Discussion and ConclusionDespite th

Discussion and Conclusion

Despite this lengthy description linking neoliberal policy reforms with the riots, some people might argue that neoliberal reforms are not only restricted to Sweden, but are happening all across the world, especially in the other European countries. Despite the increase in inequality, Sweden still has the overall highest standard of living, and the level of inequality is still lower than in other industrialized countries, i.e. there is no economic reason for rioting. Since neoliberal policies are implemented across Europe, and riots are only taking place in Sweden, these neoliberal policies can not possibly have caused the riots. My counter-argument would be that riots are, of course, taking place in other countries, such as in France or Britain, which are also linked to angry immigrants and neoliberal policies. Secondly, and more importantly, the angry immigrants would be more likely to be angry in an economic environment that is hostile to them. It is certainly true that cultural arguments, such as ethnic discrimination in hiring and social relationships or even the unwillingness of the immigrants to undergo education and job training, contribute to the greater unemployment of immigrants. In fact, immigrants have been pushed into low-wage jobs (Schierup and Ålund 2011, 50). But if the condition of full employment held, as it did until the early 1990s (and especially in the post war decades between the 1950s to 1970s, when migrant workers were sought after to quell the labor shortages), the attendant labor shortages would have required Swedish firms to absorb the unemployed refugees in the labor market. On the other hand, in an environment where Swedish capitalists can shift their investments abroad and where unemployment is rising, the cards are stacked against the cultural outsiders, i.e. the immigrants and refugees, because the insiders, the native Swedes, will likely protect their own jobs before they involve immigrants. My objective, therefore, is not to prove that the high level of refugee intake has nothing to do with the riots. The discussion at the beginning quite clearly shows that having a large number of discontented refugees, who are socially excluded by segregation and unemployment, is a driver of riots, and that a more restrictive asylum policy would have prevented some of the tensions in the cities of Sweden. On the other hand, my discussion has also shown that long-run neoliberal policies have likely exacerbated the social problems, as a scarcity of jobs inevitably pit the lowest group of society, the refugees, against the rest of society. Mitigating the youth tensions will likely require not only policies that address their immediate problems, but a direct confrontation with the neoliberal policies that increase the economic insecurity of the most vulnerable parts of the population.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อภิปรายและสรุปแม้จะอธิบายยาวมากเชื่อมโยงการปฏิรูปนโยบาย neoliberal กับเกิก บางคนอาจโต้เถียงว่า ปฏิรูป neoliberal เท่านั้นไม่ถูกจำกัดสู่สวีเดน แต่เกิดขึ้นทั้งหมดทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศยุโรปอื่น ๆ แม้ มีการเพิ่มขึ้นของความไม่เท่าเทียมกัน สวีเดนยังคงมีสูงโดยรวมมาตรฐานการครองชีพ และระดับของความไม่เท่าเทียมกันยังคงต่ำกว่าในประเทศอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่นมีเหตุผลทางเศรษฐกิจสำหรับการจลาจล เนื่อง จากมีใช้นโยบาย neoliberal ทั่วยุโรป จลาจลเท่านั้นจะจัดขึ้นสวีเดน นโยบายเหล่านี้ neoliberal สามารถไม่อาจทำให้เกิดการจลาจลการ อาร์กิวเมนต์ของฉันซึ่งจะได้ว่า จลาจล แน่นอน จัดขึ้นประเทศอื่น ๆ เช่นในฝรั่งเศสหรือสหราชอาณาจักร ที่ยังเชื่อมโยงกับกรมธรรม์ neoliberal และโกรธนาน ประการที่สอง และที่ สำคัญ นานโกรธจะยิ่งโกรธในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับพวกเขา ได้แน่นอนจริงอาร์กิวเมนต์ที่วัฒนธรรม เช่นแบ่งแยกเชื้อชาติในการจ้าง และความสัมพันธ์ทางสังคมหรือแม้กระทั่ง unwillingness นานเพื่อรับการศึกษาและงานฝึกอบรม นำไปสู่การว่างงานมากขึ้นของผู้อพยพชาว ในความเป็นจริง อพยพได้ถูกผลักลงในงานค่าจ้างต่ำ (Schierup และ Ålund 2011, 50) แต่ ถ้าจัดสภาพการจ้างงานเต็ม มันไม่ได้จนถึงช่วงต้นทศวรรษ 1990 (และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสงครามประกาศ ทศวรรษระหว่างทศวรรษ 1950 เพื่อสาว ๆ เมื่อแรงงานข้ามชาติถูกหย่อนเพื่อ quell การขาดแคลนแรงงาน), การขาดแคลนแรงงานที่ผู้ดูแลจะมีต้องบริษัทสวีเดนซับผู้ลี้ภัยคนตกงานในตลาดแรงงาน บนมืออื่น ๆ ในสภาพแวดล้อมซึ่งนายสวีเดนสามารถเลื่อนการลงทุนต่างประเทศ และที่ว่างงานจะเพิ่มขึ้น บัตรจะซ้อนกับวัฒนธรรมนอก เช่นอพยพและผู้ลี้ภัย เนื่องจากบุคคลภายใน Swedes ดั้งเดิม จะมีแนวโน้มปกป้องงานของตนเองก่อนที่พวกเขาเกี่ยวข้องกับการอพยพ วัตถุประสงค์ของฉัน ดังนั้น เป็นการ พิสูจน์ว่า บริโภคผู้ลี้ภัยในระดับสูงได้จะเกิก การสนทนาที่ค่อนข้างชัดเจนแสดงว่า มีจำนวนมากของ discontented ผู้ลี้ภัย ผู้ถูกสังคมถูกแยกออก โดยการแบ่งแยกและการว่างงาน โปรแกรมควบคุมจลาจล และที่ลี้ภัยนโยบายเข้มงวดมากขึ้นจะได้ป้องกันของความตึงเครียดในเมืองของสวีเดน บนมืออื่น ๆ สนทนาของฉันได้แสดงว่า นโยบาย neoliberal-ยาวได้มีแนวโน้มเลวร้ายปัญหาสังคม เป็นขาดแคลนของงานย่อมหลุมกลุ่มต่ำของสังคม ผู้ลี้ภัย กับส่วนเหลือของสังคม บรรเทาความตึงเครียดอาจจะต้องไม่เฉพาะนโยบายอยู่ที่เยาวชนปัญหาทันที แต่เผชิญหน้าโดยตรงกับนโยบาย neoliberal ที่เพิ่มความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจของส่วนที่มีโอกาสเสี่ยงของประชากร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การอภิปรายและสรุปอย่างไรก็ตามเรื่องนี้มีความยาวคำอธิบายการเชื่อมโยงการปฏิรูปนโยบายเสรีนิยมใหม่ที่มีการจลาจลบางคนอาจจะเถียงว่าการปฏิรูปเสรีนิยมใหม่ไม่ได้ จำกัด เฉพาะกับสวีเดน แต่จะเกิดขึ้นทั่วโลกโดยเฉพาะในประเทศยุโรปอื่น ๆ แม้จะมีการเพิ่มขึ้นของความไม่เท่าเทียมกัน, สวีเดนยังคงมีมาตรฐานสูงสุดโดยรวมของที่อยู่อาศัยและระดับของความไม่เท่าเทียมกันจะยังคงต่ำกว่าในประเทศอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่นไม่มีเหตุผลทางเศรษฐกิจสำหรับความวุ่นวาย เนื่องจากนโยบายเสรีนิยมใหม่จะดำเนินการทั่วยุโรปและการจลาจลเป็นเพียงการที่เกิดขึ้นในประเทศสวีเดนนโยบายเสรีนิยมใหม่เหล่านี้ไม่อาจจะก่อให้เกิดการจลาจล เคาน์เตอร์อาร์กิวเมนต์ของฉันจะเป็นไปได้ว่าการจลาจลแน่นอนที่เกิดขึ้นในประเทศอื่น ๆ เช่นในประเทศฝรั่งเศสหรืออังกฤษซึ่งยังเชื่อมโยงกับผู้อพยพที่โกรธและนโยบายเสรีนิยมใหม่ ประการที่สองและที่สำคัญผู้อพยพโกรธจะมีแนวโน้มที่จะโกรธในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับพวกเขา แน่นอนมันเป็นความจริงที่การขัดแย้งทางวัฒนธรรมเช่นการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานชาติพันธุ์และความสัมพันธ์ทางสังคมหรือแม้กระทั่งความไม่เต็มใจของผู้อพยพจะได้รับการศึกษาและการฝึกอบรมงานนำไปสู่การว่างงานมากขึ้นของผู้อพยพ ในความเป็นจริงผู้อพยพได้รับการผลักดันให้เป็นงานที่ค่าแรงต่ำ (Schierup และÅlund 2011, 50) แต่ถ้าเงื่อนไขของการจ้างงานเต็มรูปแบบที่จัดขึ้นเป็นมันจนกระทั่งช่วงปี 1990 (และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในทศวรรษที่ผ่านมาหลังสงครามระหว่างปี 1950 ไป 1970 เมื่อแรงงานข้ามชาติถูกขอหลังจากที่จะระงับการขาดแคลนแรงงาน) การขาดแคลนแรงงานผู้เข้าร่วมประชุมจะต้องมีการ บริษัท สวีเดนในการดูดซับลี้ภัยว่างงานในตลาดแรงงาน ในทางกลับกันในสภาพแวดล้อมที่นายทุนสวีเดนสามารถเปลี่ยนการลงทุนในต่างประเทศและที่อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นบัตรจะซ้อนกันกับบุคคลภายนอกทางวัฒนธรรมเช่นผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเพราะภายในสวีเดนพื้นเมืองมีแนวโน้มที่จะปกป้องตัวเอง งานก่อนที่พวกเขาเกี่ยวข้องกับผู้อพยพ วัตถุประสงค์ของฉันจึงไม่ได้ที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าระดับสูงของการบริโภคผู้ลี้ภัยมีอะไรจะทำอย่างไรกับการจลาจล การอภิปรายที่จุดเริ่มต้นค่อนข้างชัดเจนแสดงให้เห็นว่ามีเป็นจำนวนมากของผู้ลี้ภัยไม่พอใจที่ได้รับการยกเว้นสังคมโดยการแยกและการว่างงานที่เป็นคนขับรถของการจลาจลและที่โรงพยาบาลมีนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นจะมีการป้องกันบางส่วนของความตึงเครียดในเมืองของ สวีเดน ในทางกลับกันการอภิปรายของฉันยังได้แสดงให้เห็นว่าในระยะยาวนโยบายเสรีนิยมใหม่มีแนวโน้มที่จะเลวร้ายปัญหาทางสังคมเช่นการขาดแคลนของงานอย่างหลีกเลี่ยงหลุมต่ำสุดของกลุ่มสังคมที่ผู้ลี้ภัยกับส่วนที่เหลือของสังคม บรรเทาความตึงเครียดเยาวชนมีแนวโน้มที่จะต้องมีนโยบายไม่เพียง แต่ที่แก้ปัญหาของพวกเขาทันที แต่การเผชิญหน้าโดยตรงกับนโยบายเสรีนิยมใหม่ที่เพิ่มความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจของชิ้นส่วนที่เปราะบางที่สุดของประชากร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อสรุปนี้

แม้จะยาวรายละเอียดการเชื่อมโยงการปฏิรูปนโยบาย neoliberal กับการจลาจล บางคนอาจจะเถียงว่า การปฏิรูป neoliberal ไม่เพียงเฉพาะสวีเดน แต่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศยุโรปอื่น ๆ . แม้จะมีการเพิ่มขึ้นของความไม่เท่าเทียมกัน , สวีเดนยังได้รวมสูงสุดมาตรฐานการครองชีพและระดับของความไม่เท่าเทียมกันยังคงต่ำกว่าในประเทศอุตสาหกรรมอื่น เช่น ไม่มีเศรษฐกิจเหตุผลสำหรับการจลาจล เนื่องจากนโยบาย neoliberal จะดําเนินการทั่วยุโรปและการจลาจลจะถ่ายสถานที่ในสวีเดน นโยบาย neoliberal เหล่านี้ก็ไม่อาจจะเกิดจลาจล อาร์กิวเมนต์เคาน์เตอร์ของฉันจะเป็นจลาจล แน่นอน เกิดขึ้นในประเทศอื่น ๆเช่น ฝรั่งเศส หรืออังกฤษ ซึ่งยังเชื่อมโยงกับผู้อพยพโกรธและ neoliberal นโยบาย ประการที่สองและที่สำคัญคือ ผู้อพยพโกรธที่จะมีแนวโน้มที่จะโกรธในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับพวกเขา มันเป็นจริงอย่างแน่นอนว่าวัฒนธรรมอาร์กิวเมนต์เช่นการแบ่งแยกชาติพันธุ์ในการเช่า และความสัมพันธ์ทางสังคม หรือแม้แต่ความไม่เต็มใจของผู้อพยพที่จะได้รับการศึกษาและการฝึกอบรมงาน มีส่วนร่วมมากขึ้น การว่างงาน ของผู้อพยพ ในความเป็นจริง ต้องอพยพถูกผลักเข้าไปในงานค่าจ้างต่ำ ( schierup กริพเพน Lund และ 2011 , 50 ) แต่ถ้าเงื่อนไขของการจ้างงานเต็มรูปแบบจัดมันไม่ได้จนกว่าช่วงต้นทศวรรษ 1990 ( และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการโพสต์สงครามทศวรรษระหว่างปี 1950 ถึง 1970 เมื่อแรงงานข้ามชาติถูกขอหลังจากกำราบการขาดแคลนแรงงาน ) , การขาดแคลนแรงงาน ผู้ดูแลจะต้องสวีเดนบริษัทดูดซับผู้อพยพว่างงานในตลาดแรงงาน บนมืออื่น ๆในสภาพแวดล้อมที่ สวีเดน นายทุนสามารถเปลี่ยนการลงทุนของต่างประเทศและที่อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้น ไพ่จะซ้อนกับบุคคลภายนอกทางวัฒนธรรม เช่น ผู้อพยพ และผู้ลี้ภัย เพราะวงใน , Swedes พื้นเมืองจะปกป้องงานของตัวเอง ก่อนที่พวกเขาจะเกี่ยวข้องกับผู้อพยพ วัตถุประสงค์ของฉัน ดังนั้นไม่ใช่เพื่อพิสูจน์ว่าระดับของการบริโภคผู้ลี้ภัยไม่เกี่ยวกับผู้ก่อจลาจล การเริ่มต้นที่ค่อนข้างชัดเจน แสดงให้เห็นว่ามีจำนวนมากไม่พอใจผู้ลี้ภัยที่สังคมแยกออกจากการว่างงาน คนขับเป็นจลาจล และนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นจะลี้ภัยป้องกันบางส่วนของความตึงเครียดในเมืองของสวีเดนบนมืออื่น ๆ , การสนทนาของฉันได้แสดงให้เห็นว่านโยบายระยะยาว neoliberal อาจ exacerbated ปัญหาทางสังคม เช่น ขาดแคลน ของงานย่อมหลุมกลุ่มต่ำสุดของสังคม , ผู้ลี้ภัย , กับส่วนที่เหลือของสังคม เยาวชนความตึงเครียดบรรเทาอาจจะต้องไม่เพียง แต่นโยบายที่แก้ไขปัญหาเร่งด่วนของพวกเขาแต่ตรงการเผชิญหน้ากับ neoliberal นโยบายที่เพิ่มความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจในส่วนที่อ่อนแอที่สุดของประชากร