10 Ways Social Media Affects Our Me

10 Ways Social Media Affects Our Mental Health
Since the face of psychology is constantly changing, it is impossible to end the “History of Psychology” series with a definitive, “…and that’s how psychology came to be.” Separate branches of the discipline have formed, medicine has become staggeringly important in treatment and prevention of mental illnesses, theories have formed and crumbled, and scholars have dedicated their careers to advancing the field. The science has been adapted by the masses, and has even become prevalent in pop culture – music (Blink 182’s “Stockholm Syndrome” comes to mind), television, and films have all explored mental illnesses and treatments.

The series has only briefly outlined the science’s origins and growth, and it continues to inspire many to study the workings of the human mind. Luckily, those who came before us provided us with the tools and terminology to hit the ground running and discover incredible things they couldn’t have even imagined.

More recently, the incorporation of technology into psychology has made it possible to supplement therapeutic techniques with computer-based counseling, test brain activity, and accurately record and analyze complex data – and that’s not even the beginnings of its potential influence on the field. Although technology will undoubtedly open up doors for the next generation of researchers, a Google search of “psychology technology” actually leads to a number of pages dedicated to explaining the effects of technology on our own minds.

The topic is broad enough to expand into dozens of articles, so this top 10 list tackles only some of the most staggering results of studies and surveys pertaining to social media. Chances are, if you’re reading this you participate in social media in some way or another, so next time you go to check your Facebook, retweet an interesting link, or choose an Instagram filter for a selfie, think about the ways your brain is processing the seemingly endless stream of information it is taking in.

1. Social media is addictive.
Studies show that 63% of Americans log on to Facebook daily, and 40% log on multiple times each day. People use the site for myriad reasons; however, it usually serves, on some level, the same basic purposes: distraction and boredom relief. “Likes” and comments are positive reinforcement for posting information, making it difficult for a person to stop. Researchers have found this so common that they created a scale to measure this addiction: The Berge Facebook Addiction Scale.

2. Social media makes us compare our lives with others’.
Posts on social media many times present an idealized version of what’s happening, what something looks like, or how things are going. This can lead users to constantly compare themselves to others and think less of their own lives. If things are going particularly well for people in your newsfeed and you’re having a rough day, of course this will likely negatively affect your mood. In fact, in 2012 a team of researchers in the UK surveyed users, 53% of whom said social media had changed their behavior; 51% said it was negative behavior because of decline in confidence they felt due to unfair comparisons to others.

3. Social media makes us restless.
Out of the same sample as the above example, two-thirds admitted to having difficultly relaxing when unable to use their social media accounts.

4. Social media gives rise to cyberbullying.
Cyberbullying is an enormous concern, especially for adolescents. An organization that aims for internet safety, called Enough is Enough, conducted a survey that found 95% of teenagers who use social media have witnessed cyberbullying, and 33% have been victims themselves.
5. Social media glamorizes drug and alcohol use.
A study that explored the relationship between teenagers, social media, and drug use found that 70% of teenagers ages 12 to 17 use social media, and that those who interact with it on a daily basis are five times more likely to use tobacco, three times more likely to use alcohol, and twice as likely to use marijuana. In addition, 40% admitted they had been exposed to pictures of people under the influence via social media, suggesting correlation between the two factors. Although a correlation is all it is, it makes sense that social media would amp up the amount of peer pressure to which teenagers are exposed.

6. Social media can make us unhappy.
A study from the University of Michigan collected data about Facebook users and how it correlated with their moods. Simply put, they found that the more avid users were overall more unhappy than those who used the site less. Over more time, avid users also reported lower satisfaction in their lives overall.

7. Social media can lead to fear of missing out, aka FOMO.
Fear of missing out is a phenomenon that occurs when you feel pressure to be doing what everyone else is doing, attend every event, and share every life experience. It can evoke an

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

10 วิธีสื่อสังคมมีผลต่อสุขภาพจิตของเราตั้งแต่ใบหน้าของจิตวิทยาตลอด ไม่จบชุด "ประวัติศาสตร์ของจิตวิทยา" กับระบบ, "... และที่ว่าจิตวิทยามาให้" แยกสาขาของวินัยมีเกิด ขึ้น ยากลายโงนเงนสำคัญในการรักษา และการป้องกันการเจ็บป่วยทางจิต ทฤษฎีมีเกิดขึ้น และร่วง และนักวิชาการมีโดยเฉพาะอาชีพการเลื่อนฟิลด์ วิทยาศาสตร์มีการปรับ โดยมวลชน และแม้กระทั่งกลายเป็นแพร่หลายในวัฒนธรรมป๊อปเพลง (Blink 182 ของ "สต็อกโฮล์มซินโดรม" มา) โทรทัศน์ และภาพยนตร์มีความเจ็บป่วยทางจิตสำรวจและรักษาทั้งหมดชุดมีไว้เพียงสั้น ๆ ของวิทยาศาสตร์กำเนิดและเจริญเติบโต และการสร้างแรงบันดาลใจมากมายในการศึกษาการทำงานของจิตใจมนุษย์ โชคดี ผู้ที่มาก่อนเราให้เรา มีเครื่องมือและคำศัพท์ตีพื้นรัน และค้นพบสิ่งที่เหลือเชื่อ พวกเขาไม่มีแม้กระทั่งจินตนาการเมื่อเร็ว ๆ นี้ รวมตัวกันของเทคโนโลยีในจิตวิทยามีทำเสริมรักษาเทคนิคใช้คอมพิวเตอร์ให้คำปรึกษา ทดสอบสมอง และถูกบันทึก และวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน – และที่ไม่ได้จุดเริ่มต้นของฟิลด์อิทธิพลของศักยภาพ แม้ว่าเทคโนโลยีจะไม่ต้องสงสัยเปิดประตูสำหรับนักวิจัยรุ่นใหม่ การค้นหาของ Google "จิตวิทยาเทคโนโลยี" จริงนำไปสู่หมายเลขหน้าเพื่ออธิบายผลกระทบของเทคโนโลยีในจิตใจของเราเองหัวข้อกว้างพอที่จะขยายเป็นจำนวนมาก บทความ เพื่อแก้รายการ 10 อันดับแรกของผลการศึกษาส่วนใหญ่ส่าย และแบบสำรวจที่เกี่ยวข้องกับสังคม โอกาส หากคุณกำลังอ่านนี้คุณเข้าร่วมในสังคมในบางวิธีหรืออื่น เพื่อให้ครั้งถัดไปที่คุณไปตรวจสอบของคุณ Facebook, retweet ลิงค์น่าสนใจ หรือเลือกตัวกรอง Instagram สำหรับเซลฟี่ คิดเกี่ยวกับวิธีการของสมองกระแสสิ้นสุดดูเหมือนว่าข้อมูลที่ใช้ใน1. สังคมเป็นเสพติดการศึกษาแสดงว่า 63% ของชาวอเมริกันทำการเข้าสู่ระบบ Facebook ทุกวัน และ 40% สู่ระบบหลายครั้งแต่ละวัน ผู้ใช้ไซต์เหตุผลมากมาย อย่างไรก็ตาม มันมักจะให้บริการ ในระดับบางอย่าง การพื้นฐาน: บรรเทาฟุ้งซ่านและเบื่อ เสริมแรงทางบวกสำหรับการลงรายการข้อมูล การทำให้มันยากสำหรับคนที่จะหยุด "ถูกใจ" และความคิดเห็นได้ นักวิจัยได้พบนี้ทั่วไปที่พวกเขาสร้างเครื่องชั่งวัดนี้ติดยาเสพติด: การ Berge Facebook ติดขนาดนี้2. สังคมทำให้เราเปรียบเทียบชีวิตของเรากับผู้อื่นโพสต์ในสื่อสังคมหลายครั้งปัจจุบันรุ่นที่ตั้งของสิ่งที่เกิดขึ้น อะไรบางอย่างดูเหมือน หรือว่าสิ่งที่กำลัง ซึ่งสามารถนำผู้ใช้เพื่อเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น และคิดว่า ชีวิตของตัวเองที่น้อยลง ถ้าจะดีโดยเฉพาะสำหรับคนในสารของคุณ และคุณมีวันหยาบ แน่นอนนี้จะมีแนวโน้มส่งผลอารมณ์ของคุณ ในความเป็นจริง ใน 2012 ทีมนักวิจัยในการสำรวจผู้ใช้ 53% ของผู้ที่กล่าวว่า สังคมมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพวกเขา 51% กล่าวว่า มันเป็นพฤติกรรมเชิงลบ เพราะในความเชื่อมั่นที่พวกเขารู้สึกว่าเนื่องจากการเปรียบเทียบไม่เป็นธรรมแก่ผู้อื่น3. สังคมที่ทำให้เรากระสับกระส่ายจากตัวอย่างเดียวกันเป็นตัวอย่างข้างต้น สองในสามเข้าที่มี difficultly ผ่อนคลายเมื่อไม่สามารถใช้บัญชีสังคม4. สังคมให้เพิ่มขึ้นเพื่อกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตเป็นการกังวลใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยรุ่น องค์กรที่มีจุดมุ่งหมายสำหรับอินเทอร์เน็ตความปลอดภัย เรียกว่าพอเพียงพอ ได้ทำการสำรวจว่า 95% ของวัยรุ่นที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้เห็น cyberbullying และ 33% ได้รับเหยื่อเอง5. สังคม glamorizes ยาเสพติดและแอลกอฮอล์ใช้การศึกษาที่สำรวจความสัมพันธ์ ระหว่างวัยรุ่น สังคม และการใช้ยาพบว่า 70% ของวัยรุ่นอายุ 12-17 ใช้สื่อสังคม และผู้ที่โต้ตอบกับมันทุกวันว่าน่าจะใช้ยาสูบ สามน่าจะใช้แอลกอฮอล์ ห้าครั้งขึ้น และสอง เป็นแนวโน้มที่จะใช้กัญชา นอกจากนี้ 40% ยอมรับพวกเขาได้รับการสัมผัสกับภาพของคนภายใต้อิทธิพลทางสังคม ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัย 2 ประการที่แนะนำ แม้ว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดมันเป็น มันทำให้รู้สึกว่าสังคมจะเพิ่มแรงกดเพียร์ที่วัยรุ่นกำลังเผชิญ6. สังคมทำให้เราไม่มีความสุขการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ Facebook และวิธีการความสัมพันธ์กับอารมณ์ของพวกเขา เพียงแค่ใส่ พวกเขาพบว่า ผู้ยิ่งยงรวมเศร้ายิ่งกว่าผู้ที่ใช้ไซต์น้อยกว่า เวลาเพิ่มเติม ผู้ใช้ยงยังรายงานต่ำกว่าความพึงพอใจในชีวิตโดยรวม7. สังคมสามารถนำไปสู่ความกลัวของขาดออก aka FOMOกลัวไม่ออกเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกกดดันที่จะทำสิ่งที่คนอื่นจะทำ เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน และแบ่งปันทุกประสบการณ์ชีวิต สามารถทำให้เกิดการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

10 วิธีในสื่อสังคมมีผลต่อสุขภาพจิตของเรา
ตั้งแต่ใบหน้าของจิตวิทยาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องเป็นไปไม่ได้ที่จะสิ้นสุด "ประวัติศาสตร์จิตวิทยา" ชุดที่มีความชัดเจน " ... และที่ว่าจิตวิทยามาเป็น." แยกกิ่งไม้ของวินัยมี รูปแบบยากลายเป็นสิ่งสำคัญที่โงนเงนในการรักษาและการป้องกันการเจ็บป่วยทางจิตทฤษฎีได้เกิดขึ้นและร่วงและนักวิชาการได้ทุ่มเทอาชีพของพวกเขาที่จะก้าวสนาม วิทยาศาสตร์ได้รับการดัดแปลงโดยฝูงและได้แม้กระทั่งกลายเป็นที่แพร่หลายในวัฒนธรรมป๊อป -. เพลง (Blink 182 ของ "สตอกโฮล์มซินโดรม" มาถึงใจ), โทรทัศน์, ภาพยนตร์และมีการสำรวจทุกอาการป่วยทางจิตและการรักษาชุดได้เพียงสั้น ๆ ระบุ ต้นกำเนิดวิทยาศาสตร์และการเจริญเติบโตและจะยังคงสร้างแรงบันดาลใจมากมายที่จะศึกษาการทำงานของจิตใจมนุษย์ โชคดีที่บรรดาผู้ที่มาก่อนเราให้เรามีเครื่องมือและคำศัพท์ที่จะตีพื้นทำงานและค้นพบสิ่งที่เหลือเชื่อที่พวกเขาไม่ได้คิดแม้แต่. เมื่อเร็ว ๆ นี้รวมตัวกันของเทคโนโลยีในด้านจิตวิทยาได้ทำให้มันเป็นไปได้ที่จะเสริมเทคนิคการรักษากับคอมพิวเตอร์ การให้คำปรึกษาชั่น, การทำงานของสมองทดสอบและถูกต้องบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน - และที่ไม่ได้เป็นจุดเริ่มต้นของการมีอิทธิพลที่อาจเกิดขึ้นในสนาม แม้ว่าเทคโนโลยีอย่างไม่ต้องสงสัยจะเปิดประตูขึ้นสำหรับรุ่นต่อไปของนักวิจัยการค้นหาของ Google "เทคโนโลยีจิตวิทยา" จริงนำไปสู่จำนวนหน้าทุ่มเทให้กับการอธิบายผลกระทบของเทคโนโลยีที่อยู่ในใจของเราเอง. หัวข้อที่กว้างพอที่จะขยายเข้าไปในหลายสิบ บทความนี้จึง top 10 รายการโหม่งเพียงบางส่วนของผลการส่ายมากที่สุดของการศึกษาและการสำรวจเกี่ยวกับสื่อสังคม โอกาสที่ถ้าคุณกำลังอ่านนี้คุณมีส่วนร่วมในสื่อสังคมออนไลน์ในทางใดทางหนึ่งหรืออีกในครั้งต่อไปเพื่อให้คุณไปตรวจสอบ Facebook ของคุณ retweet การเชื่อมโยงที่น่าสนใจหรือเลือกตัวกรอง Instagram สำหรับเซลฟีคิดเกี่ยวกับวิธีการที่สมองของคุณ กำลังประมวลผลสตรีมดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดของข้อมูลที่มันคือการใน. 1 สื่อสังคมเป็นเสพติด. การศึกษาแสดงให้เห็นว่า 63% ของชาวอเมริกันเข้าสู่ระบบ Facebook ทุกวันและเข้าสู่ระบบ 40% ในหลายครั้งในแต่ละวัน คนใช้เว็บไซต์สำหรับเหตุผลมากมาย; แต่ก็มักจะทำหน้าที่ในระดับบางวัตถุประสงค์พื้นฐานที่เหมือนกัน: ฟุ้งซ่านและความเบื่อหน่ายการบรรเทา "ชอบ" และแสดงความคิดเห็นที่มีการเสริมแรงบวกสำหรับการโพสต์ข้อมูลที่ทำให้มันยากสำหรับคนที่จะหยุด นักวิจัยได้พบนี้เพื่อร่วมกันที่พวกเขาสร้างขึ้นเพื่อวัดระดับยาเสพติดนี้:. ชั่ง Berge Facebook ติดยาเสพติด2 สื่อสังคมทำให้เราเปรียบเทียบชีวิตของเรากับคนอื่น ๆ '. โพสต์ในสื่อสังคมหลายครั้งปัจจุบันเป็นรุ่นที่เงียบสงบของสิ่งที่เกิดขึ้นสิ่งที่สิ่งที่มีลักษณะเหมือนหรือว่าสิ่งที่จะไป นี้สามารถนำผู้ใช้ไปอย่างต่อเนื่องเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ๆ และคิดว่าน้อยกว่าของชีวิตของตัวเอง หากสิ่งที่จะไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนใน newsfeed ของคุณและคุณมีวันที่หยาบกร้านของหลักสูตรนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบในเชิงลบกับอารมณ์ของคุณ ในความเป็นจริงในปี 2012 ทีมนักวิจัยในสหราชอาณาจักรสำรวจผู้ใช้ 53% ของผู้ที่กล่าวว่าสื่อสังคมมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพวกเขา; 51% บอกว่ามันเป็นพฤติกรรมเชิงลบเนื่องจากการลดลงของความเชื่อมั่นของพวกเขารู้สึกว่าเนื่องจากการเปรียบเทียบที่ไม่เป็นธรรมกับคนอื่น ๆ . 3 สื่อสังคมทำให้เรากระสับกระส่าย. ออกจากตัวอย่างเช่นเดียวกับตัวอย่างข้างต้นสองในสามยอมรับว่ามีกุกกักผ่อนคลายเมื่อไม่สามารถใช้บัญชีของพวกเขาสื่อสังคม. 4 สื่อสังคมก่อให้เกิดการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต. Cyberbullying เป็นกังวลอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวัยรุ่น เป็นองค์กรที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่าเพียงพอดำเนินการสำรวจพบว่า 95% ของวัยรุ่นที่ใช้สื่อสังคมได้เห็นการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตและ 33% ได้ตกเป็นเหยื่อตัวเอง. 5 สื่อสังคมยุยงยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์. การศึกษาที่สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่นสื่อสังคมและการใช้ยาเสพติดที่พบว่า 70% ของวัยรุ่นอายุ 12-17 ใช้สื่อสังคมและว่าผู้ที่โต้ตอบกับมันในชีวิตประจำวันมีห้า ครั้งมีแนวโน้มที่จะใช้ยาสูบสามครั้งมีแนวโน้มที่จะใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสองเท่าแนวโน้มที่จะใช้กัญชา นอกจากนี้ 40% ยอมรับว่าพวกเขาได้รับการสัมผัสกับภาพของคนภายใต้อิทธิพลผ่านทางสื่อสังคมบอกความสัมพันธ์ระหว่างสองปัจจัย แม้ว่าความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่มันเป็นมันทำให้รู้สึกว่าสื่อสังคมจะแอมป์ขึ้นปริมาณของแรงกดดันที่วัยรุ่นจะสัมผัสได้. 6 สื่อสังคมสามารถทำให้เราไม่มีความสุข. การศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ Facebook และวิธีการที่จะมีความสัมพันธ์กับอารมณ์ความรู้สึกของพวกเขา ใส่เพียงพวกเขาพบว่าผู้ใช้ตัวยงมากขึ้นโดยรวมมีความสุขมากกว่าคนที่ใช้เว็บไซต์น้อย เมื่อเวลาผ่านไปมากขึ้นผู้ใช้ตัวยงยังมีรายงานความพึงพอใจลดลงในชีวิตของพวกเขาโดยรวม. 7 สื่อสังคมสามารถนำไปสู่ความกลัวของหายออกไปจากอาคา FOMO. ความกลัวของหายออกไปเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกกดดันที่จะทำในสิ่งที่คนอื่นจะทำที่เข้าร่วมทุกเหตุการณ์และแบ่งปันประสบการณ์ของทุกชีวิต มันสามารถทำให้เกิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

10 วิธีสื่อสังคมมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเราตั้งแต่หน้าจิตวิทยา มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสิ้นสุด " ประวัติของชุดจิตวิทยา " ด้วยเด็ดขาด " . . . . . . . และนั่นคือวิธีจิตวิทยามาเป็น . " แยกสาขาของวินัยมีขึ้น ยาได้กลายเป็นโซเซที่สำคัญในการรักษาและป้องกันโรคทางจิต และทฤษฎี ได้เกิดพังทลายลงมา และนักวิชาการได้โดยเฉพาะอาชีพที่ก้าวหน้าด้าน วิทยาศาสตร์ที่ได้รับการดัดแปลงโดยมวลชน และได้กลายเป็นที่แพร่หลายในวัฒนธรรมยอดนิยม ( เพลง ) 182 กะพริบตา " สตอกโฮล์ม ซินโดรม " มาถึงใจ ) , โทรทัศน์ และภาพยนตร์ได้สำรวจการเจ็บป่วยและการรักษาทางจิตชุดที่มีเพียงสั้น ๆอธิบายต้นกำเนิดของวิทยาศาสตร์และการเจริญเติบโต และมันยังคงสร้างแรงบันดาลใจมากมายให้ศึกษาการทำงานของจิตใจมนุษย์ โชคดีที่บรรดาผู้ที่มาก่อนเรา ให้เรา ด้วยเครื่องมือและคำศัพท์ที่จะตีพื้นทำงาน และการค้นพบที่น่าทึ่งของพวกเขาไม่ได้แม้แต่คิดเมื่อเร็วๆ นี้ การรวมตัวกันของเทคโนโลยีในด้านจิตวิทยา ได้ทำให้มันเป็นไปได้เพื่อเสริมเทคนิคการบำบัดด้วยการให้คำปรึกษาคอมพิวเตอร์ กิจกรรมทดสอบสมอง , และถูกต้องเพื่อบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนและไม่ใช่จุดเริ่มต้นของอิทธิพลที่มีศักยภาพบนสนาม แม้ว่าเทคโนโลยีไม่ต้องสงสัยจะเปิดประตูสำหรับรุ่นถัดไปของนักวิจัย การค้นหาของ Google ของ " จิตวิทยาเทคโนโลยี " จริงๆ แล้วนำไปสู่จำนวนของหน้าเว็บที่ทุ่มเทให้กับการอธิบายผลกระทบของเทคโนโลยีต่อจิตใจของเราเองหัวข้อที่กว้างพอที่จะขยายเป็นหลายสิบบทความ นี่ด้านบน 10 รายการการฝึกฝนเพียงบางส่วนของผลลัพธ์ที่สับสนที่สุดของการศึกษาและการสำรวจเกี่ยวกับสื่อสังคม แน่นอน ถ้าคุณกำลังอ่านนี้คุณมีส่วนร่วมในสื่อสังคมในบางวิธีหรืออื่น ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณไปเช็ค Facebook ของคุณ retweet ลิงค์น่าสนใจ หรือเลือกตัวกรอง Instagram สำหรับ selfie คิดเกี่ยวกับวิธีที่สมองของคุณมีการประมวลผลกระแสที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดของข้อมูลมันถูกใช้ใน1 . สื่อสังคมจะเสพติดจากการศึกษาพบว่า 63% ของชาวอเมริกันเข้าสู่ระบบใน Facebook ทุกวัน และ 40% เข้าสู่ระบบวันละหลายครั้ง ผู้ที่ใช้เว็บไซต์สำหรับเหตุผลมากมาย แต่มันมักจะเสิร์ฟในบางระดับ พื้นฐานเดียวกัน วัตถุประสงค์ : รบกวน และเบื่อหน่าย โล่งอก " ชอบ " และแสดงความคิดเห็นเป็นการเสริมแรงที่เป็นบวกสำหรับการโพสต์ข้อมูลที่ทำให้มันเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่จะเลิก นักวิจัยได้พบบ่อยมากที่พวกเขาสร้างมาวัดนี้ติด : เบิร์ก Facebook ติดขนาด2 . สื่อสังคมทำให้เราเปรียบชีวิตของเรากับคนอื่น ๆ 'โพสต์ในสื่อสังคมหลายครั้ง ปัจจุบันรุ่น idealized ของสิ่งที่เกิดขึ้น อะไรบางอย่างที่เหมือน หรือ ว่าเรื่องมันเป็นยังไง นี้สามารถนำพาผู้ใช้อย่างต่อเนื่องเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น และคิดน้อยของชีวิตของตัวเอง ถ้าทุกอย่างไปได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประชาชนในแหล่งข่าวของคุณและคุณมีวันที่ยากลำบาก แน่นอนนี้อาจจะส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของคุณ ในความเป็นจริงในปี 2012 ทีมนักวิจัยในอังกฤษสำรวจผู้ใช้ร้อยละ 53 ของผู้กล่าวว่าสื่อสังคมมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพวกเขา ; 51% กล่าวว่ามันเป็นพฤติกรรมเชิงลบ เพราะการลดลงของความเชื่อมั่นที่พวกเขารู้สึกว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น3 . สื่อสังคมทำให้เราหงุดหงิดจากตัวอย่าง เหมือนตัวอย่างข้างต้น สองในสาม ยอมรับว่า มีตำแหน่งผ่อนคลายเมื่อไม่สามารถใช้บัญชีสื่อสังคมของพวกเขา4 . สื่อสังคมให้สูงขึ้นเพื่อ cyberbullying .cyberbullying กังวลอย่างมาก โดยเฉพาะวัยรุ่น องค์กรที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของอินเทอร์เน็ตที่เรียกว่าพอแล้ว ได้ทำการสำรวจพบว่า 95% ของวัยรุ่นที่ใช้สื่อทางสังคมได้เห็น cyberbullying , และ 33 % มีเหยื่อตัวเอง5 . สื่อสังคม glamorizes ยาเสพติดและแอลกอฮอล์ที่ใช้การศึกษาที่สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างวัยรุ่น , สื่อสังคมและการใช้ยา พบว่า 70% ของวัยรุ่นอายุ 12 ถึง 17 ใช้สื่อทางสังคมและผู้ที่โต้ตอบกับมันในชีวิตประจําวันห้าครั้งมีแนวโน้มที่จะใช้ยาสูบมากกว่าสามครั้งเพื่อใช้แอลกอฮอล์ และสองครั้งเป็นโอกาสที่จะใช้กัญชา . นอกจากนี้ 40% ยอมรับว่าพวกเขาได้สัมผัสกับภาพของผู้คนภายใต้อิทธิพลผ่านทางสื่อสังคม , แนะนำความสัมพันธ์ระหว่างสองปัจจัย แม้ว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดมันสมเหตุสมผล ที่สื่อสังคมจะช่วยกระตุ้นปริมาณของความกดดัน ซึ่งวัยรุ่นจะเปิดเผย6 . สื่อสังคมสามารถทำให้เราไม่มีความสุขการศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ Facebook และวิธีการมีความสัมพันธ์กับอารมณ์ของพวกเขา ใส่เพียงแค่พวกเขาพบว่า ผู้ใช้ที่ชอบเพิ่มเติม โดยภาพรวมไม่มีความสุขมากกว่าผู้ที่ใช้เว็บไซต์น้อยลง เวลาผ่านไปมากขึ้น ผู้ใช้ที่ชอบมีความพึงพอใจต่ำในชีวิตของพวกเขาโดยรวม7 . สื่อสังคมสามารถนำความกลัวหายไป หรือ โฟโม่ .กลัวหายไปเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคุณรู้สึกกดดันที่ต้องทำในสิ่งที่คนอื่นทำ เข้าร่วมทุกกิจกรรมและแบ่งปันทุกชีวิต Exp