลีไม่ได้เติบโตพวกเขาไม่สามารถขายพืชผันได้ เพื่อบรรเทาภัยแล้งบริการของกรมวิชาการเกษตรที่ซื้อกว่า8ล้านวัวในปี1934และปี1935รัฐบาลได้เป็นเจ้าของวัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก Soil Conservation Service(SCS)ได้ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิควัสดุและอุปกรณ์เพื่อให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการทำงานอนุรักษ์ในฟาร์มและทุ่ง แต่การระบาดของสงครามครั้งที่สองทำให้เกษตรกรละทิ้งเทคนิคของSCS การทำฟาร์มอีกครั้งของเกษตรกรได้ยายตัวและเติบโตอีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชามฝุ่นเกิดขึ้นในปี 1930 เป็นพายุฝุ่นเกิดขึ้นในฤดูแล้งโดยเกิดในเขตที่ราบใหญ่พัดเอาฝุ่นมาทำให้ท้องฟ้ามืดฝุ่นได้ทำให้มนุษย์และสัตว์หายใจได้ลำบากและยังเป็นโรคหืดหอบการหายใจมีเสียงมีอาการหอบแน่นหน้าอกและมีอาการไอพายุฝุ่นส่งผลกระทบต่อพืชผลและต้นไม้ต่าง ๆ รัฐบาลได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือผู้คนการเกษตรเสียหายนับล้านข้าวสาลีไม่ได้เติบโตพวกเขาไม่สามารถขายพืชผันได้ เพื่อบรรเทาภัยแล้งบริการของกรมวิชาการเกษตรที่ซื้อกว่า8ล้านวัวในปี1934และปี1935รัฐบาลได้เป็นเจ้าของวัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดิน Conservation บริการ (อันคุ้มค่า) ได้ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิควัสดุและอุปกรณ์เพื่อให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการทำงานอนุรักษ์ในฟาร์มและทุ่ง แต่การระบาดของสงครามครั้งที่สองทำให้เกษตรกรละทิ้งเทคนิคของSCS การทำฟาร์มอีกครั้งของเกษตรกรได้ยายตัวและเติบโตอีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฝุ่นชามเกิดขึ้นในปี 1930 พัดเอาฝุ่นมาทำให้ท้องฟ้ามืด การหายใจมีเสียงมีอาการหอบแน่นหน้าอกและมีอาการไอ การเกษตรเสียหายนับล้าน การอนุรักษ์ดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฝุ่นชามเกิดขึ้นในปี 1930 เป็นพายุฝุ่นเกิดขึ้นในฤดูแล้งโดยเกิดในเขตที่ราบใหญ่พัดเอาฝุ่นมาทำให้ท้องฟ้ามืดฝุ่นได้ทำให้มนุษย์และสัตว์หายใจได้ลำบากและยังเป็นโรคหืดหอบการหายใจมีเสียงมีอาการหอบพายุฝุ่นส่งผลกระทบต่อพืชผลและต้นไม้ต่างๆรัฐบาลได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือผู้คนการเกษตรเสียหายนับล้านข้าวสาลีไม่ได้เติบโตพวกเขาไม่สามารถขายพืชผันได้บริการการอนุรักษ์ดิน ( SCS ) ได้ให้ความช่วยเหลือทางเทคนิควัสดุและอุปกรณ์เพื่อให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการทำงานอนุรักษ์ในฟาร์มและทุ่งแต่การระบาดของสงครามครั้งที่สองทำให้เกษตรกรละทิ้งเทคนิคของ SCS