การนําเอาเรื่องของพลังงานแสงมาใช้นับเป็นวิธีการที่ไม่ต้องพึ่งพาหลักกา การแปล -  การนําเอาเรื่องของพลังงานแสงมาใช้นับเป็นวิธีการที่ไม่ต้องพึ่งพาหลักกา ไทย วิธีการพูด

 การนําเอาเรื่องของพลังงานแสงมาใช้น

 
การนําเอาเรื่องของพลังงานแสงมาใช้นับเป็นวิธีการที่ไม่ต้องพึ่งพาหลักการทางเคมี และในช่วงเวลาดังกล่าวมีการค้นพบคลื่นวิทยุและการส่งวิทยุแล้ว แอนดรู เมย์ (Andrew May) ชาวไอริชได้ค้นพบสารเซเลเนียม ซึ่งมีคุณสมบัติในการเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ( เมื่อ พ.ศ. 2416 ) ต่อมาอีกประมาณ 10 ปี พอล นิพโกว ( Paul Nipkow ) ชาวเยอรมันได้ค้นพบหลักการสแกนภาพที่ใช้ระบบจานหมุน กลายเป็นแนวความคิดให้นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสที่ชื่อว่า เอ็ม เซนเลซก์ ( M. Senlecg ) สามารถประดิษฐ์กล้องถ่ายโทรทัศน์ที่ส่งภาพและเสียงออกไปได้เมื่อปี พ.ศ. 2432

ปี พ.ศ. 2440 คาร์ล เฟอร์ดินานด์ บราวน์ (Karl Ferdinand Brawn) ได้ค้นพบหลอดภาพออสซิลโลสโคปและมีผู้นําเอาหลักการดังกล่าวไปผนวกเข้ากับโฟโตเซลล์ นั่นเป็นก้าวแรกที่ทําให้เราเริ่มเห็นภาพในจอจึงมีการเริ่มพูดถึงการใช้หลอดภาพอิเล็กทรอนิกส์ในการสแกนภาพ ระบบดังกล่าวยังไม่ประสบความสําเร็จ พ.ศ. 2468 ชาร์ล ฟรานซิส เจงกิน กับ เจมส์ ลอจี แบร์ด ได้ทดลองเกี่ยวกับการส่งภาพเงาโดยไม่ใช้สาย แล้วนําออกแสดงทั้งที่อังกฤษและสหรัฐอเมริกา นี่เองที่เป็นก้าวที่คนทั่วไปได้สัมผัสกลไกของสิ่งที่เรียกว่าโทรทัศน์
การค้นคิดของนักประดิษฐ์ทั้งสองที่กล่าวมาแล้วใช้การสแกนภาพตั้งแต่ 30 ถึง 60 เส้น แต่อย่างไรก็แล้วแต่ การรับรู้ถึงรายละเอียดภาพนั้นจะต้องไม่น้อยกว่า 405 เส้นจึงจะมองออกว่าภาพนั้นเป็นภาพอะไร นี่เองที่ทําให้มีการค้นคิดการสแกนภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์ มีการแข่งขันกันมากมายในช่วงนั้น เพราะมีการคิดจะเอาสิ่งประดิษฐ์นี้มาใช้เพื่อการค้ากันแล้ว คณะกรรมาธิการการสื่อสารของอังกฤษจึงต้องประกาศกําหนดมาตรฐานเมื่อปี พ.ศ. 2483 ให้โทรทัศน์เพื่อการค้าใช้ระบบภาพ 525 เส้น นอกนั้นให้ใช้ระบบ 441 เส้น
พ.ศ. 2495 ได้มีการกําหนดย่านความถี่ให้ส่งกันในย่านความถี่สูงมาก หรือ VHF (ย่อมาจาก Very High Frequency) มีช่องการส่ง 12 ช่อง ตั้งแต่ช่อง 2 ถึงช่อง 13 และกําหนดช่องความถี่เหนือสูงหรือ UHF (Ultra High Frequency) ให้มีได้ 70 ช่อง คือช่อง 14 ถึงช่อง 83 โดยทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันแต่เรื่องของความถี่เท่านั้นเอง ปี พ.ศ. 2519 จึงได้เกิดภาครับที่เรียกว่า ยูนิ-จูนเนอร์ (Uni-tuner) ซึ่งรับได้ทั้ง วีเอชเอฟ. และยูเอชเอฟ.

เจมส์ แอล แบร์ด (James L. Baird) วิศวกรอังกฤษได้เอาแผ่นกรองสี (Colour Filter) มาแยกสัญญาณสีได้สําเร็จโดยอาศัยจานหมุนแยกสี (ปี พ.ศ. 2471) ก่อให้เกิดความคิดในการแยกสัญญาณสีเพื่อส่งเป็นภาพสี ในที่สุดกรรมาธิการว่าด้วยระบบโทรทัศน์นานาชาติ หรือ NTSC (National Television System Committee) ยอมรับระบบของเอ็นบีซีซึ่งเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
 การนําเอาเรื่องของพลังงานแสงมาใช้นับเป็นวิธีการที่ไม่ต้องพึ่งพาหลักการทางเคมีและในช่วงเวลาดังกล่าวมีการค้นพบคลื่นวิทยุและการส่งวิทยุแล้วแอนดรูเมย์ (Andrew May) ชาวไอริชได้ค้นพบสารเซเลเนียมซึ่งมีคุณสมบัติในการเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า (เมื่อพ.ศ. 2416) ต่อมาอีกประมาณ 10 ปีพอลนิพโกว (Paul Nipkow) ชาวเยอรมันได้ค้นพบหลักการสแกนภาพที่ใช้ระบบจานหมุนกลายเป็นแนวความคิดให้นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสที่ชื่อว่าเอ็มเซนเลซก์ (M. Senlecg) สามารถประดิษฐ์กล้องถ่ายโทรทัศน์ที่ส่งภาพและเสียงออกไปได้เมื่อปีพ.ศ. 2432 ปีพ.ศ. 2440 คาร์ลเฟอร์ดินานด์บราวน์ (คาร์ลเฟอร์ดินานด์พละ) ได้ค้นพบหลอดภาพออสซิลโลสโคปและมีผู้นําเอาหลักการดังกล่าวไปผนวกเข้ากับโฟโตเซลล์นั่นเป็นก้าวแรกที่ทําให้เราเริ่มเห็นภาพในจอจึงมีการเริ่มพูดถึงการใช้หลอดภาพอิเล็กทรอนิกส์ในการสแกนภาพระบบดังกล่าวยังไม่ประสบความสําเร็จพ.ศ. 2468 ชาร์ลฟรานซิสเจงกินดื่มด่ำเจมส์ลอจีแบร์ดได้ทดลองเกี่ยวกับการส่งภาพเงาโดยไม่ใช้สายแล้วนําออกแสดงทั้งที่อังกฤษและสหรัฐอเมริกานี่เองที่เป็นก้าวที่คนทั่วไปได้สัมผัสกลไกของสิ่งที่เรียกว่าโทรทัศน์ การค้นคิดของนักประดิษฐ์ทั้งสองที่กล่าวมาแล้วใช้การสแกนภาพตั้งแต่ 30 ถึง 60 เส้นแต่อย่างไรก็แล้วแต่การรับรู้ถึงรายละเอียดภาพนั้นจะต้องไม่น้อยกว่า 405 เส้นจึงจะมองออกว่าภาพนั้นเป็นภาพอะไรนี่เองที่ทําให้มีการค้นคิดการสแกนภาพด้วยอิเล็กทรอนิกส์มีการแข่งขันกันมากมายในช่วงนั้นเพราะมีการคิดจะเอาสิ่งประดิษฐ์นี้มาใช้เพื่อการค้ากันแล้วคณะกรรมาธิการการสื่อสารของอังกฤษจึงต้องประกาศกําหนดมาตรฐานเมื่อปีพ.ศ. 2483 ให้โทรทัศน์เพื่อการค้าใช้ระบบภาพ 525 เส้นนอกนั้นให้ใช้ระบบ 441 เส้น พ.ศ. 2495 ได้มีการกําหนดย่านความถี่ให้ส่งกันในย่านความถี่สูงมากหรือ VHF (ความถี่สูงย่อมาจากมาก) มีช่องการส่ง 12 ช่องตั้งแต่ช่อง 2 ถึงช่อง 13 และกําหนดช่องความถี่เหนือสูงหรือ UHF (ความถี่สูงอุลตร้า) ให้มีได้ 70 ช่องคือช่อง 14 ถึงช่อง 83 โดยทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันแต่เรื่องของความถี่เท่านั้นเองปีพ.ศ. ๒๕๑๙ จึงได้เกิดภาครับที่เรียกว่ายูนิ-จูนเนอร์ (Uni-เครื่อง) ซึ่งรับได้ทั้งวีเอชเอฟ และยูเอชเอฟเจมส์แอลแบร์ด (James L. Baird) วิศวกรอังกฤษได้เอาแผ่นกรองสี (ตัวกรองสี) มาแยกสัญญาณสีได้สําเร็จโดยอาศัยจานหมุนแยกสี (ปีพ.ศ. 2471) ก่อให้เกิดความคิดในการแยกสัญญาณสีเพื่อส่งเป็นภาพสีในที่สุดกรรมาธิการว่าด้วยระบบโทรทัศน์นานาชาติหรือ NTSC (คณะกรรมการระบบโทรทัศน์แห่งชาติ) ยอมรับระบบของเอ็นบีซีซึ่งเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
 
แอนดรูเมย์ (แอนดรูพฤษภาคม) ชาวไอริชได้ค้นพบสารเซเลเนียม (เมื่อ พ.ศ. 2416) ต่อมาอีกประมาณ 10 ปีพอลนิพโกว (พอล Nipkow) เอ็มเซนเลซก์ (เอ็ม Senlecg) พ.ศ. 2432 ปี พ.ศ. 2440 คาร์ลเฟอร์ดินานด์บราวน์ (คาร์ลเฟอร์ดินานด์กล้ามเนื้อ) พ.ศ. 2468 ชาร์ลฟรานซิสเจงกินกับเจมส์ลอจีแบร์ด 30 ถึง 60 เส้น แต่อย่างไรก็แล้วแต่ 405 มีการแข่งขันกันมากมายในช่วงนั้น พ.ศ. 2483 ให้โทรทัศน์เพื่อการค้าใช้ระบบภาพ 525 เส้นนอกนั้นให้ใช้ระบบ 441 เส้นพ.ศ. 2495 หรือ VHF (ย่อมาจากความถี่สูงมาก) มีช่องการส่ง 12 ช่องตั้งแต่ช่อง 2 ถึงช่อง 13 และกําหนดช่องความถี่เหนือสูงหรือ UHF (ความถี่สูงพิเศษ) ให้มีได้ 70 ช่องคือช่อง 14 ถึงช่อง 83 ปี พ.ศ. 2519 จึงได้เกิดภาครับที่เรียกว่ายูนิ - จูนเนอร์ (Uni-จูนเนอร์) ซึ่งรับได้ทั้งวีเอชเอฟ และยูเอชเอฟ. เจมส์แอลแบร์ด (เจมส์ลิตรบาร์ด) วิศวกรอังกฤษได้เอาแผ่นกรองสี (กรองสี) (ปี พ.ศ. 2471) หรือ NTSC (คณะกรรมการแห่งชาติระบบโทรทัศน์)






การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
รึเปล่า
การนําเอาเรื่องของพลังงานแสงมาใช้นับเป็นวิธีการที่ไม่ต้องพึ่งพาหลักการทางเคมีและในช่วงเวลาดังกล่าวมีการค้นพบคลื่นวิทยุและการส่งวิทยุแล้วแอนดรูเมย์ ( Andrew May ) ชาวไอริชได้ค้นพบสารเซเลเนียม( เมื่อพ .ศ . 2416 ) ต่อมาอีกประมาณ 10 . พอลนิพโกว ( พอล นิพโกว์ ) ชาวเยอรมันได้ค้นพบหลักการสแกนภาพที่ใช้ระบบจานหมุนกลายเป็นแนวความคิดให้นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสที่ชื่อว่าเอ็มเซนเลซก์ ( ม.senlecg ) สามารถประดิษฐ์กล้องถ่ายโทรทัศน์ที่ส่งภาพและเสียงออกไปได้เมื่อปีพ . ศ . 2432

. พ . ศ .1708 คาร์ลเฟอร์ดินานด์บราวน์ ( คาร์ล เฟอร์ดินานด์ กล้ามเนื้อ ) ได้ค้นพบหลอดภาพออสซิลโลสโคปและมีผู้นําเอาหลักการดังกล่าวไปผนวกเข้ากับโฟโตเซลล์ระบบดังกล่าวยังไม่ประสบความสําเร็จพ .ศ . 2468 ชาร์ลฟรานซิสเจงกินกับเจมส์ลอจีแบร์ดได้ทดลองเกี่ยวกับการส่งภาพเงาโดยไม่ใช้สายแล้วนําออกแสดงทั้งที่อังกฤษและสหรัฐอเมริกานี่เองที่เป็นก้าวที่คนทั่วไปได้สัมผัสกลไกของสิ่งที่เรียกว่าโทรทัศน์
การค้นคิดของนักประดิษฐ์ทั้งสองที่กล่าวมาแล้วใช้การสแกนภาพตั้งแต่ 30 ถึง 60 เส้นแต่อย่างไรก็แล้วแต่การรับรู้ถึงรายละเอียดภาพนั้นจะต้องไม่น้อยกว่า 405 เส้นจึงจะมองออกว่าภาพนั้นเป็นภาพอะไรมีการแข่งขันกันมากมายในช่วงนั้นเพราะมีการคิดจะเอาสิ่งประดิษฐ์นี้มาใช้เพื่อการค้ากันแล้วคณะกรรมาธิการการสื่อสารของอังกฤษจึงต้องประกาศกําหนดมาตรฐานเมื่อปีพ .ศ . 2483 ให้โทรทัศน์เพื่อการค้าใช้ระบบภาพ 525 เส้นนอกนั้นให้ใช้ระบบ 441 เส้น
พ . ศ .และได้มีการกําหนดย่านความถี่ให้ส่งกันในย่านความถี่สูงมากค็อค ( ย่อมาจาก VHF ย่านความถี่สูงมาก ) มีช่องการส่ง 12 ช่องตั้งแต่ช่อง 2 ถึงช่อง 13 และกําหนดช่องความถี่เหนือสูงหรือ UHF ( ลูเครเชีย ) ให้มีได้ 70 ช่องคือช่อง 14 ถึงช่องโดยทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันแต่เรื่องของความถี่เท่านั้นเอง . พ .ศ . พ.ศ. 2519 จึงได้เกิดภาครับที่เรียกว่ายูนิ - จูนเนอร์ ( UNI จูนเนอร์ ) ซึ่งรับได้ทั้งวีเอชเอฟ . และยูเอชเอฟ

เจมส์แอลแบร์ด ( เจมส์ลิตรแบร์ด ) วิศวกรอังกฤษได้เอาแผ่นกรองสี ( กรองสี ) มาแยกสัญญาณสีได้สําเร็จโดยอาศัยจานหมุนแยกสี ( พ . . ศ .2471 ) ก่อให้เกิดความคิดในการแยกสัญญาณสีเพื่อส่งเป็นภาพสีในที่สุดกรรมาธิการว่าด้วยระบบโทรทัศน์นานาชาติค็อค NTSC ( คณะกรรมการระบบโทรทัศน์แห่งชาติ ) ยอมรับระบบของเอ็นบีซีซึ่งเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: