The research aimed (1) to study lea

The research aimed (1) to study learning efficiency, Heat Energy Formation of Matatayomsueksa 1 Students The learning activities using the learning Cycle 7E, according to criteria of 75/75; (2) to examine learning effectiveness index, Heat Energy Formation of Matatayomsueksa 1 Students using the learning Cycle 7E; and (3) to Students satisfaction of Matatayomsueksa 1 Students towards learning management of Science , Heat Energy Formation using using the learning Cycle 7E activities. The samples used were 27 Matatayomsueksa 1 Students at Phonchan school,Phonsawan district, Nakhon Phanom province. The tools used were using the learning Cycle 7E activities,learning achievement test and satisfaction test. The statistics used were percentage, mean, standard deviation, and t-test (Dependent Samples).
The research findings were as follows: (1) Efficiency of learning activities using using the learning Cycle 7E was 84.48/83.52 (2) Effectiveness index was .6026 (3) Students were satisfied with using the learning Cycle 7E activities which the mean was 4.45

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการเรียนรู้พลังงานความร้อนก่อตัวของ Matatayomsueksa 1 นักเรียนกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้วงจร 7E ตามเกณฑ์ 75/75; (2) การตรวจสอบดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้พลังงานความร้อนก่อตัวของ Matatayomsueksa 1 นักเรียนโดยใช้การเรียนรู้วงจร 7E; และ (3) เพื่อให้นักเรียนมีความพึงพอใจของ Matatayomsueksa 1 นักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สร้างพลังงานความร้อนโดยใช้โดยใช้วงจรการเรียนรู้ 7E กิจกรรม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้คือ 27 Matatayomsueksa 1 นักเรียนที่โรงเรียน Phonchan อำเภอโพนสวรรค์จังหวัดนครพนม เครื่องมือที่ใช้กำลังใช้กิจกรรมการเรียนรู้วงจร 7E ทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการทดสอบความพึงพอใจ สถิติที่ใช้คือค่าร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ t-test (Dependent Samples).
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ (1) ประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การเรียนรู้โดยใช้วงจร 7E ได้รับ 84.48 / 83.52 (2) ดัชนีประสิทธิผลเป็น 0.6026 (3) นักเรียนมีความพึงพอใจกับการใช้กิจกรรมการเรียนรู้วงจร 7E ซึ่งเฉลี่ย 4.45

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ( 1 ) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการเรียนรู้ ความร้อน พลังงาน การก่อตัวของ matatayomsueksa 1 นักเรียนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ตามเกณฑ์ 75 / 75 ( 2 ) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ พลังงานความร้อน การก่อตัวของ matatayomsueksa 1 ที่เรียนโดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้ 7 ;( 3 ) ความพึงพอใจของนักเรียน matatayomsueksa 1 ต่อการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ การสร้างพลังงานความร้อนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ 7 รอบ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ได้แก่ matatayomsueksa 1 โรงเรียน โรงเรียน น้อยอินทร์พรสวรรค์ ตำบล จังหวัด นครพนม เครื่องมือที่ใช้ คือ การใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 7 วงจร แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบทดสอบความพึงพอใจสถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ( t-test ) ( ตัวอย่าง 2 ) .
ผลการวิจัยพบว่า ( 1 ) ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ใช้เป็น 84.48/83.52 ( 2 ) ดัชนีประสิทธิผล คือ 6026 ( 3 ) นักเรียนมีความพึงพอใจในการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ 7 รอบซึ่ง เฉลี่ยอยู่ที่ 4.45