ประวัติและชีวิตการทำงานของ สตีฟ จอบส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิล (Apple: Company Co-founder Steve Jobs Has Died)
เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) มักจะท้าทายขีดความสามารถของอุปกรณ์ไฮเทคอยู่เสมอ ชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดผู้นี้ดูเหมือนจะรู้ว่าผู้บริโภคต้องการอะไร ก่อนที่ผู้บริโภคจะรู้ความต้องการของตัวเองเสียอีก
การที่เขานำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้งานง่ายออกสู่ตลาดให้คนส่วนใหญ่ได้ใช้นั้น ทำให้งานอดิเรกของหนุ่มบ้าคอมพิวเตอร์คนหนึ่งกลายมาเป็นเสาหลักสำคัญในชีวิตประจำวันของคนสมัยใหม่เลยทีเดียว
เครื่องคอมพิวเตอร์แอปเปิล II (Apple II) ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นกับผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแอปเปิล สตีฟ วอซนิแอ็ค (Steve Wozniak) ในโรงรถ และได้วางขายเมื่อปี ค.ศ. 1977 ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง IMB ต้องกระวนกระวายรีบพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของตัวเองเพื่อวางขายบ้าง
แต่เมื่อถึงปี ค.ศ. 1985 ยอดขายที่ตกลงและบริษัทคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลคู่แข่งอย่างวินโดว์ส บีบให้จอบส์ต้องลาออกจากบริษัทที่เขาเองร่วมก่อตั้งขึ้นมา
ในช่วงเวลาสิบปีต่อมา จอบส์ได้เป็นผู้บริหารของบริษัทสองบริษัท คือ เนกซ์ (Next) บริษัทคอมพิวเตอร์ที่สร้างสรรค์พื้นฐานของซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการของบริษัทแอปเปิลในปัจจุบัน อย่าง Mac OS 10 และ บริษัท พิกซาร์ (Pixar) สตูดิโอสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่โด่งดังมาจากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง ทอย สตอรี (Toy Story)
เมื่อปี ค.ศ. 1997 ที่จอบส์ได้กลับมาอยู่กับแอปเปิล เขายังคงทำหน้าที่อยู่ในสองบริษัท คือเป็นทั้ง CEO ของพิกซาร์ และของแอปเปิล แต่สุดท้าย จอบส์ได้ขายพิกซาร์ให้กับดีสนีย์ โดยแลกกับหุ้นของดีสนีย์ในจำนวนที่มากขนาดที่ทำให้เขาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัทดีสนีย์
สตีฟ จอบส์มักปรากฏตัวบนเวที ในชุดที่เป็นเหมือนยูนิฟอร์มของเขา คือกางเกงยีนส์กับเสื้อคอเต่าสีดำ แล้วทำให้ผู้ชมตกอยู่ในภวังค์เมื่อฟังการอธิบายเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์แม็ค iPhone และ iPad รุ่นใหม่ๆ นวัตกรรมเหล่านี้ทำให้แอปเปิลเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยได้แซงหน้าคู่แข่งตลอดกาลอย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft) ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2010
จอบส์ไม่ได้เฝ้าฝันและจิตนาการสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ขึ้นมา แต่ความเป็นอัจฉริยะของเขาอยู่ตรงที่สามารถสังเกตเห็นเทคโนโลยีน่าสนใจใหม่ๆและนำมาประยุกต์ให้ผู้บริโภคทั่วไปใช้ได้ ในซีรีย์สารคดีเรื่อง “Triumph of the Nerds” ของสถานีโทรทัศน์ PBS ที่ออกอากาศเมื่อปี ค.ศ. 1996 จอบส์เคยพูดเอาไว้เองว่าบริษัทแอปเปิลเคยไม่อายที่จะต้องขโมยความคิดที่ยอดเยี่ยมของผู้อื่น
ภายใต้การบริหารงานของจอบส์ บริษัทแอปเปิลมักจะปิดการทำงานของบริษัทเป็นความลับมากเสียจนทำให้นักลงทุนและสื่อมวลชนหงุดหงิดกันอยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตาม เขาก็สามารถทำให้แอปเปิลลอยตัวขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าการตลาดมากที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นในทุกรูปแบบ
จอบส์ลาออกจากการเป็น CEO ของแอปเปิลเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011 หลังจากต้องพักงานไปหลายครั้งเนื่องจากปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการปลูกถ่ายตับ และการเข้ารับการรักษามะเร็งในตับอ่อน (pancreas cancer)
สตีเฟน พอล จอบส์ (Steven Paul Jobs) ยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไปในความทรงจำของคนในครอบครับ ซึ่งได้แก่ พี่สาวแท้ๆของเขา โมนา ซิมสัน ลูกสาว ลิซา เบรนเนน จอบส์ และภรรยาของเขา ลอรีน พาวเวล และลูกๆทั้งสามของพวกเขา
10 ผลงานครองใจผู้บริโภคของ สตีฟ จ็อบส์
การจากไปอย่างไม่หวนคืนของสตีฟ จ๊อบส์ นับเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี เพลง ภาพยนต์ เกมส์ สิ่งพิมพ์ และการสื่อสาร เพราะในช่วงชีวิตของสตีฟ จ๊อปส์ เขาได้สร้างความเปลี่ยนแปลงมากมายกับอุตสาหกรรมเหล่านี้
สตีฟ จ๊อบส์ ยังนับเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลด้านความคิดของนักออกแบบและการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภคอีกด้วย จัดได้ว่าเป็นผู้รู้ที่เข้าใจงานออกแบบและการใช้งานสิ่งประดิษฐ์ได้ลึกซึ้งกว่าใคร เห็นได้จากคำกล่าวของ สตีฟ จ๊อบส์ ที่ว่า ‘Design is not just what it looks like and feels like. Design is how it works.’
จึงขอหวนมอง 10 ผลงานของสตีฟ จ๊อบส์ ที่ครองใจผู้บริโภคให้รำลึกถึง
1. Macintosh (1984)
แอ๊ปเปิ้ลแมคอินท๊อชนับเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่สตีฟ จ็อบส์ เริ่มสร้างประสบการณ์ใหม่ในการใช้คอมพิวเตอร์แก่ผู้บริโภค ให้ใช้งานง่าย และเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่ใช้เมาส์และจอภาพที่แสดงผลเป็นกราฟฟิค และยังเผยแพร่โฆษณาเรื่อง “Blade Runner” ถือเป็นการประกาศศึกระหว่าง Mac และ PC โดยแอ๊ปเปิ้ลมักจะชูจุดเด่นในด้านงานดีไซน์ที่เข้าใจผู้บริโภคเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีผู้ใช้เครื่อง Mac กว่า 54 ล้านเครื่องทั่วโลก
2. Pixar (1986)
Pixar ได้สร้างปรากฎการ์ณใหม่กับวงการภาพยนต์แอนนิเมชั่น ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ความเร็วสูงในการออกแบบภาพยนตร์ 3 มิติ โดยสตีฟ จ๊อบส์ ได้ชมว่าแอนนิเมเตอร์ผู้สร้างสรรค์ผลงาน คือ หัวใจของ Pixar ในการเล่าเรื่องราว (Storytelling) ต่างๆ ให้ปรากฎขึ้น และหวังว่าภาพยนตร์ของ Pixar อย่างเช่น Toy Story จะมีผู้ชมและกล่าวขวัญถึงนานนับ 100 ปี
3. iMac (1998)
แอ๊ปเปิ้ลไอแมคแสดงให้เห็นถึงการกลับมาอีกครั้งของสตีฟ จ๊อบส์ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ใส มองทะลุได้ มีสีสันเหมือนลูกกวาด โดยประกอบอุปกรณ์หลักทั้งหมดเข้าด้วยกันเป็นชิ้นเดียว เป็นผลงานการออกแบบของ Jonathan Ive จนทำให้เขาได้รับรางวัล Designer of the Year Award ในปี 2003 จาก Design Museum ประเทศอังกฤษ
4. iPod (2001)
นับเป็นสิ่งประดิษฐ์แรกที่นำแอ๊ปเปิ้ลก้าวเข้าสู่ธุรกิจดนตรี ซึ่งในเวลานั้นยังไม่มี Market Leader ที่แท้จริง และแอ๊ปเปิ้ลได้เปลี่ยนอุตสาหกรรมดนตรีไปตลอดกาล โดย iPod เป็น MP3 Music Player ที่บรรจุเพลง 1,000 เพลงเข้าไว้ในฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 5 GB ขนาดเท่าซองบุหรี่ จึงสะดวกต่อการพกพา สร้างไลฟ์สไตล์ให้กับคนรุ่นใหม่ที่ต้องมีติดตัวตลอดเวลา
5. iTunes Store (2003)
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่จะสร้างร้านค้าเพลงของคนทั้งโลกที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่ง มีเพลงจำหน่ายกว่า 18 ล้านเพลง และมีสมาชิกมากกว่า 225 ล้านคน ในเดือนตุลาคมนี้มียอดการดาวน์โหลดเพลงถึง 16 พันล้านครั้ง โดยมีงบที่ใช้ในการให้บริการสูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่่งนับเป็นเงินลงทุนก้อนใหญ่ที่ยากที่บริษัททั่วไปจะแข่งขันได้
นอกจากเพลงแล้ว ยังมียอดการดาวน์โหลด e-Book ผ่าน iBookstore กว่า 130 ล้านครั้ง และการเชื่อมบริการเข้าไว้กับ iCloud