in that such firms make almost no u

in that such firms make almost no use of ‘traditional’ derivatives-based hedging strategies. In this paper I examine an alternative margin along which firms manage market risk, by analyzing firms’ choices between fixed and variable rate loans. First I develop a simple agency model in which both firms
and lenders are financially constrained. In equilibrium, banks charge a premium on fixed rate debt to compensate them for assuming the interest rate risk of the loan. Firms who are likely to be financially constrained in future periods will be willing to pay this premium, firms who are likely to be unconstrained will not. I test these and other predictions using microeconomic data on a sample of bank dependent US firms. Small firms and young firms (two measures of financial constraints) as well as firms with higher growth rates, lower current cash flows and less wealthy owners are significantly more likely to choose fixed rate debt. Firms also adjust their exposure depending on how interest rate shocks covary with industry cash flows. I also find evidence that lenders do charge a premium on fixed rate loans even after controlling for
the term premium. Finally, I provide supporting anecdotal evidence from a series of interviews with business lenders and present some quantitative comparisons of the significance of this risk management channel. I conclude that small US firms use the banking system to help manage interest rate risk, and discuss implications for the balance sheet and bank lending channels of monetary policy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่ บริษัทดังกล่าวทำให้แทบไม่ใช้ 'ดั้งเดิม' กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงโดยใช้อนุพันธ์ ในเอกสารนี้ ฉันตรวจสอบระยะขอบการอื่นตามที่บริษัทจัดการความเสี่ยงของตลาด โดยการวิเคราะห์ทางเลือกของบริษัทระหว่างสินเชื่ออัตราคงที่ และผันแปร ครั้งแรก ที่ฉันพัฒนาแบบอย่างหน่วยงานในบริษัททั้งสองที่และผู้ให้กู้มีเงินจำกัด ในสมดุล ธนาคารคิดค่าธรรมเนียมพิเศษในอัตราคงที่หนี้เพื่อชดเชยเหล่านั้นโดยความเสี่ยงของอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้ บริษัทที่มีแนวโน้มจะ unconstrained จะบริษัทที่มีแนวโน้มการเงินในรอบระยะเวลา จะยินดีจ่ายค่าจ้างพิเศษนี้ หรือไม่ ผมทดสอบเหล่านี้และการคาดการณ์อื่นใช้ microeconomic ข้อมูลในตัวอย่างของธนาคารขึ้นอยู่กับบริษัทเรา บริษัทเล็ก และบริษัทหนุ่มสาว (สองมาตรการของข้อจำกัดทางการเงิน) รวมทั้งบริษัท มีอัตราเติบโตที่สูงขึ้น ลดกระแสเงินสดปัจจุบัน และน้อยกว่าเจ้าของรวยมักมากเลือกหนี้อัตราคงที่ บริษัทยังปรับการรับแสงของพวกเขาตามวิธีอัตราดอกเบี้ยแรงกระแทก covary กับอุตสาหกรรมเงินทุนหมุนเวียน นอกจากนี้ยังพบหลักฐานที่ผู้ให้กู้คิดค่าเบี้ยประกันในอัตราคงที่เงินกู้ยืมแม้หลังจากการควบคุมสำหรับเงื่อนไขพิเศษ ในที่สุด ฉันให้การสนับสนุนหลักฐานเล็ก ๆ จากชุดของการสัมภาษณ์กับผู้ให้กู้ธุรกิจ และนำเสนอบางเปรียบเทียบเชิงปริมาณของความสำคัญของช่องทางการบริหารความเสี่ยงนี้ ผมสรุปว่า บริษัทสหรัฐอเมริกาขนาดเล็กใช้ระบบธนาคารเพื่อช่วยในการจัดการความเสี่ยงของอัตราดอกเบี้ย และอภิปรายผลในงบดุลและช่องทางของนโยบายการเงินการให้กู้ยืมธนาคาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใน บริษัท ดังกล่าวที่ทำให้เกือบจะไม่มีประโยชน์ของ 'ดั้งเดิม' สัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง ในบทความนี้ผมตรวจสอบอัตรากำไรทางเลือกตามที่ บริษัท จัดการความเสี่ยงด้านตลาดโดยการวิเคราะห์ทางเลือกที่ บริษัท ระหว่างที่คงที่และเงินกู้ยืมอัตราตัวแปร ครั้งแรกที่ฉันพัฒนารูปแบบหน่วยงานที่เรียบง่ายซึ่งทั้งสอง บริษัท
และผู้ให้กู้มีข้อ จำกัด ทางการเงิน อยู่ในภาวะสมดุลธนาคารคิดค่าพรีเมี่ยมของตราสารหนี้อัตราดอกเบี้ยคงที่เพื่อชดเชยพวกเขาสำหรับความเสี่ยงสมมติว่าอัตราดอกเบี้ยของเงินให้กู้ยืม บริษัท ที่มีแนวโน้มที่จะถูก จำกัด ทางการเงินในงวดอนาคตที่จะยินดีที่จะจ่ายเบี้ยประกันภัยนี้ บริษัท ที่มีแนวโน้มที่จะไม่มีข้อ จำกัด จะไม่ ผมทดสอบการคาดการณ์เหล่านี้และอื่น ๆ โดยใช้ข้อมูลเศรษฐศาสตร์จุลภาคตัวอย่างของธนาคารขึ้นอยู่กับ บริษัท สหรัฐ บริษัท ขนาดเล็กและ บริษัท หนุ่มสาว (สองมาตรการข้อ จำกัด ทางการเงิน) เช่นเดียวกับ บริษัท ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นลดกระแสเงินสดหมุนเวียนและเจ้าของที่ร่ำรวยน้อยอย่างมีนัยสำคัญแนวโน้มที่จะเลือกหนี้อัตราดอกเบี้ยคงที่ บริษัท ยังปรับแสงของพวกเขาขึ้นอยู่กับวิธีการกระแทกอัตราดอกเบี้ย covary กับอุตสาหกรรมงบกระแสเงินสด
ฉันยังพบหลักฐานว่าผู้ให้กู้เรียกเก็บเบี้ยประกันภัยทำเงินให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่แม้หลังจากการควบคุมสำหรับพรีเมี่ยมคำ สุดท้ายผมให้การสนับสนุนหลักฐานจากชุดของการสัมภาษณ์กับผู้ให้กู้ธุรกิจและนำเสนอบางส่วนการเปรียบเทียบเชิงปริมาณของความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงที่ช่องนี้ ผมสรุปได้ว่า บริษัท ขนาดเล็กในสหรัฐอเมริกาใช้ระบบธนาคารที่จะช่วยในการจัดการความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ยและหารือเกี่ยวกับผลกระทบต่องบดุลและช่องสินเชื่อที่ธนาคารของนโยบายการเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใน บริษัท ดังกล่าวทำให้เกือบจะไม่ใช้ของ ' ดั้งเดิม ' อนุพันธ์ตามกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง . ในกระดาษนี้ผมศึกษาทางเลือกตามขอบซึ่งบริษัทจัดการความเสี่ยงตลาด โดยการวิเคราะห์ทางเลือกของ บริษัท ระหว่างเงินกู้อัตราคงที่และตัวแปร แรกที่ผมพัฒนาหน่วยงานอย่างง่ายๆ ซึ่งทั้ง 2 บริษัท
และตลอดจนมีเงินจำกัด . ในสมดุลธนาคารคิดค่าเบี้ยประกันภัยในอัตราคงที่เพื่อชดใช้หนี้ให้สันนิษฐานว่า ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้ บริษัท ที่มีแนวโน้มที่จะเป็นข้อ จำกัด ทางการเงินในงวดในอนาคตจะได้รับการเต็มใจที่จะจ่ายพรีเมี่ยม นี้ บริษัท ที่มีแนวโน้มจะต่างกันไป จะไม่ ผมทดสอบเหล่านี้และการคาดการณ์อื่น ๆโดยใช้ข้อมูลเศรษฐศาสตร์จุลภาคในตัวอย่างของธนาคารขึ้นอยู่กับ บริษัท สหรัฐ .บริษัท ขนาดเล็กและ บริษัท เล็ก ( สองมาตรการทางการเงิน ) เป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น ลดกระแสเงินสดในปัจจุบันและเจ้าของรวยน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญมีแนวโน้มที่จะเลือกตราสารหนี้อัตราคงที่ บริษัทยังปรับแสงของพวกเขาขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยกระแทก covary กับกระแสเงินสดที่อุตสาหกรรมฉันยังพบหลักฐานว่า ตลอดจนค่าธรรมเนียมพิเศษในอัตราคงที่ เงินกู้หลังจากที่การควบคุมสำหรับ
ระยะพรีเมี่ยม สุดท้าย ผมมีหลักฐานสนับสนุนจากชุดของการสัมภาษณ์ตลอดจนธุรกิจ และปัจจุบันบางเปรียบเทียบเชิงปริมาณของความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงที่ช่องผมสรุปได้ว่า เล็ก บริษัท สหรัฐใช้ระบบธนาคารช่วยจัดการความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และอภิปรายความหมายของงบดุลและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารช่องทางของนโยบายการเงิน