Amnesty International stated that,

Amnesty International stated that, in 2004 in the USA, the average murder rate for states that used the death penalty was 5.71 per 100,000 of the population as against 4.02 per 100,000 in states that did not use it. In 2003 in Canada, 27 years after the country abolished the death penalty the murder rate had fallen by 44 per cent since 1975, when capital punishment was still enforced. Far from decreasing the crime rates and making the country safer, the punishment has been shown to have a hardening effect on society.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นิรโทษกรรมสากลระบุว่า ในปี 2004 ในสหรัฐอเมริกา อัตราเฉลี่ยฆาตกรรมในอเมริกาที่ใช้โทษประหารชีวิตถูก 5.71 ต่อ 100000 ประชากรเดียวกับ 4.02 ต่อ 100000 ในอเมริกาที่ไม่ได้ใช้มัน ในปี 2003 ในแคนาดา 27 ปีหลังจากประเทศยกเลิกโทษประหารชีวิตอัตราการฆาตกรรมได้ตกลงโดยร้อยละ 44 พ.ศ. 1975 เมื่อโทษประหารชีวิตยังถูกบังคับ จากอัตราอาชญากรรมลดลง และทำให้ประเทศปลอดภัย ได้รับการแสดงโทษให้แข็งมีผลต่อสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่าในปี 2004 ในประเทศสหรัฐอเมริกา, อัตราการฆาตกรรมเฉลี่ยสำหรับประเทศที่ใช้โทษประหารชีวิตเป็น 5.71 ต่อ 100,000 ของประชากรเมื่อเทียบกับ 4.02 ต่อ 100,000 ในรัฐที่ไม่ได้ใช้มัน ในปี 2003 ในแคนาดา 27 ปีหลังจากประเทศที่ยกเลิกโทษประหารอัตราการฆาตกรรมได้ลดลงร้อยละ 44 นับตั้งแต่ปี 1975 เมื่อโทษประหารยังคงบังคับใช้ ห่างไกลจากการลดอัตราการเกิดอาชญากรรมและทำให้ประเทศที่ปลอดภัยกว่าการลงโทษได้รับการแสดงที่จะมีผลต่อการแข็งตัวในสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

องค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่า ในปี 2004 ในสหรัฐอเมริกา อัตราการฆาตกรรมโดยระบุว่า การใช้โทษประหาร 5.71 บาท 100000 ของประชากรเป็นกับ 4.02 ต่อ 100000 ในประเทศที่ไม่ได้ใช้มัน ในปี 2003 ในแคนาดา 27 ปีหลังจากที่ประเทศที่ยกเลิกโทษประหารอัตราการฆาตกรรมได้ลดลง 44 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ปี 1975 เมื่อโทษประหารชีวิตยังมีผลบังคับใช้ห่างไกลจากการลดอาชญากรรม และทำให้บ้านเมืองปลอดภัย โทษที่ได้รับการแสดงที่จะมีการแข็งตัว ผลกระทบต่อสังคม