ประวัติพระพุทธชินราช พระ พุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณ การแปล - ประวัติพระพุทธชินราช พระ พุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณ ไทย วิธีการพูด

ประวัติพระพุทธชินราช พระ พุทธชินราช

ประวัติพระพุทธชินราช

พระ พุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงาม ซึ่งจัดได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุด องค์พระมีขนาดหน้าตักกว้าง ๕ ศอก ๑ คืบ ๕ นิ้ว (๒.๘๗๕ เมตร) สูงเจ็ดศอก (๓.๕ เมตร) หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดเงาเกลี้ยง เป็นพระพุทธรูปที่อยู่คู่เมืองพิษณุโลกมาตั้งแต่สมัยโบราณกาล สันนิษฐานว่าสมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงปิดทองเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๑๔๖ และเมื่อ ๒๔๗๘ ได้มีการลงรักปิดทองเต็มองค์อีกครั้งหนึ่ง ให้พุทธศาสนิกชนได้ สักการะ บูชาอยู่จนถึงปัจจุบัน ปัจจุบันพระพุทธชินราชประดิษฐานอยู่ ณ พระวิหารทางทิศตะวันตกของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร องค์พระนั่งขัดสมาธิอยู่บนฐานชุกชีบัวคว่ำบัวหงายพระพักตร์หันไปทางทิศตะวัน ตก (ด้านริมแม่น้ำน่าน) มีซุ้มเรือนแก้วและสลักด้วยไม้สักลงรักปิดทอง ประดับเนื้อพระปฤษฎางค์ ประณีตอ่อนช้อยงดงาม มีความศักดิ์สิทธิ์ น่าเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง และช่วยเน้นให้พระวรกายของพระพุทธชินราชงามเด่น ชัดเจนยิ่งขึ้น
พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย แต่มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากสุโขทัยประยุกต์ เพราะเกศมีรัศมียาวเป็นเปลวเพลิง วงพระพักตร์ค่อนข้างกลมไม่ยาวรีเหมือนมะตูม เช่น พระพุทธรูปสมัยสุโขทัยมีพระอุณาโลมผลิ อยู่ระหว่างพระโขนง พระวรกายอวบอ้วนมี สังฆา ยาวปลายหยักเป็นเขี้ยวตะขาบ ฝังด้วยแก้วนิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน ฝ่าพระบาท แบนราบค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับยุคสุโขทัย ส้นพระบาทยาวมีรูป อาฬวก ยักษ์และรูปท้าวเวสสุวัณหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์เฝ้าอยู่ที่พระเพลาเบื้องขวาและ ซ้ายขององค์ตามลำดับ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่เรียกขานกันว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านในบริเวณตัวเมืองเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช พระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่างามที่สุดองค์หนึ่งของไทย พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปที่พุทธศาสนิกชนนับถือมาตั้งแต่โบราณ สันนิฐานว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไท โปรดให้สร้างขึ้นในคราวเดียวกับพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดาครั้งสถาปนา เมืองพิษณุโลกเป็นเมืองลูกหลวงในพุทธศักราช ๑๙๐๐ พระพุทธชินราชคือประจักษ์พยานถึงความสูงส่ง ทางฝีมือและความฉลาดลึกซึ้งของช่างในยุคนั้นนอกจากองค์พระจะงดงามโดยพุทธ ลักษณะคือเป็นการนำเอาลักษณะที่งามตามแบบอย่างพระพุทธรูปสุโขทัยกับ เชียงใหม่มาผสมผสานกันอย่างลงตัวแล้วการประดิษฐานองค์พระในจุดที่พอดีทั้ง เรื่องแสงเงาและมุมมองยังมีส่วนสำคัญให้เราได้รับความงามนั้นอย่างเต็มที่ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝีมือที่สร้างโดยมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น เมื่อสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จมานมัสการพระพุทธชินราชครั้งแรกในปี ๒๔๓๕ ทรงบันทึกไว้ว่า "เวลานั้นยังมิได้ปฏิสังขรณ์แก้ไขพระวิหารให้สว่างอย่างทุกวันนี้ พอไปถึงประตูวิหารแลเข้าไปข้างใน ดูที่อื่นมืดหมดเห็นแต่องค์พระชินราชตระหง่านงามเหมือนลอยอยู่ในอากาศ เห็นเข้าก็จับใจเกิดเลื่อมใสในทันที เพราะเขาทำช่องแสงสว่างเข้าทางประตูใหญ่ด้านหน้าแต่ทางเดียว พระชินราชตั้งอยู่ข้างในตรงประตูและเป็นของปิดทอง จึงแลเห็นก่อนสิ่งอื่นในวิหาร" ต่อมาได้มีการเจาะหลังคาวิหารให้แสงสว่างเข้าได้มากขึ้น ซึ่งกลับทำให้องค์พระไม่เด่นเช่นที่เป็นมาแต่โบราณ อีกประการหนึ่งได้แก่การกำหนดตั้งองค์พระให้หน้าตักอยู่ในระดับสายตาในวิหาร ซึ่งมีรูปทรงยาวเปรียบประดุจกล้องส่องกำกับระยะการมองให้ได้คมชัดที่สุดช่วย ให้เราเห็นความงามได้เต็มที่ ข้อนี้ท่านผู้รู้กล่าวไว้ว่าหากพระพุทธชินราชไปประดิษฐานอยู่ในวิหารสั้น ๆ และองค์พระตั้งอยู่สูงจนต้องแหงนหน้าดูจะไม่งามได้เท่าที่เป็นอยู่นี้ พระพุทธชินราชนั้นมิได้ "เป็นหลักเป็นศรี" เฉพาะแก่จังหวัดพิษณุโลกเท่านั้นดังที่พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าฯ ทรงสรรเสริญว่า "ถ้าพระพุทธชินราชยังคงอยู่ที่เมืองพิษณุโลก ตราบใดเมืองพิษณุโลกจะเป็นเมืองที่ควรไปเที่ยวอยู่ตราบนั้นถึงในเมือง พิษณุโลกจะไม่มีชิ้นอะไรเหลืออยู่อีกเลย ขอให้มีแต่พระพุทธชินราชเหลืออยู่แล้ว ยังคงจะอวดได้อยู่เสมอว่า มีของควรดูควรชมอย่างยิ่งอย่างหนึ่งในเมืองเหนือ หรือจะว่าในเมืองไทยทั้งหมดก็ได้
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติพระพุทธชินราช พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามซึ่งจัดได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดองค์พระมีขนาดหน้าตักกว้าง ๕ ศอก ๑ คืบ ๕ นิ้ว (๒.๘๗๕เมตร) สูงเจ็ดศอก (๓.๕เมตร) หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดเงาเกลี้ยงเป็นพระพุทธรูปที่อยู่คู่เมืองพิษณุโลกมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลสันนิษฐานว่าสมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงปิดทองเป็นครั้งแรกเมื่อพ.ศ. ๒๑๔๖ และเมื่อ ๒๔๗๘ ได้มีการลงรักปิดทองเต็มองค์อีกครั้งหนึ่งให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชาอยู่จนถึงปัจจุบันปัจจุบันพระพุทธชินราชประดิษฐานอยู่ณพระวิหารทางทิศตะวันตกของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารองค์พระนั่งขัดสมาธิอยู่บนฐานชุกชีบัวคว่ำบัวหงายพระพักตร์หันไปทางทิศตะวันตก (ด้านริมแม่น้ำน่าน) มีซุ้มเรือนแก้วและสลักด้วยไม้สักลงรักปิดทองประดับเนื้อพระปฤษฎางค์ประณีตอ่อนช้อยงดงามมีความศักดิ์สิทธิ์น่าเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่งและช่วยเน้นให้พระวรกายของพระพุทธชินราชงามเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยแต่มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากสุโขทัยประยุกต์เพราะเกศมีรัศมียาวเป็นเปลวเพลิงวงพระพักตร์ค่อนข้างกลมไม่ยาวรีเหมือนมะตูมเช่นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยมีพระอุณาโลมผลิอยู่ระหว่างพระโขนงพระวรกายอวบอ้วนมีสังฆายาวปลายหยักเป็นเขี้ยวตะขาบฝังด้วยแก้วนิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกันฝ่าพระบาทแบนราบค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับยุคสุโขทัยส้นพระบาทยาวมีรูปอาฬวกยักษ์และรูปท้าวเวสสุวัณหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์เฝ้าอยู่ที่พระเพลาเบื้องขวาและซ้ายขององค์ตามลำดับ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารหรือที่เรียกขานกันว่า "วัดใหญ่" ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านในบริเวณตัวเมืองเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชพระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่างามที่สุดองค์หนึ่งของไทยพระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปที่พุทธศาสนิกชนนับถือมาตั้งแต่โบราณสันนิฐานว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไทโปรดให้สร้างขึ้นในคราวเดียวกับพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดาครั้งสถาปนาเมืองพิษณุโลกเป็นเมืองลูกหลวงในพุทธศักราช ๑๙๐๐ พระพุทธชินราชคือประจักษ์พยานถึงความสูงส่งทางฝีมือและความฉลาดลึกซึ้งของช่างในยุคนั้นนอกจากองค์พระจะงดงามโดยพุทธลักษณะคือเป็นการนำเอาลักษณะที่งามตามแบบอย่างพระพุทธรูปสุโขทัยกับเชียงใหม่มาผสมผสานกันอย่างลงตัวแล้วการประดิษฐานองค์พระในจุดที่พอดีทั้งเรื่องแสงเงาและมุมมองยังมีส่วนสำคัญให้เราได้รับความงามนั้นอย่างเต็มที่ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝีมือที่สร้างโดยมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จมานมัสการพระพุทธชินราชครั้งแรกในปี ๒๔๓๕ ทรงบันทึกไว้ว่า "เวลานั้นยังมิได้ปฏิสังขรณ์แก้ไขพระวิหารให้สว่างอย่างทุกวันนี้พอไปถึงประตูวิหารแลเข้าไปข้างในดูที่อื่นมืดหมดเห็นแต่องค์พระชินราชตระหง่านงามเหมือนลอยอยู่ในอากาศเห็นเข้าก็จับใจเกิดเลื่อมใสในทันทีเพราะเขาทำช่องแสงสว่างเข้าทางประตูใหญ่ด้านหน้าแต่ทางเดียวพระชินราชตั้งอยู่ข้างในตรงประตูและเป็นของปิดทองจึงแลเห็นก่อนสิ่งอื่นในวิหาร"ต่อมาได้มีการเจาะหลังคาวิหารให้แสงสว่างเข้าได้มากขึ้นซึ่งกลับทำให้องค์พระไม่เด่นเช่นที่เป็นมาแต่โบราณอีกประการหนึ่งได้แก่การกำหนดตั้งองค์พระให้หน้าตักอยู่ในระดับสายตาในวิหารซึ่งมีรูปทรงยาวเปรียบประดุจกล้องส่องกำกับระยะการมองให้ได้คมชัดที่สุดช่วยให้เราเห็นความงามได้เต็มที่ข้อนี้ท่านผู้รู้กล่าวไว้ว่าหากพระพุทธชินราชไปประดิษฐานอยู่ในวิหารสั้นๆ และองค์พระตั้งอยู่สูงจนต้องแหงนหน้าดูจะไม่งามได้เท่าที่เป็นอยู่นี้พระพุทธชินราชนั้นมิได้ "เป็นหลักเป็นศรี"เฉพาะแก่จังหวัดพิษณุโลกเท่านั้นดังที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ทรงสรรเสริญว่า"ถ้าพระพุทธชินราชยังคงอยู่ที่เมืองพิษณุโลกตราบใดเมืองพิษณุโลกจะเป็นเมืองที่ควรไปเที่ยวอยู่ตราบนั้นถึงในเมืองพิษณุโลกจะไม่มีชิ้นอะไรเหลืออยู่อีกเลยขอให้มีแต่พระพุทธชินราชเหลืออยู่แล้วยังคงจะอวดได้อยู่เสมอว่ามีของควรดูควรชมอย่างยิ่งอย่างหนึ่งในเมืองเหนือหรือจะว่าในเมืองไทยทั้งหมดก็ได้
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติพระพุทธชินราชพระ องค์พระมีขนาดหน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว (2.875 เมตร) สูงเจ็ดศอก (3.5 เมตร) หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดเงาเกลี้ยง พ.ศ. 2146 และเมื่อ 2478 ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชาอยู่จนถึงปัจจุบัน ณ วรมหาวิหาร ตก (ด้านริมแม่น้ำน่าน) ประดับเนื้อพระปฤษฎางค์ประณีตอ่อนช้อยงดงามมีความศักดิ์สิทธิ์น่าเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง เพราะเกศมีรัศมียาวเป็นเปลวเพลิง เช่น อยู่ระหว่างพระโขนงพระวรกายอวบอ้วนมีสังฆายาวปลายหยักเป็นเขี้ยวตะขาบ ฝ่าพระบาท ส้นพระบาทยาวมีรูปอาฬวก หรือที่เรียกขานกันว่า "วัดใหญ่" 1900 2435 ทรงบันทึกไว้ว่า พอไปถึงประตูวิหารแลเข้าไปข้างใน จึงแลเห็นก่อนสิ่งอื่นในวิหาร " ให้เราเห็นความงามได้เต็มที่ ๆ พระพุทธชินราชนั้นมิได้ "เป็นหลักเป็นศรี" พระมงกุฎเกล้าฯทรงสรรเสริญว่า ยังคงจะอวดได้อยู่เสมอว่า หรือจะว่าในเมืองไทยทั้งหมดก็ได้



การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติพระพุทธชินราช

พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีลักษณะงดงามซึ่งจัดได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุดองค์พระมีขนาดหน้าตักกว้าง๕ศอก๑คืบ๕นิ้ว ( ๒ . ๘๗๕เมตร ) สูงเจ็ดศอก ( กัน .๕เมตร ) หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ขัดเงาเกลี้ยงเป็นพระพุทธรูปที่อยู่คู่เมืองพิษณุโลกมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลสันนิษฐานว่าสมเด็จพระเอกาทศรถได้ทรงปิดทองเป็นครั้งแรกเมื่อพ . ศ .๒๑๔๖และเมื่อ๒๔๗๘ได้มีการลงรักปิดทองเต็มองค์อีกครั้งหนึ่งให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชาอยู่จนถึงปัจจุบันปัจจุบันพระพุทธชินราชประดิษฐานอยู่ณพระวิหารทางทิศตะวันตกของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารตก ( ด้านริมแม่น้ำน่าน ) มีซุ้มเรือนแก้วและสลักด้วยไม้สักลงรักปิดทองประดับเนื้อพระปฤษฎางค์ประณีตอ่อนช้อยงดงามมีความศักดิ์สิทธิ์น่าเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่งและช่วยเน้นให้พระวรกายของพระพุทธชินราชงามเด่น
พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยแต่มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างไปจากสุโขทัยประยุกต์เพราะเกศมีรัศมียาวเป็นเปลวเพลิงวงพระพักตร์ค่อนข้างกลมไม่ยาวรีเหมือนมะตูมเช่นอยู่ระหว่างพระโขนงพระวรกายอวบอ้วนมีสังฆายาวปลายหยักเป็นเขี้ยวตะขาบฝังด้วยแก้วนิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกันฝ่าพระบาทแบนราบค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับยุคสุโขทัยส้นพระบาทยาวมีรูปอาฬวกซ้ายขององค์ตามลำดับ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารหรือที่เรียกขานกันว่า " วัดใหญ่ " ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านในบริเวณตัวเมืองเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชพระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่างามที่สุดองค์หนึ่งของไทยสันนิฐานว่าสมเด็จพระมหาธรรมราชาลิไทโปรดให้สร้างขึ้นในคราวเดียวกับพระพุทธชินสีห์และพระศรีศาสดาครั้งสถาปนาเมืองพิษณุโลกเป็นเมืองลูกหลวงในพุทธศักราช๑๙๐๐พระพุทธชินราชคือประจักษ์พยานถึงความสูงส่งลักษณะคือเป็นการนำเอาลักษณะที่งามตามแบบอย่างพระพุทธรูปสุโขทัยกับเชียงใหม่มาผสมผสานกันอย่างลงตัวแล้วการประดิษฐานองค์พระในจุดที่พอดีทั้งซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นฝีมือที่สร้างโดยมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้นเมื่อสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จมานมัสการพระพุทธชินราชครั้งแรกในปี๒๔๓๕ทรงบันทึกไว้ว่าพอไปถึงประตูวิหารแลเข้าไปข้างในดูที่อื่นมืดหมดเห็นแต่องค์พระชินราชตระหง่านงามเหมือนลอยอยู่ในอากาศเห็นเข้าก็จับใจเกิดเลื่อมใสในทันทีเพราะเขาทำช่องแสงสว่างเข้าทางประตูใหญ่ด้านหน้าแต่ทางเดียวจึงแลเห็นก่อนสิ่งอื่นในวิหาร " ต่อมาได้มีการเจาะหลังคาวิหารให้แสงสว่างเข้าได้มากขึ้นซึ่งกลับทำให้องค์พระไม่เด่นเช่นที่เป็นมาแต่โบราณซึ่งมีรูปทรงยาวเปรียบประดุจกล้องส่องกำกับระยะการมองให้ได้คมชัดที่สุดช่วยให้เราเห็นความงามได้เต็มที่ข้อนี้ท่านผู้รู้กล่าวไว้ว่าหากพระพุทธชินราชไปประดิษฐานอยู่ในวิหารสั้นไม่มีพระพุทธชินราชนั้นมิได้ " เป็นหลักเป็นศรี " เฉพาะแก่จังหวัดพิษณุโลกเท่านั้นดังที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯทรงสรรเสริญว่า " ถ้าพระพุทธชินราชยังคงอยู่ที่เมืองพิษณุโลกพิษณุโลกจะไม่มีชิ้นอะไรเหลืออยู่อีกเลยขอให้มีแต่พระพุทธชินราชเหลืออยู่แล้วยังคงจะอวดได้อยู่เสมอว่ามีของควรดูควรชมอย่างยิ่งอย่างหนึ่งในเมืองเหนือหรือจะว่าในเมืองไทยทั้งหมดก็ได้
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: