มหานิกายคือ พระสงฆ์สายเถรวาทลังกาวง

มหานิกายคือ พระสงฆ์สายเถรวาทลังกาวงศ์ดั้งเดิมในประเทศไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่พระสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย
เช่นการห่มผ้า มหานิกาย -การครองผ้าที่หมุนผ้าลูกบวบไปทางขวา เมื่ออยู่ในวัดจะห่มเฉวียงบ่า และห่มคลุมในเวลาออกนอกวัด เป็นการห่มตามธรรมเนียมของพระมหานิกาย (ปัจจุบันยังมีบางวัดนิยมการห่มแบบนี้อยู่ โดยมากจะเป็นวัดมหานิกายในกรุงเทพมหานครเฉพาะผู้ที่มีการศึกษาสูง ปัจจุบันพระฝ่ายมหานิกายส่วนมากนิยมหมุนซ้ายแบบธรรมยุต หรือพระรามัญไปแทบทั้งสิ้น)การห่มนั้นแบ่งออกเป็น สองอย่างคือการห่มอย่างไทยและการห่มอย่างพม่า การอย่างไทยนั้น จะใช้รักแร้หนีบไว้ และจะไม่คลี่ลูกบวบเพื่อเอามือออกแต่จะเวิกผ้ายกขึ้นมาเลย ส่วนการห่มอย่างพม่านั้น จะวางผ้าไว้บนบ่า และจะติดกระดุมสองแห่งคือปิดที่คอ และชายผ้า ซึ่งการห่มอย่างพม่าจะเป็นการห่มแบบดั้งเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มหานิกายคือ
มหานิกาย เมื่ออยู่ในวัดจะห่มเฉวียงบ่าและห่มคลุมในเวลาออกนอกวัด การอย่างไทยนั้นจะใช้รักแร้หนีบไว้ ส่วนการห่มอย่างพม่านั้นจะวางผ้าไว้บนบ่าและจะติดกระดุมสองแห่งคือปิดที่คอและชายผ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มหานิกายคือพระสงฆ์สายเถรวาทลังกาวงศ์ดั้งเดิมในประเทศไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่พระสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย
เช่นการห่มผ้ามหานิกาย - การครองผ้าที่หมุนผ้าลูกบวบไปทางขวาเมื่ออยู่ในวัดจะห่มเฉวียงบ่าและห่มคลุมในเวลาออกนอกวัดเป็นการห่มตามธรรมเนียมของพระมหานิกาย ( ปัจจุบันยังมีบางวัดนิยมการห่มแบบนี้อยู่ปัจจุบันพระฝ่ายมหานิกายส่วนมากนิยมหมุนซ้ายแบบธรรมยุตหรือพระรามัญไปแทบทั้งสิ้น ) การห่มนั้นแบ่งออกเป็นสองอย่างคือการห่มอย่างไทยและการห่มอย่างพม่าการอย่างไทยนั้นจะใช้รักแร้หนีบไว้ส่วนการห่มอย่างพม่านั้นจะวางผ้าไว้บนบ่าและจะติดกระดุมสองแห่งคือปิดที่คอและชายผ้าซึ่งการห่มอย่างพม่าจะเป็นการห่มแบบดั้งเดิม