ดิฉันคิดว่าช่องทางในการขายผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพที่สุด คือการทำให้ผลิตภัณฑ์เข้าถึงลูกค้าได้อย่างง่ายดาย และสะดวกที่สุด และบริษัทก็ต้องมีต้นทุนที่ต่ำที่สุดแต่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นก่อนที่จะขายผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้ารายใหม่ๆ สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องให้ลูกค้ารู้จักชื่อของบริษัท ในที่นี้ดิฉันขอยกตัวอย่าง กลุ่มลูกค้าในกรุงเทพมหานคร คือ ควรเน้นการโปรโมทบริษัทและผลิตภัณฑ์ของบริษัทผ่านช่องทางที่มีคนสัญจรและพบเห็นซ้ำๆมากที่สุดในชีวิตประจำวัน ซึ่งไม่ต้องลงทุนมากแต่เจาะกลุ่มลูกค้าได้ดี เช่น ในทีวีโฆษณาบนรถไฟฟ้า BTS และ MRT หรือ ทางTV DIGITAL ตามตึกต่างๆในเมือง เป็นต้น เพราะเมื่อเทียบกับการโฆษณาในช่องTV หรือ วิทยุทั่วไปแล้ว ต้นทุนจะต่างกันอย่างมาก ถึงแม้ช่องทางดังกล่าวลูกค้าอาจจะไม่ได้รับข้อมูลที่ละเอียดเพียงพอ แต่ลูกค้าก็จะคุ้นชื่อของผลิตภัณฑ์และบริษัท ส่วนอีกช่องทางหนึ่งที่มีต้นทุนต่ำสุดแต่สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด คือช่องทาง Social Media ซึ่งช่องทางนี้ลูกค้าสามารถได้รับข้อมูลข่าวสารครบถ้วนทั้งในรูปแบบ ข้อมูล รูปภาพ และ ภาพเคลื่อนไหว ซึ่งเราอาจสอดแทรกโปรแกรมส่งเสริมการขาย เพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการบริการหลังการขาย ซึ่งควรจะมีการติดตามลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น การส่งอีเมล์แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆของบริษัท หรือ การสรุปภาวะตลาดให้ลูกค้าทราบอย่างต่อเนื่อง แต่หากสามารถจำแนกลูกค้าที่เป็นกลุ่มนักลงทุนมือใหม่ได้ นอกจากการนำเสนอตามที่กล่าวในข้างต้นแล้วเราอาจจะสอดแทรกเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการลงทุนให้แก่นักลงทุนมือใหม่ได้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความรู้สึกว่าทางบริษัทมีการเอาใจใส่และติดตามลูกค้าเป็นการเฉพาะอย่างใกล้ชิด เป็นต้น
จากตัวอย่างที่กล่าวไปเมื่อลูกค้ามีความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท จะเกิดพฤติกรรมใช้ซ้ำและบอกต่อ ซึ่งจะส่งผลถึงยอดขายในท้ายที่สุด